วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ติดตามประชุมเฟด

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ติดตามประชุมเฟด

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง ลงต่ำสุดราว -17 จุด แรงขายหลักมาจากหุ้น Big Cap. ทั้งหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ตลาดหุ้นปรับตัวลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยนักลงทุนติดตามการประชุม Fed ของสหรัฐฯ ในวันที่ 19-20 ก.ย. นี้

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,527.57 จุด -14.46 จุด -0.94% มูลค่าการซื้อขาย 42,567 ลบ. ต่างชาติ -2,567.80 ลบ. TFEX -20,160 สัญญา ตราสารหนี้ -2,031.59 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด +0.02% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟด ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณในสภาคองเกรสสหรัฐ
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ +0.8% ปิดที่ 91.48 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. 2565 ได้แรงหนุนจากคาดการณ์อุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัวหลังจากรัสเซียและซาอุดีอาระเบียขยายเวลาการปรับลดการผลิตน้ำมันจนถึงสิ้นปีนี้ รวมทั้งรายงานการผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในสหรัฐปรับตัวลดลง
+ แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.9% ในไตรมาส 3/2566 หลังจากมีการขยายตัว 2.0% และ 2.1% ในไตรมาส 1 และ 2 ตามลำดับ
+ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค. 2566) ว่าไทยส่งออกข้าวปริมาณ 5.36 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 12.37%YoY คิดเป็นมูลค่า 3,008 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21.78%YoY หรือประมาณ 102,349 ล้านบาท
+ ครม.เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 67 วงเงินงบประมาณฯ ที่ 3.48 ล้านล้านบาทเพิ่มจากปี 66 จำนวน 1.3 แสนล้านบาท การเพิ่มขึ้นของงบประมาณส่วนใหญ่เป็นงบฯ ด้านการลงทุน
+ สภาพัฒน์ยืนยันเศรษฐกิจโตแตะ 3% ตามเป้าลุ้นผลมาตรการกระตุ้น-เร่งเครื่องส่ง ออกหนุน

ปัจจัยลบ  

- สหรัฐรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านปรับตัวลง 5 จุด สู่ระดับ 45 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงมุมมองลบของกลุ่มผู้สร้างบ้าน
- กระทรวงกลาโหมไต้หวัน เปิดเผยว่า กองทัพจีนส่งเครื่องบินรบจำนวน 103 ลำมุ่งหน้ามายังเกาะไต้หวันภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงมากที่สุดนับตั้งแต่มีการเริ่มบันทึกสถิติรายวันเมื่อไม่นานมานี้

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด นักลงทุนยังติดตามการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 ก.ย. อย่างใกล้ชิด ขณะที่ตามราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูง พยุงหุ้นกลุ่มพลังงาน กรอบดัชนีในวันนี้ 1,520-1,535 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น mai ได้ประโยชน์จากนโยบายฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว : SPA AU D RP
• ราคาน้ำตาลปรับตัวขึ้น : KBS KSL KTIS BRR
• มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล : TNP KK CPALL CPAXT STEC CK ITD
• ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น : PTTEP PTT BCP TOP
• หุ้นเสียประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : GPSC BGRIM EA SSP • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากลดค่าไฟฟ้า : CPALL CRC HMPRO

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

PJW (ราคาเหมาะสม 7.00 บาท)
คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโต HoH

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ติดตามประชุมเฟด

• คาดผลประกอบการปี 2H23 เติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก หลังรัฐบาลชุดใหม่ประกาศนโยบาย Free visa ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวชัดเจน ส่งผลเชิงบวกต่อสินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งน้ำมันหล่อลื่นและนมเปรี้ยว กลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ได้แรงหนุนจากนิวโมเดลเข้ามามากขึ้น หลังจากที่ต้องเลื่อนออกไปจากสถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลนในช่วงที่ผ่านมา สำหรับธุรกิจ Laundry ที่บริษัทยังได้เข้าซื้อธุรกิจในช่วงปลายปี 22 ที่ผ่านมา คาดว่าจะสามารถ Break Even ได้ภายในปีนี้ เราประมาณการรายได้และกำไรสุทธิปี 23 ราว 3,671.9 ล้านบาท และ 188.2 ล้านบาท เติบโต +9.9%YoY และ +125.4%YoY ตามลำดับ

ความเห็น : เรามองว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 22 ที่ผ่านมา ประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 5 ปีที่ระดับ 21 เท่า ได้ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 7.00 บาท คงคาแนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) SAMART (Bloomberg consensus - บาท) รัฐบาลใหม่เร่งงาน ลั่นทรานส์ฟอร์มเป็นโอกาสรับงานอื้อ ขณะที่ธุรกิจเก็บภาษีเบียร์โดดเด่น ตลาดคึกคัก มีผู้เล่นมากขึ้น เตรียมรับบูมใหญ่ท่องเที่ยว จับตาเก็บภาษีแอลกอฮอล์อื่น แย้มไอพีโอ SAV มาแรง จองล้น ทำ SAMART รับประโยชน์ ชูไซเลนต์พีเรียด 100% ด้าน SAMTEL เตรียมประมูลงานหลายพันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPN (Bloomberg consensus 81.00 บาท) ส่งซิกครึ่งหลังปี 2566 ฟอร์มแจ่ม รายได้ค่าเช่าพุ่งพอร์ตลูกค้าโต-อสังหา พร้อมปักหมุดปีนี้รายได้ทะยาน 30% เก็บเกี่ยวค่าเช่าเต็มพิกัด จ่อเปิดห้างใหม่ขนาดพื้นที่ 3.2 หมื่นตารางเมตร ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ หนุนผลงานโตต่อเนื่อง ล่าสุดรุกธุรกิจโรงแรม GO! Hotel เจาะฐานอีอีซี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CENTEL (Bloomberg consensus 52.50 บาท) รับประโยชน์ลดค่าไฟฟ้าเหลือหน่วยละ 3.99 บาท ช่วยลดต้นทุนพลังงานที่คิดเป็น 5-6% ของรายได้ธุรกิจโรงแรม เผย Q4/2566 ไฮซีซันท่องเที่ยว เผยมียอด Booking แล้ว 30% แถมโอกาสนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเพิ่มจากการกระตุ้นของรัฐ คาดอัตราเข้าพักเกิน 70% เดินหน้าขยายโรงแรม เตรียมเปิดมัลดีฟส์เพิ่มอีก 2 แห่ง ส่วนธุรกิจร้านอาหารเติบโตดี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PRM (Bloomberg consensus 8.40 บาท) รับอานิสงส์น้ำมันขาขึ้น หนุนดีมานด์โลจิสติกส์ทะลัก พร้อมเล็งศึกษาเรื่องจ่ายปันผลระหว่างกาล คาดชัดเจนหลังประกาศงบ Q3/2566 ผู้บริหาร "วิริทธิ์พล จุไรสินธุ์" ตอกย้ำปี 2566 รายได้เติบโต 10% จากปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว (ที่มา ทันหุ้น)