วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ราว 4 จุด มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และพลังงาน แต่มีแรงขายมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก และธนาคาร โดยสภาพัฒน์ รายงาน GDP 3Q66 โต 1.5% ต่ำกว่าที่ตลาดคาด โตที่ 2.0-2.2% เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น

ประกอบกับนักลงทุนติดตามการประชุม FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,419.44 จุด +3.66 จุด +0.26% มูลค่าการซื้อขาย 37,421 ลบ. ต่างชาติ -1,405.09 ลบ. TFEX +3,894 สัญญา ตราสารหนี้ +1,383.50 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 203.76 จุด หรือ +0.58% ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากหุ้นไมโครซอฟท์ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังมีรายงานว่านายแซม อัลท์แมนที่ถูกปลดออกจากต่าแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท OpenAI จะเข้ามาร่วมงานด้วย
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ +2.3% ปิดที่ 77.60 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปคพลัสจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในการประชุมสัปดาห์หน้า
+ ปธน.โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐเชื่อว่ากำลังจะบรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวในฉนวนกาซา
+ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ลดลง 0.8% ในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 0.7% ในเดือนก.ย.
+/- แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 4/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ในไตรมาส 1, 2 และ 3 ตามลำดับ

ปัจจัยลบ

- สำนักข่าวนิกเกอิเอเชียรายงานว่า จีนกำลังเผชิญความยากลำบากในการพลิกฟื้นอัตราการเกิดที่ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการเกิดใหม่ของจีนจะลดลงมากกว่า 10% สู่ระดับต่ำกว่า 9 ล้านรายในปีนี้
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอินเดียซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกจะยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าวจนถึงปีหน้า ซึ่งทำให้ราคาข้าวพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 2551 ซึ่งเป็นปีที่เกิดวิกฤติอาหารโลก

 

- สศช.หรือสภาพัฒน์เปิดเผยว่า GDP 3Q66 ขยายตัว 1.5%YoY แต่ชะลอลงจาก 2Q66 ที่ขยายตัวได้ 1.8% เนื่องจากการส่งออกของไทยหดตัวต่อเนื่อง 3 ไตรมาส 9M66 GDP ขยายตัวเพียง 1.9% คาดทั้งปี 66 GDP ขยายตัว 2.5%
 

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น Sideway Up หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้มีแรงซื้อในสินทรัพย์เสี่ยง ประกอบกับมีแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,410-1,430 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลง : TIDLOR SAWAD MTC
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• MSCI Global Standard เข้า : - ออก : BGRIM EGCO RATCH MSCI Small cap เข้า : BGRIM EGCO RATCH ออก : ACE ASK KEX ONEE RAM SABUY TTA TFG VIBHA ใช้ราคาปิด 30 พ.ย.
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

GPSC (Bloomberg Consensus 59 บาท)
รายงานกำไร 3Q66 ดีกว่าคาด 10%

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Up

•รายงานกำไร 3Q66 เติบโต 441%YoY และ 479%QoQ โดยได้แรงหนุนจากโรงไฟฟ้า SPP ที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติและถ่านหินปรับตัวลง 24%QoQ และ 28%QoQ ตามลำดับ สู่ 339 บาท/MMBTU และ 225 ดอลลาร์ต่อตัน และส่วนแบ่งจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีเพิ่มขึ้นจาก 2Q66 เนื่องจากเป็น High season อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าพลังลม CFXD ในไต้หวันมีส่วนแบ่งขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนกังหันที่ติดตั้งเพิ่มสู่ 12 ต้น

ความเห็น คาดผลประกอบการ 4Q66 ยังถูกกดดันจากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่ลดลงจากผ่านช่วง High Season และไม่มีเงินปันผลจาก RPC อย่างไรก็ตามมี Upside จากราคาเหมาะสม 37% เราจึงแนะนำ ซื้อ และคาดว่าค่าไฟฟ้ามีโอกาสปรับขึ้นใน 1Q67 ตามราคาเชื่อเพลิง และ GPSC อยู่ใน SETESG

 

หุ้นมีข่าว

(+) BCH (Bloomberg consensus 23.00 บาท) มั่นใจไตรมาส 4/2566 โตต่อเนื่อง ไข้หวัดใหญ่ระบาด ต่างชาติเพิ่มต่อเนื่องปีนี้เกิน 1.2 แสนราย รายได้ปีนี้ตามเป้า 1.25-1.3 หมื่นล้านบาท ปีหน้าโตต่อไม่ต่ำกว่า 10% โอกาสเพิ่มโควตาประกันสังคมไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นราย ขยาย-ปรับปรุงโรงพยาบาลปีหน้าพรึ่บ เริ่มสร้าง "รพ.เกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ“ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BGC (Bloomberg consensus 8.20 บาท) คาดแนวโน้มผลดำเนินงานปีหน้า ยังมีการเติบโตตามความต้องการขวดแก้วและบรรจุภัณฑ์ดีขึ้น จับตาต้นทุนดอกเบี้ย ค่าไฟ รวมถึงค่าแรงที่จะปรับขึ้น เล็งซื้อกิจการ-ร่วมทุนกับพันธมิตร ต่อยอดธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร รวมถึงขยายฐานลูกค้าเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BEC (Bloomberg consensus 5.45 บาท) รับอานิสงส์ "พรหมลิขิต-ธี่หยด" หนุนโค้งท้ายแกร่ง ผู้บริหาร "พิริยดิส ชูพึ่งอาตม์" ปรับโมเดลธุรกิจขยายภาพยนตร์-รีรันละคร หวังลดต้นทุน-หนุนโตระยะยาว พร้อมวางหมากปี 2567 ปั้นภาพยนตร์ใหม่ 4 เรื่อง หลังเรื่องแรกของปีนี้ประสบความสำเร็จ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ASIMAR (Bloomberg consensus - บาท) คาดแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 4/2566 โตต่อเนื่อง หนุนรายได้ทั้งปี 2566 เติบโต 20% ตามแผน จากการฟื้นตัวของดีมานด์งานซ่อมเรือสถานการณ์ดีขึ้นหลังเปิดประเทศ เศรษฐกิจเริ่มฟื้น รวมทั้งเพิ่งได้รับงานใหญ่จากกองทัพเรือ งานต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ มูลค่ากว่า 885 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)