‘Hybrid Warfare’ มาแล้วจริงๆ

‘Hybrid Warfare’ มาแล้วจริงๆ

กลุ่มแฮกเกอร์นิรนาม หรือ Anonymous ประกาศกร้าว “Cyber War” กับรัฐบาลรัสเซียอย่างเป็นทางการ

ผมว่าผู้อ่านหลายๆ คนคงเคยเห็นสงครามที่เป็นรูปแบบทั่วไปโดยใช้ ทหารและอาวุธ ชั้นนำต่างๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยุคสงคราม เวียดนาม สงครามอ่าวเปอร์เซีย และสงครามอีรัก 

ซึ่งสงครามในยุคนี้ มีการดำเนินการในทุกรูปแบบ ไม่ว่าสงครามเศรษฐกิจ, สงครามข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เราเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะ ประเทศของเรา 

สัปดาห์นี้ คงไม่มีข่าวต่างประเทศ อะไร ร้อนแรงเท่ากับ รัสเซียกับยูเครน ซึ่งแน่นอนที่สุดสงครามที่เกิดขึ้นนั้น มีวิธีใช้การรบทุกรูปแบบอย่างจริงจัง 

โดยเฉพาะเรื่อง “สงครามไซเบอร์” ซึ่งอยู่ในหนึ่งของ “Hybrid Warfare” ที่แน่นอนที่สุดผู้ที่จะทำการโจมตีอยู่ที่ใดในโลกย่อมทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องแสดงตัว ซึ่งกลุ่มแฮกเกอร์นิรนาม หรือ Anonymous ประกาศกร้าว “Cyber War” กับรัฐบาลรัสเซียอย่างเป็นทางการ

กลุ่มแฮกเกอร์นิรนามได้ประกาศ “สงครามไซเบอร์” กับรัฐบาลของ วลาดีมีร์ ปูติน ภายหลังจากการรุกรานของรัสเซียในยูเครน

โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีชื่อเสียงในระดับโลกได้โพสต์ข้อความผ่าน Twitter ระบุว่า: “กลุ่มแฮกเกอร์นิรนาม จะทำสงครามไซเบอร์กับรัฐบาลรัสเซียอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เครมลินเริ่มปฏิบัติการทางทหาร 

โดยกลุ่มดังกล่าวได้ประกาศยอมรับว่า กลุ่มตนได้ทำให้เว็บไซต์ของรัฐบาลรัสเซียล่ม และได้มีการทวีตข้อความต่อมาว่า เป้าหมายหลักของการปฏิบัติการในครั้งนี้คือ การโจมตีเว็บไซต์ของเครือข่ายโทรทัศน์นานาชาติ RT (http://rt.com) เพื่อตอบโต้การรุกรานในยูเครนที่แสนโหดร้ายของเครมลิน ส่งผลทำให้เว็บไซด์ rt.com ไม่สามารถเข้าใช้งานได้เป็นระยะเวลานาน

กลุ่มแฮกเกอร์นิรนามได้ส่งสัญญาณผ่านการทวีตข้อความว่า “ทางกลุ่มมีความตั้งใจเพิ่มการโจมตีทางไซเบอร์ต่อรัสเซียขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อว่าการคว่ำบาตรต่อระบอบการปกครองของปูตินจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ จึงอยากเรียกร้องประเทศที่สนับสนุนยูเครน ให้ตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และให้ขับไล่เอกอัครราชทูตรัสเซียออกไป” 

ทั้งนี้แฮกเกอร์กลุ่ม Anonymous จะเพิ่มการโจมตีทางไซเบอร์ในเครมลินต่อไปอีก กลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มนี้มีชื่อเสียงในด้านการกำหนดเป้าหมายการโจมตีที่ชัดเจน โดยจะมุ่งไปที่รัฐบาลและองค์กรต่างๆ ที่ดำเนินการและมีนโยบายที่พวกเขาเหล่านี้ไม่เห็นด้วย 

เช่น การปราบปรามผู้ประท้วง และตัวอย่างเป้าหมายในอดีตเช่น หน่วยงานของรัฐต่างๆ ในสหรัฐ อิสราเอล สเปน และยูกันดา เช่นเดียวกับกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มคลูคลักแคลน (Klu Klux Klan) และรัฐอิสลาม

การรุกรานยูเครนอย่างหนักของรัสเซียมีท่าทีว่าจะดำเนินไปอย่างเต็มกำลัง โดยจากการรายงานพบว่า กองทหารเครมลินได้บุกไปถึงบริเวณชานเมืองของกรุงเคียฟ แล้ว

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ถือได้ว่าไซเบอร์มีบทบาทสำคัญในกรณีข้อพิพาทระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งขณะนี้ได้ลุกลามไปสู่ความขัดแย้งทางอาวุธ รัฐบาลยูเครนและภาคส่วนที่สำคัญๆ ถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเชื่อกันว่าเป็นฝีมืออาชญากรไซเบอร์ของรัสเซีย และมีรายงานด้วยว่าสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร กำลังร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์เชิงรุกต่อรัฐบาลรัสเซียและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญเพื่อขัดขวางการปฏิบัติงาน 

ขณะนี้มหาอำนาจทั่วโลก กำลังสะสม Cyber Army เพื่อเข้าปฎิบัติงานอย่างจริงจัง เรากลับมาหันมองดูว่าประเทศของเรา ได้เตรียมการสะสมกองกำลัง Cyber Army ไว้พอเพียงกันหรือยัง เพื่อให้ทันท่วงทีและสามารถต่อกร กับภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้