"กำเนิดวิทย์" แหล่งบ่มเพาะนักวิทย์-นักวิจัยรุ่นเยาว์ ช่วยประเทศ
เมื่อโลกปัจจุบันมี "เทคโนโลยี" เป็นหัวใจสำคัญที่แทรกซึมอยู่ในทุกรายละเอียดของชีวิต การแข่งขันทางเศรษฐกิจจึงย่อมขาดไม่ได้ที่จะต้องมี "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" เป็นหนึ่งในสาขาการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดแข่งขันให้กับประเทศ
ขณะที่ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า ประเทศไทยเรายังค่อนข้างขาดแคลนบุคลากรด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต
แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีความพยายามยกระดับการศึกษาไทยผ่านแนวคิด STEM ซึ่งหมายถึง วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) มาแล้วหลายปี แต่ก็ยังมีข้อท้าทายเรื่องความพร้อมทั้งเรื่อง "หลักสูตรการเรียนการสอน ผู้สอน" และที่สำคัญคือ "ผู้เรียน" ที่จะต้องดำเนินอย่างคู่ขนานไปพร้อมกันในทุกมิติ
"โรงเรียนกำเนิดวิทย์" ถือเป็นโมเดลตัวอย่างที่พิสูจน์แล้วว่า เมื่อทั้งสามมิติมาบรรจบกัน ความสำเร็จก็อยู่ตรงหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
'SCIENCE KIT 2023' สอนน้องเข้าใจวิทย์ กับนักเรียนกำเนิดวิทย์
จุดเริ่มต้นโรงเรียนกำเนิดวิทย์
โรงเรียนกำเนิดวิทย์ เป็นโรงเรียนประจำ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 – 6 โดยคัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการจัดการเรียนการสอน โดย กลุ่ม ปตท. ภายใต้การดูแลของมูลนิธิพลังสร้างสรรค์นวัตกรรม (Power of Innovation Foundation) โรงเรียนกำเนิดวิทย์เปิดรับนักเรียนรุ่นละ 72 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนานักเรียนกลุ่มนี้ให้ก้าวไปเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนวัตกร ที่จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
ภารกิจหลักของกำเนิดวิทย์คือ การสรรหานักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้าน STEM มาบ่มเพาะพัฒนาให้เป็นคนดีคนเก่ง มีคุณภาพดีเลิศในทุกด้าน เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนักนวัตกรรมชั้นนำของประเทศในอนาคต สามารถทำงานร่วมและแข่งขันกับนานาชาติได้ สามารถสร้างองค์ความรู้ ประดิษฐ์คิดค้น และพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ให้กับสังคมไทยและประเทศชาติ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ไทย ลดการพึ่งพาองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรมจากต่างชาติ ช่วยพัฒนาประเทศชาติให้สามารถดำรงอยู่และแข่งขันได้ในประชาคมโลก
หัวใจสำคัญคือ หลักสูตร
จากวัตถุประสงค์การก่อตั้ง โรงเรียนกำเนิดวิทย์ ตามที่ระบุข้างต้น เพื่อให้บรรลุผลตามอุดมการณ์และเป้าหมายตามที่ผู้ก่อตั้งได้กำหนดไว้ โรงเรียนจึงได้ออกแบบหลักสูตรจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนขึ้นเป็นการเฉพาะ
ที่สำคัญคือ การจัดหลักสูตรแบบ "วัดตัวตัด" (Customized Curriculum) ให้ครูผู้สอนสังเกต และดูแลนักเรียนเป็น "รายบุคคล" ส่งเสริมให้ครูถามคำถามให้งานให้การบ้าน กับนักเรียนแต่ละคนตามความถนัด ความสนใจที่แตกต่างกัน
ดังนั้น นักเรียนที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์ จะได้เรียนรู้ต่างกันไปตามความถนัดและความสนใจของตนเอง แม้ว่าจะเรียนห้องเดียวกัน รายวิชาเดียวกัน ก็อาจได้รับคำถาม งาน และการบ้านจากครูที่แตกต่างกันได้
นอกจากนั้น ยังมีวิชาเลือกเสรีด้าน STEM และด้านสังคมศาสตร์ ให้นักเรียนได้เลือกเรียนตามความต้องการ ความอยากรู้ ความถนัดและความสนใจของนักเรียน และเพื่อพัฒนาให้นักเรียนเป็นผู้รู้รอบและรอบรู้ (Well-rounded Person) อีกด้วยโรงเรียนกำเนิดวิทย์เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายแบบอยู่ประจำ สำหรับนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม ปตท.
เรียนแล้ว ต้องได้ทำจริง
นอกจากหลักสูตรที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้เรียนแต่ละคนแล้ว การจะเข้าใจและต่อยอดได้อย่างลึกซึ้ง ผู้เรียนต้องได้ปฏิบัติจริง ดังนั้น ที่โรงเรียนกำเนิดวิทย์จึงให้ความสำคัญกับ "การเรียนจากการปฏิบัติจริง" (Hand-on Learning) โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก กลุ่ม ปตท. ในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการอย่างดีเยี่ยม ทั้งห้องปฏิบัติการวิชาเคมี วิชาชีววิทยา วิชาฟิสิกส์ วิชาพื้นฐานวิศวกรรม ห้องปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์และไมโครคอนโทรลเลอร์ ห้องเครื่องมือรวมสำหรับการทำงานวิจัย ห้องปฏิบัติการศิลปะ ห้องปฏิบัติการนาฏศิลป์และดนตรี ทำให้โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนแบบ Hand-on Learning ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญเรื่องการจัดการเรียนรู้ "นอกห้องเรียน" และ "นอกโรงเรียน" โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก สถาบันวิทยสิริเมธี ศูนย์วิจัยของ กลุ่ม ปตท. รวมถึงหน่วยงาน และสถาบันอุดมศึกษาอีกจำนวนมาก ที่อนุญาตให้นักเรียนได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ไปใช้ห้องปฏิบัติการ ไปฝึกงาน รวมถึงการให้ความอนุเคราะห์อนุญาตให้บุคลากรจากหน่วยงานดังกล่าวมาเป็นที่ปรึกษาในการทำงานวิจัยของนักเรียน
ต่อยอด บ่มเพาะนักวิจัยรุ่นเยาว์
เนื่องจากหัวใจของหลักสูตรการเรียนการสอนที่ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ คือ มุ่งเน้นการปลูกฝังให้นักเรียนตระหนักเห็นคุณค่าและประโยชน์ของการทำงานวิจัย มีความมุ่งมั่นที่จะศึกษาต่อเพื่อประกอบ "อาชีพ" เป็นนักวิจัย นักประดิษฐ์ และนวัตกรต่อไปในอนาคต
ดังนั้น ก่อนจบการศึกษาโรงเรียนจึงได้กำหนดให้นักเรียนทุกคนต้องทำงานวิจัยและนำเสนอผลงานวิจัยในเวทีต่างๆ อย่างน้อย 1 เรื่อง และเพื่อให้เกิดแนวคิดในการทำงานวิจัย ยังได้กำหนดให้นักเรียนต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ได้แก่ วิชาธรรมชาติและการสืบเสาะอย่างวิทยาศาสตร์ วิชาสัมมนาทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 1 และ 2
ในแต่ละปี โรงเรียนกำเนิดวิทย์รับนักเรียนเพียง 72 คน (ห้องละ 18 คน) มีจำนวนงานวิจัยที่นักเรียนแต่ละรุ่นได้ทำมาแล้วมากมาย โดยโรงเรียนได้จัดงาน "KVIS Invitational Science Fair" ขึ้นทุกปี เพื่อให้นักเรียนได้เสนอผลงานวิจัยของตนเองร่วมกับนักเรียนจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์ชั้นนำของนานาชาติ โดยใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมดและนักเรียนโรงเรียนกำเนิดวิทย์เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน
เป็นกลวิธีหนึ่งในการฝึกการจัดงานระดับนานาชาติให้กับนักเรียน ซึ่งปรากฎว่านักเรียนสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยม มีความสามารถในการวางแผน ปฏิบัติงานตามแผน ติดตามประเมินผล และแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างดีเยี่ยม