เกษตรฯ เร่งแผน หยุดเผาตอซัง ข้าว - ข้าวโพด - อ้อย ป้อง PM2.5

เกษตรฯ เร่งแผน หยุดเผาตอซัง ข้าว - ข้าวโพด - อ้อย ป้อง PM2.5

กระทรวงเกษตรฯ เตรียมรับมือฤดูหมอกควัน วางแนวทางการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่ต้นเหตุทั้งข้าว ข้าวโพด และอ้อย หวังแก้ไขปัญหา PM 2.5 เคาะ ให้สิทธิพิเศษ เกษตรกร

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ภาคการเกษตร ว่า   ได้พิจารณาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่ต้นเหตุทั้งข้าว ข้าวโพด และอ้อย โดยได้ถอดบทเรียน ปัญหาอุปสรรคจากการดำเนินงานปีที่ผ่านมา และนำมาพิจารณาประกอบการกำหนดแนวทางการดำเนินงานของปีนี้

เกษตรฯ เร่งแผน หยุดเผาตอซัง ข้าว - ข้าวโพด - อ้อย ป้อง PM2.5

พร้อมชี้แจงสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง PM.2.5 ในปัจจุบัน รวมถึงการสรุปสถานการณ์การเผาในพื้นที่การเกษตรทั้งหมด และการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปี 2565/66 ทั้งปัญหาและอุปสรรคของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล

กระทรวงเกษตรฯ วางแนวทางการป้องกันและแก้ปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ปี 2566/67 ดำเนินการเชิงรุกผ่านหลักดำเนินการ 3R ประกอบด้วย

1. Re-Habit : ส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปลูกพืชเป็นการปลูกแบบไม่เผา ภายใต้มาตรฐาน GAP PM2.5 Free

2. Replace with perennial crops : ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนชนิดและวิธีการปลูกพืชบนพื้นที่สูง จากพืชที่ยังใช้ระบบการเผา เช่น ข้าวโพด เป็นไม้ผล ไม้ยืนต้น

เกษตรฯ เร่งแผน หยุดเผาตอซัง ข้าว - ข้าวโพด - อ้อย ป้อง PM2.5

และ 3. Replace with Alternate crops : ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนชนิดและวิธีการปลูกพืชบนพื้นราบ โดยเน้นการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์ต่อดิน

          รวมทั้งที่ประชุมได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย การป้องปรามการเผา เน้นปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีเป้าหมายเป็นเกษตรกร 28,855 ราย บนพื้นที่ 60,750 ไร่  โดยการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้หยุดเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ส่งเสริมให้เกษตรกรจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรทดแทนการเผา

เช่น การไถกลบตอซังหรือเศษซากพืช การสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวมวล การนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ การเปลี่ยนเป็นพืชอาหารสัตว์และสำรองเสบียงสัตว์ รวมถึงการให้บริการยืมเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อใช้เก็บรวบรวมเศษวัสดุเหลือใช้ในแปลง

การนำร่องโครงการต้นแบบ การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายใต้มาตรฐาน GAP PM2.5 Free โดยเป้าหมายเป็นพื้นที่ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ และพะเยา รวม 2,664 แปลง พื้นที่ 25,162 ไร่ และ งานวิจัยและพัฒนา ศึกษาพฤติกรรมการตัดสินใจเผาวัสดุเหลือใช้ในนาข้าว

สำหรับการลดการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมในระยะยาว ซึ่งจะส่งผลให้ลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กได้อย่างยั่งยืน จะต้องส่งเสริมให้เกษตรกรทำการเกษตรให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP PM 2.5 Free โดยกระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายจะเสนอให้เกษตรกรได้รับสิทธิพิเศษ เป็นค่าตอบแทน หรือ เข้าถึงแหล่งทุนด้วยดอกเบี้ยอัตราพิเศษ ซึ่งรวมถึงสถาบันเกษตรกรที่รวบรวมผลผลิตที่ไม่เผาด้วย และขอความร่วมมือภาคเอกชนรับซื้อผลผลิตที่ไม่เผาในราคาที่สูงกว่า

 

นอกจากนี้ จะสนับสนุนให้เกษตรกรที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูกทั้งในพื้นที่สูงและที่ราบ โดยสนับสนุนเงินทุนช่วงรอเก็บเกี่ยว จัดหาเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่วพร้อมทั้งจัดหาตลาดรองรับผลผลิต ทั้งนี้ ได้กำหนดจัดงาน KICK OFF การรณรงค์ปลอดการเผาในพื้นที่เกษตร ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ที่จังหวัดเชียงใหม่

          นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือในการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับภาคี วิจัยฟิวเจอร์เอิร์ธแห่งประเทศไทย (Future Earth Thailand Consortium) โดยความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาในภูมิภาค 7 แห่ง ได้แก่ ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภาคเหนือตอนล่าง มหาวิทยาลัยนเรศวร ภาคตะวันตก มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ภาคใต้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาคุณภาพอากาศจากภาคการเกษตรอย่างยั่งยืนผ่านเครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมทั้งระดับชาติและนานาชาติ

 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์