ราคาทองคำโลก วันนี้ ทำสถิติใหม่ ทะลุ 3,800 ดอลลาร์แล้ว หวั่นสหรัฐชัตดาวน์

ราคาทองคำโลก วันนี้ ทำสถิติใหม่ ทะลุ 3,800 ดอลลาร์แล้ว หวั่นสหรัฐชัตดาวน์

ราคาทองคำโลก ราคาทองคำ วันจันทร์ พุ่งสูงสุดทุบสถิติใหม่ ทะลุ 3,800 ดอลลาร์ ตลาดเก็งเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อ คาดสหรัฐเจอภาวะ 'ชัตดาวน์' รอบใหม่วันอังคารนี้

ราคาทองคำโลก วันนี้ ราคาทองคำ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบใหม่ทะลุ 3,800 ดอลลาร์ต่ออนซ์ ระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อวันจันทร์ที่ 29 ก.ย. โดยความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้นจากความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์ทางการคลังในสัปดาห์นี้ และตลาดเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ราคาทองตลาดปลอต (Spot gold) พุ่งขึ้นไปทำสถิติใหม่ที่ 3,812.0 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าตลาดสหรัฐงวดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 3,839.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทั้งนี้ รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสี่ยงเผชิญกับภาวะชัตดาวน์ทางคลังหลังพ้นเที่ยงคืนวันอังคารที่ 30 ก.ย. นี้ตามเวลาในสหรัฐ หากสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงเรื่องร่างงบประมาณรายจ่ายฉบับใหม่ได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การปลดพนักงานรัฐบาลอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรลงมติอย่างฉิวเฉียดผ่านร่างกฎหมาย(ระยะสั้น) ที่จะให้งบประมาณแก่รัฐบาลจนถึงปลายเดือนพ.ย. 2568 และเพิ่มงบประมาณหลายล้านดอลลาร์สำหรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสมาชิกสภานิติบัญญัติและเจ้าหน้าที่อื่นๆ แต่พรรคเดโมแครตได้ขัดขวางมาตรการดังกล่าวในวุฒิสภา และกำลังเรียกร้องให้มีการเจรจาร่วมกันระหว่างพรรคเกี่ยวกับงบประมาณด้านสาธารณสุข

ประธานาธิบดีทรัมป์ มีแผนจะเรียกประชุมบรรดาแกนนำสภาคองเกรสที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายก่อนการประชุมวุฒิสภาในวันอังคาร

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์เคยเผชิญภาวะชัตดาวน์ทางการคลังมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีวาระแรก โดยการเป็นอัมพาตทางการคลังไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามปกตินั้น เกิดขึ้นสองครั้งในปี 2018 กินระยะเวลาหลายชั่วโมง และอีกครั้งเกิดขึ้นในปี 2019 เป็นเวลานานถึง 35 วัน และส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าราว 3 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 0.02% ของจีดีพี จากการประเมินของสำนักงบประมาณสภาคองเกรส 

การเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ของราคาทองในครั้งนี้ยังได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ออ่นค่าลง โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.2% เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงิน ท่ามกลางการคาดหวังว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมสองครั้งที่เหลือของปีนี้ 

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 ก.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่บวก 0.2% เมื่อเดือนก.ค. เป็นไปตามการคาดการณ์ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์ส

ไคล์ ร็อดดา นักวิเคราะห์ของ Capital.com กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำให้ตลาดเชื่อว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนตุลาคมและธันวาคม 

“ความเชื่อมั่นมีแนวโน้มเป็นบวกอย่างมาก และเรากำลังอยู่ในเส้นทางที่จะทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ตลาดทองคำอยู่ใน 'สถานะซื้อ' ค่อนข้างมากในขณะนี้ และอาจเป็นเหตุผลที่ควรระวังเกี่ยวกับแนวโน้มขาขึ้นในอนาคต”

ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ระบุว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดการณ์ว่ามีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนต.ค. และมีโอกาสประมาณ 65% ที่จะปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค.