วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ระวังการปรับฐานตลาดต่างประเทศ

ขณะที่ในระยะสั้น มีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น 1) การส่งสัญญาณนโยบายการตึงตัวที่อาจยาวนานกว่าคาดของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังตัวเลขเศรษฐกิจยังค่อนข้างแข็งแกร่ง 2) ความเสี่ยงที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น อาจปรับโทนของการดำเนินนโยบาย ซึ่งจะกระทบต่อธุรกรรม Yen Carry Trade ทำให้อาจมีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยงมาคืนเงินกู้สกุลเยน 3) สถานการณ์ทางเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวในอัตราที่ช้ากว่าคาด และปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่อาจลุกลามหลังล่าสุด Evergrand ประกาศล้มละลาย

 

แม้ความชัดเจนการเมืองดีกับหุ้น แต่เราลดความคาดหวังผลบวกต่อตลาดลง เนื่องจากอำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทยที่ลดลงอย่างมากโดยเฉพาะเมื่อพรรคก้าวไกลประกาศไม่สนับสนุนแคนดิเดตนายหรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ส่งผลให้การต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลและส.ว.เป็นไปโดยลำบาก การแย่งกระทรวงสำคัญทำให้การบริหารทีมเศรษฐกิจอาจเป็นไปโดยไม่มีเอกภาพ ที่สำคัญ เริ่มมีสัญญาณความเสี่ยงที่นายกรัฐมนตรีอาจจะไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อนโยบายสำคัญๆ ที่หาเสียงไว้ ไม่ว่าจะเป็นค่าแรงขั้นต่ำ หรือดิจิตอลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นต้น

 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังระวังแรงกดดันจากการขายทำกำไรในตลาดหุ้นโลกอาจมากระทบบรรยากาศลงทุนหุ้นไทย กลุ่มทีน่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการจะออกมาดี 3) กลุ่มอิงภายนอกที่ดีต่อในครึ่งหลังมีแค่พลังงานต้นน้ำและโรงกลั่น ขณะที่ปิโตรเคมีจะแย่ยาว ทำให้เหมาะแค่การเก็งกำไร 

หุ้นแนะนำ: CPN*, CPF*, PTG*, SKY*

แนวรับ: 1,500-1,515 / แนวต้าน : 1,535-1,545 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ดัชนี LEI ส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย – โดยลดลง 0.4% ในเดือนก.ค. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 0.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากเงินเฟ้อ การใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัว และการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล

Evergrande ยื่นขอคุ้มครองล้มละลาย – ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศจีน ยื่นคำร้องล้มละลายต่อศาลในนครนิวยอร์ก หลังประสบปัญหาอย่างหนักในการจ่ายหนี้เงินกู้ ซึ่งพุ่งขึ้นแตะ 2.437 ล้านล้านหยวน เมื่อสิ้นปี 2022 ที่ผ่านมา หรือคิดเป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศจีน 
 

AIS ขายสินทรัพย์ เข้ากอง JASIF - AIS เตรียมขายสินทรัพย์กว่า 5 หมื่นล้านบาท ทั้งเสาโทรคมนาคม ระบบใยแก้วนำแสง และบรอดแบนด์ เข้ากองทุน JASIF เป็นทางเลือกแรก หลังบอร์ดกสทช. อนุญาตควบรวมกิจการ 3BB เดือน ก.ย.นี้ ดันสินทรัพย์กองทุนพุ่งแตะ 1.44 แสนล้านบาท มั่นใจประชุมผู้ถือหน่วย JASIF 23 ส.ค.นี้ กองทุน-กัลฟ์ฯ โหวตผ่านฉลุย พร้อมเดินหน้าเจรจา BBL ลดดอกเบี้ยและยืดหนี้ หลังเปลี่ยนสปอนเซอร์รายใหม่

BRR โลกร้อนดันราคาน้ำตาลสูง - ธุรกิจน้ำตาล ครึ่งหลังแนวโน้มไปได้สวย จากราคาน้ำตาลที่ทรงตัวระดับสูง และค่าเงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าต่อ บวกกับอินเดียตั้งรับสถานการณ์ภัยแล้ง คาดจำกัดการส่งออกน้ำตาล ดันราคาน้ำตาลโลกพุ่ง ประเมินปี 2024 มั่นใจปีทองธุรกิจ หนุนจากปริมาณผลิตอ้อยได้ตามเป้า อวด 6 เดือน แรกปีนี้กำไร 360.14 ล้านบาท 

หุ้นที่น่าสนใจทางเทคนิค: TCAP, DMT, ERW, BCH, BJC, BA, MC, AUCT

 

ประเด็นติดตาม: 18 ส.ค. – EU CPI/ 20 ส.ค. – TH GDP/ 22 ส.ค. – US Exitsting Home Sales/ 23 ส.ค. – EU HCOB PMI, US Building Permits, New Home Sales, S&P Global PMI

 (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)