สตาร์บัคส์ เน้นความยั่งยืน ชวนลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว ลดขยะภายในปี 2573

สตาร์บัคส์ เน้นความยั่งยืน ชวนลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว ลดขยะภายในปี 2573

สตาร์บัคส์ เปิดตัวแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES สนับสนุนให้ลูกค้าในด้านความยั่งยืน ด้วยการนำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้านสตาร์บัคส์ทั่วประเทศ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของสตาร์บัคส์ที่จะลดขยะลงครึ่งหนึ่งภายในปี พ.ศ. 2573

เนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ได้ทุ่มเทให้กับการดำเนินการตามคำมั่นสัญญาด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสิ่งแวดล้อมและโลก และมุ่งมั่นที่จะ ใหคืนกลับ ได้มากกว่าที่เรารับมา ขณะที่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้น้ำ และขยะลง 50% ภายในปี พ.ศ. 2573 ซึ่งได้เห็นถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของทุกคนในการเดินทางครั้งนี้ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกได้อย่างแน่นอน” 

มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ไปพร้อมกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง: สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ขอเชิญชวนให้ลูกค้าทุกท่านเข้าร่วมในแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES. ด้วยการเลือกทำสิ่งเล็กๆ ที่จะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ เช่น การเลือกใช้แก้ว ForHere เมื่อสั่งเครื่องดื่มเพื่อดื่มในร้าน หรือใช้แก้วส่วนตัว (Personal Cup) เมื่อสั่งเครื่องดื่มกลับบ้าน เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญให้กับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ลูกค้าจะได้รับส่วนลด 10 บาทเมื่อนำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้าน โดยแบรนด์ได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตของการใช้แก้วส่วนตัวกว่า 50% หรือกว่า  3 ล้านแก้วภายในปี พ.ศ. 2567 นี้ 

สตาร์บัคส์ เน้นความยั่งยืน ชวนลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว ลดขยะภายในปี 2573
 

ทั้งนี้สตาร์บัคส์มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินงานตามคำมั่นสัญญาของแบรนด์ต่อพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) ลูกค้า ชุมชน ชาวไร่กาแฟ และโลกของเรา ผ่านกาแฟทุกๆ แก้ว โดยแคมเปญ LITTLE CHOICES. BIG CHANGES. ถือเป็นวาระที่สำคัญต่อเป้าหมายด้านความยั่งยืนของสตาร์บัคส์ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้น้ำ และขยะลง 50% ภายในปี 2573 

และในปีนี้ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ตั้งเป้าลดขยะใช้ครั้งเดียวทิ้ง (เช่น แก้วพลาสติก) ลง 50%  ด้วยการมอบส่วนลด  10 บาทสำหรับลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาใช้ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศทั้งนี้ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2541 ที่สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวในประเทศไทย ลูกค้าสตาร์บัคส์มีส่วนร่วมในการลดขยะแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งไปแล้วกว่า 29 ล้านใบจากการใช้แก้วส่วนตัว

นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวโปรแกรม Grounds for Your Garden เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกากกาแฟที่สตาร์บัคส์กลับไปผสมดินเพื่อปลูกต้นไม้หรือทำสวนที่บ้านได้ โดยในปี พ.ศ. 2566 สตาร์บัคส์ได้แจกกากกาแฟไปแล้วกว่า 4,000 กิโลกรัมทั่วประเทศ นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ร้านกาแฟของสตาร์บัคส์ในประเทศไทยยังได้รับการรับรองเป็นร้านกาแฟสีเขียว หรือ Greener Stores จำนวน 12 สาขา โดย Greener Stores คือร้านกาแฟของสตาร์บัคส์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ควบคุมด้วยระบบการบริหารจัดการพลังงานที่จัดเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อการคงสถานะการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด รวมไปถึงการระบุการใช้พลังงานที่บกพร่อง เพื่อปรับปรุงการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นในครั้งต่อไป



 

จุฑาทิพย์ เก่งมานะ ผู้จัดการด้านผลกระทบทางสังคมและความยั่งยืน กล่าวว่า เพื่อขับเคลื่อนสตาร์บัคส์ในการผลักดันเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมด้วยกลยุทธ์ที่ออกแบบสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ 

สตาร์บัคส์ เน้นความยั่งยืน ชวนลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว ลดขยะภายในปี 2573

พาร์ทเนอร์และโครงการเพื่อความยั่งยืนของสตาร์บัคส์

ผลักดันเป้าหมายที่จะลดการใช้พลาสติกในการดำเนินงานประจำวันภายในร้าน โดยสนับสนุนให้ลูกค้าและพาร์ทเนอร์มีส่วนร่วมในหลักปฏิบัติความยั่งยืน ซึ่งรวมถึง การเลือกใช้ถุงกระดาษและทิชชู่ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล ตลอดจนการรณรงค์ไม่รับมีดส้อมพลาสติก   ในการเปลี่ยนกากกาแฟให้เป็นสิ่งของและเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้งานภายในร้าน เช่น ที่รองแก้ว ถาดและโต๊ะกาแฟ เพื่อเน้นย้ำประสบการณ์ ร้านกาแฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (eco-friendly)   นอกจากนี้ ทีมงานของสตาร์บัคส์ยังได้ร่วมกิจกรรม World Water Day เป็นประจำทุกปี และได้สร้าง Aqua Towers ไปแล้วถึง 5 โครงการ เพื่อส่งมอบน้ำสะอาดให้ชุมชนที่ต้องการ 

การสนับสนุนชาวไร่กาแฟและชุมชน

ดูแลและพัฒนาชุมชนชาวไร่กาแฟทั่วโลก โดยในประเทศไทย สตาร์บัคส์ได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Foundation  หรือ ITDF) เพื่อสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแบบรอบด้านกับชุมชนชาวไร่กาแฟทางภาคเหนือของไทยตามปณิธานของแบรนด์ ด้วยการพัฒนาด้านต่างๆ อาทิ การสร้างโรงเรียน การดูแลด้านสาธารณสุขและความเป็นอยู่ที่ดี รวมไปถึงการจัดอบรมเรื่องกาแฟให้กับผู้เกี่ยวข้องเพื่อการเพาะปลูกเมล็ดกาแฟคุณภาพตามมาตรฐาน และการรับซื้อกาแฟตามหลักการ C.A.F.E. Practices ได้อย่างยั่งยืน