อย่าก้มหน้าก้มตาทำงานจนหมดไฟ | บวร ปภัสราทร

อย่าก้มหน้าก้มตาทำงานจนหมดไฟ | บวร ปภัสราทร

คนก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างไม่ลืมหูลืมตายาวนานเกินไป จะคล้ายกับสมาร์ทโฟนที่ลงแอปไปเยอะแยะ ใช้งานกันทั้งวันทั้งคืน สักพักหนึ่งก็จะทำงานได้ไม่รวดเร็วเหมือนเดิม จะแก้ไขให้คืนดีเหมือนเดิมก็ต้องรีเซ็ตกันใหม่ รีเซ็ตแต่ละครั้งต้องใช้เวลาและความพยายามไม่น้อย

ชีวิตคนไม่ได้รีเซ็ตกันได้ง่ายๆ เหมือนกับสมาร์ทโฟน รีเซ็ตเริ่มต้นชีวิตการงานกันใหม่ท่ามกลางพายุวิกฤติอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ทำได้กับทุกคน ดังนั้น ในยามยากนี้ พึงรักษาไฟในการทำงานไว้อย่าให้มอดไหม้หมดไปในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติ

ถ้ารู้สึกว่าทุกอย่างยากเย็นไปหมด ความอดทนกับงานและคนรอบตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด คิดในทางลบกับแทบทุกสิ่งที่พบเจอ ทำงานสำเร็จแค่ไหนก็ไม่รู้สึกว่าพอใจ ท้อแท้กับงานในวันนี้และหมดหวังกับงานในวันหน้า แสดงว่าหมดไฟในการทำงานไปแล้ว

เมืองฝรั่งมีการลาออกเปลี่ยนงานใหม่กันขนานใหญ่ เขาโชคดีที่รีเซ็ตการงานกันได้ทั่วหน้า แต่ในบ้านเราถ้าไม่แน่จริงอย่าพึ่งคิดเรื่องรีเซ็ตการงานท่ามกลางยามยากเย็นยาวนานนับสิบปีนี้   กัปตันเรือท้อแท้หมดไฟท่ามกลางพายุใหญ่ โอกาสที่เรือจะไปรอดคงยากขึ้นเยอะ 

เหตุหนึ่งที่ทำให้หมดไฟในการทำงาน คืองานที่ทำนั้นต้องการจากเรามากเกินไปกว่าที่เราจะทำให้ได้ งานอาจจะยากเกินไป อาจจะมากเกินไป หรืออาจเป็นงานการที่เราตัดสินใจอะไรแทบไม่ได้เลย ซึ่งในชีวิตการทำงานจริงในวันนี้  แทบไม่มีใครหลีกเลี่ยงจากงานทำนองนี้ไปได้ ดังนั้นจึงต้องอยู่กับงานทำนองนี้ให้ได้ 

ถ้างานยากเกินไป อาจมาจากขีดความสามารถของเรายังไม่พออย่าคิดไปในทางลบว่าเราด้อยฝีมือ ลองหาว่าเราขาดความรู้ทักษะในเรื่องใดที่ทำให้ทำงานนั้นได้ยาก แล้วหาทางเติมเต็มความรู้และทักษะนั้นให้กับตนเอง วันนี้หาความรู้ใหม่ๆสารพัดได้จากอินเทอร์เน็ต ขอเพียงแค่มีแรงบันดาลใจให้เสาะหาความรู้เหล่านั้น ความพยายามจะตามมาเอง

ถ้างานมากเกินไป อาจต้องทำบางส่วนให้สำเร็จ แล้วใช้ความสำเร็จนั้นสร้างความภูมิใจให้กับตนเอง จงพอใจกับความสำเร็จบางส่วนนั้น อย่าคิดทางลบว่าพยายามมากมายแต่ได้งานแค่นี้เอง

พยายามรู้จักขีดจำกัดของตนเองว่า แค่ไหนที่ทำได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แค่ไหนที่ทำได้ในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ ทำได้ตามนั้นจริงควรเป็นความภูมิใจ ไม่ใช่ความท้อถอย 

นอกจากนั้นอาจจะต้องรู้จักปฏิเสธการงานที่เกินกำลังไปบ้าง การปฏิเสธงานโดยมีเหตุผลอันสมควรให้ผลดีกว่ายอมรับทุกงานแล้วทำตามที่รับปากไว้ไม่ได้ ซึ่งความล้มเหลวจากรับงานมากเกินไปนี่แหละที่กระตุ้นให้หมดไฟทำงานได้อย่างชัดเจน

ถ้าเป็นงานที่เราแทบจะตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย จะทำอะไรต้องให้ท่านตัดสินใจไปหมด ให้เริ่มต้นงานนั้นด้วยการวางแผนขั้นตอนการทำงานโดยละเอียดกว่างานอื่น กำหนดจุดตัดสินใจสำคัญไว้ล่วงหน้า แล้วเสนอแผนนั้นให้ท่านรับทราบเพื่อท่านจะได้จัดเวลาให้กับการตัดสินใจในเรื่องนั้น

งานเราจะได้เดินหน้าได้โดยไม่สะดุดรอการตัดสินใจของท่าน คนเราหมดไฟทำงานเพราะต้องหยุดงานเป็นระยะ ๆเพื่อรอการตัดสินใจ ถ้าวางแผนไว้ดี ๆ เวลารอจะลดลง เราจะรู้สึกว่าเราควบคุมงานของเราได้ดีขึ้น ไฟในการทำงานจะเพิ่มขึ้นทันที

ถ้าโชคร้ายเจอเจ้านายแบบจัดการนาโน จุกจิกไปกับทุกขั้นตอนการทำงาน ก็อย่าไปคิดลบว่าชีวิตฉันแย่ที่เจอเจ้านายใช้ไม่ได้แบบนี้ ให้คิดว่าเจ้านายแย่แค่ไหนก็ยังมีงานทำในยามยากนี้  

ลองระลึกถึงความสุขเมื่อครั้งที่ได้งานทำใหม่ ๆ เพื่อลดการคิดลบกับงานในวันนี้ ถ้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวดูแล้วไม่หล่อไม่สวยในวันนี้ ก็ลองนึกถึงวันที่แต่งงานกันดูบ้าง ปริมาณการคิดลบมีผลโดยตรงกับการหมดไฟในการทำงาน แม้ว่าเราจะคิดบวกเยอะแยะแค่ไหน แต่การคิดลบเพียงน้อยนิดกลับเป็นตัวการสลายไฟในการทำงานไปจนหมด

อย่าทำงานต่อเนื่องโดยไม่หยุดนานเกินไป พยายามหยุดงานเป็นระยะๆ ทั้งในระหว่างวัน และระหว่างสัปดาห์ เพื่อเติมพลังให้กับตนเอง รู้ตัวเองว่าแค่ไหนที่ไฟในการทำงานยังมีอยู่ อย่าทนไปจนกระทั่งหมดไฟแล้วต้องรีเซ็ตชีวิตการงานกันใหม่ในยามยากนี้.
คอลัมน์ : ก้าวไกลวิสัยทัศน์
รศ.ดร.บวร ปภัสราทร
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี