กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. สานโครงการเด็กตื่นไฟ ปี 3

กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. สานโครงการเด็กตื่นไฟ ปี 3

กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. สานต่อ โครงการเด็กตื่นไฟ ปี 3 ประกาศรางวัลแคมเปญการสื่อสาร ชิงเงินรางวัลมูลค่ากว่า 650,000 บาท

กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) สานต่อ โครงการเด็กตื่นไฟ เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา (เด็กตื่นไฟ ปี 3) สนับสนุนการประกวดแคมเปญการสื่อสาร ที่มีภาพยนตร์โฆษณาเป็นเครื่องมือหลัก ภายใต้หัวข้อ "The Changer เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา" ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ เรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การใช้ พลังงานสะอาด ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 650,000 บาท

ธรณพงศ์ เล็กสกุลดิลก ผู้อำนวยการฝ่ายกองทุนพัฒนาไฟฟ้า เผยว่า ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้พลังงานที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่ส่งผลให้ประชาชนต้องเริ่มหันมาปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงเป็นที่มาของการสนับสนุน โครงการเด็กตื่นไฟ ปี 3 ผ่านทางกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยมีบริษัท เวิร์คลิงค์ ดาเอเจนซี่ จำกัด เป็นผู้ดำเนินโครงการ จัดการประกวดแคมเปญการสื่อสาร ที่มีภาพยนตร์โฆษณาเป็นเครื่องมือหลัก ภายใต้หัวข้อ THE CHANGER เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความตระหนัก ปลูกจิตสำนึก ความเข้าใจ ทัศนคติที่ดี ได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การใช้พลังงานสะอาดให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป รวมไปถึงบทบาทหน้าที่และภารกิจของกกพ. ในการกำกับดูแลเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานกับการป้องกันแก้ไขปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ธรณพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ​ทั้งนี้ คาดหวังว่าโครงการนี้จะสามารถส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป มีความรู้ที่ถูกต้อง ตลอดจนถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิดและทัศนคติด้านพลังงานที่ดีขึ้น พร้อมถ่ายทอดผ่านมุมมองความเข้าใจและทัศนคติของตนเองให้แก่บุคคลรอบตัวและสื่อสารในวงกว้าง

"กกพ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับความสนใจจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศในการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักของปัญหาในการใช้พลังงานรูปแบบเดิม หรือพลังงานฟอสซิล การช่วยกันรณรงค์ให้เกิดการปรับตัวเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน จากพลังงานฟอสซิลไปสู่ พลังงานสะอาด รับรู้เกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน และปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นกระบอกเสียงสำคัญ ในการส่งต่อพลังทางความคิดไปยังประชาชนทั่วไป ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ จะได้รับประสบการณ์ที่ดี และสามารถนำความรู้ แนวความคิด ต่อยอดไปสู่กระบวนการที่ก่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ อันจะก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติตลอดไป" ธรณพงศ์ กล่าว

คชภพ สงวนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คลิงค์ ดาเอเจนซี่ จำกัด ผู้สร้างสรรค์และบริหารโครงการเด็กตื่นไฟปี 3 กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้รับโอกาสจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ. ให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อสังคม

"โครงการเด็กตื่นไฟ เป็นโครงการที่จัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มุ่งหวังสร้างความเข้าใจในเรื่องการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่การใช้ พลังงานสะอาด ให้แก่ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องจนไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความคิดและทัศนคติด้านพลังงานที่ดีขึ้น ผ่านการประกวดแคมเปญการสื่อสาร ที่มีภาพยนตร์โฆษณาเป็นเครื่องมือหลัก ภายใต้หัวข้อ THE CHANGER เปลี่ยนพลังงานผ่านตัวเรา เพื่อชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 650,000 บาท" คชภพ กล่าว

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาสมัครเข้าร่วมกิจกรรม มาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 มีผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจำนวน 100 ทีม โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบสองจำนวน 40 ทีม ได้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างเข้มข้น ได้เข้าร่วมกิจกรรม Camp "เด็กตื่นไฟ ปี 3" เพื่อร่วมพูดคุย รับคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ วิทยากรด้านไฟฟ้าและผู้ชำนาญการในแต่ละสาขาการประกวดที่เข้ามาให้แนวคิดและเทคนิคสำหรับการนำไปจัดทำผลงานส่งประกวด

ปัจจุบันคณะกรรมการได้คัดเลือกทีมที่ผ่านตามเกณฑ์การตัดสินจนเหลือ จำนวน 26 ทีม เพื่อเข้ารอบชิงชนะเลิศในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 โดยผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด 5 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ มูลค่า 300,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 มูลค่า 150,000 บาท รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 มูลค่า 100,000 บาท และรางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 50,000 บาท โดยทั้ง 26 ทีม ได้นำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการการตัดสิน ผู้แทนจาก สำนักงาน กกพ. ผู้แทนจากโครงการ และผู้แทนจากผู้สนับสนุนโครงการ เพื่อคัดเลือกผลงานที่สามารถนำผลงานไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยติดตามผลการประกาศรางวัลได้ ที่นี่