วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดมีโอกาสฟื้นตัวจากเงินเฟ้อที่ชะลอ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ตลาดมีโอกาสฟื้นตัวจากเงินเฟ้อที่ชะลอ

เงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ชะลอตามคาด ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรเริ่มปรับลงต่อ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นทั้ง 3 ดัชนี ขณะที่ Nasdaq +2.37% หลังสหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อ ต.ค. +0.0% MoM และ +3.2% YoY (ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ +0.1% MoM และ +3.3% YoY)

นอกจากนี้ไส้ในของเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในหลายมิติ ทำให้นักลงทุนมองโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ น่าจะปิดลงแล้ว และนักลงทุนคาดเฟดจะคงดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งหน้า 13 ธ.ค.66 และ 31 ม.ค.67 ที่ 99.8% และ 97.8% ตามลำดับ ปัจจัยดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองการลงทุนของเราที่ประเมินตลาดหุ้นช่วงปลายปีต่อต้นปีมีโอกาสฟื้นจากเงินเฟ้อที่ชะลอ (Disinflation) นอกจากนี้ การที่ญี่ปุ่นรายงาน GDP ไตรมาส 3/66 ที่ -2.1% ชะลอลงจาก ไตรมาสก่อนที่ +2.7% และแย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะเติบโต +0.6% เป็นปัจจัยบวกต่อจิตวิทยาของสินทรัพย์เสี่ยงเช้าวันนี้ เนื่องจาก ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงอาจจะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประวิงเวลาในการถอนนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นพิเศษ (ultra-easy monetary policy)
 

กลุ่มไวต่อดอกเบี้ย มีโอกาสฟื้นตัว มองการเงินมีโอกาสเคลื่อนไหวดีกว่าโรงไฟฟ้า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงแรงราว 20bps (พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี ลดจาก 4.65% เหลือ 4.45%) คาดทำให้หุ้นกลุ่มไวต่อดอกเบี้ยฟื้นตัวได้ดี อาทิ การเงิน, โรงไฟฟ้า, สื่อสาร เป็นต้น อย่างไรก็ตามเรามองกลุ่มการเงินมีโอกาสเคลื่อนไหวดีกว่าโรงไฟฟ้า เนื่องจาก 1) ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการช่วยลูกหนี้, การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และการสนับสนุนเงินให้เกษตรกร 2) ไตรมาส 4/66 เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ส่งผลบวกต่อกำลังซื้อและการบริโภค 3) กลุ่มโรงไฟฟ้าเข้าสู่ช่วงผลประกอบการชะลอตัวไตรมาส 4/66 ทั้งจากปัจจัยฤดูกาลและผลกระทบจากการปรับลดค่า Ft ที่ผ่านมา 4) หุ้นโรงไฟฟ้าอย่าง BGRIM, EGCO และ RATCH ถูกปรับออกจากการคำนวณดัชนี MSCI Global Standard
 

ภาพรวมกลยุทธ์ เงินเฟ้อที่ชะลอทำให้หุ้นน่าจะเริ่มเดินหน้าตามคาดการณ์ของเราที่ประเมินภาพใหญ่ตลาดช่วงปลายปีต่อต้นปีน่าจะฟื้น จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลงจากเงินเฟ้อที่ชะลอลงต่อเนื่อง 

หุ้นแนะนำ: TIDLOR*, MTC*, PTT*, MENA*

แนวรับ: 1,377 / แนวต้าน : 1,400-1,415 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

สหรัฐเผยดัชนี CPI +3.2% เดือนต.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์ - ดัชนี CPI ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.7% ในเดือนก.ย. (อินโฟเควสท์)  

GDP ญี่ปุ่นใน Q3/66 ลด 2.1% แย่กว่าคาดการณ์ เหตุภาคธุรกิจลดใช้จ่าย - ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าอาจลดลงเพียง 0.6% และเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส (อินโฟเควสท์)

 


 

บลูมเบิร์กตีข่าวไทยผลักดันโครงการ Landbridge เมินข้ามช่องแคบมะละกา –  ไทยกำลังผลักดันโครงการ Landbridge มูลค่า 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยลดเวลาในการขนส่งสินค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิกได้อย่างมากด้วยการเลี่ยงช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งทางทะเลที่มีความคับคั่งมากที่สุดของโลก (อินโฟเควสท์)  

คลังตั้งกองทุน TESG ลงทุนหุ้นยั่งยืน ลดหย่อนภาษีสูงสุด 1 แสนบาท - คลังเคาะออกกองทุน TESG ออมหุ้น-ตราสารหนี้ยั่งยืน ลดหย่อนภาษี 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท ถือครอง 8 ปีเต็ม คาดเริ่ม ธ.ค. นี้ (ฐานเศรษฐกิจ)

MSCI ประกาศปรับน้ำหนักลงทุนรอบ 14 พ.ย. 66 มีผล 30 พ.ย. 66 ดัชนี Global Standard – หุ้นเข้า : ไม่มี/ หุ้นออก :

BGRIM, EGCO, RATCH // ดัชนี Global Small Cap – หุ้นเข้า BGRIM, EGCO, RATCH / หุ้นออก : ACE, ASK, KEX, ONEE, RAM, SABUY, TFG, TTA, VICHA

 

ประเด็นติดตาม: 15 พ.ย. -US Core Retail Sales, US Philadelphia Fed Manufacturing Index / 16 พ.ย. - US Building Permits / 17 พ.ย. - EU Core CPI / 21 พ.ย. - US Existing home sales / 22 พ.ย. - US Core durable good orders

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)