ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 2 ก.พ.

ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง 2 ก.พ.

ที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าอาจเป็นวันวิปโยคอีกวันหนึ่ง จากวิกฤติขัดแย้งทางการเมือง

สัญญาณหนึ่งที่ชี้ว่าการคาดการณ์นั้นมีแนวโน้มเป็นจริง ก็คือการเปิดตัวแบบถี่ยิบของเครือข่ายหยุดความรุนแรง เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป หรืออื่นๆ ที่มีชื่อคล้ายๆ กัน


O เมื่อวาน 60 องค์กรทั้งราชการ วิชาการ ธุรกิจ เอ็นจีโอ แถลงจุดยืนในนาม "เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป" มี ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวจักรสำคัญ ขณะที่วันก่อน (28 ม.ค.) ก็มี "เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย" เสนอตัวเองเป็นอีกหนึ่ง "ตัวช่วย" เพื่อ "รีสตาร์ทประเทศ"


O แกนหลักของเครือข่ายรีสตาร์ทฯ มีทั้ง ธีรยุทธ บุญมี, หมอพลเดช ปิ่นประทีป และ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล


O ในวันแถลงข่าว มีคนพูดแสดงทัศนะหลายคน ทำให้ประเด็นสำคัญๆ ตกหล่นไปจากหน้าสื่อพอสมควร "สิงห์ม่วง" จึงขอเก็บตกมานำเสนอ...


O เริ่มจาก คุณโสภณ สุภาพงษ์ อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ ที่ยกผลสำรวจของสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ขึ้นมาชี้ให้เห็นว่าสถานะของประเทศไทยตกต่ำขนาดไหน


O ผลสำรวจพบว่า คอร์รัปชันในไทยมีทุกหัวระแหง เป็นปัญหาสำคัญและร้ายแรงที่สุดหากจะคบค้ากับไทย ส่วนความไว้วางใจต่อกลุ่มการเมืองและรัฐบาลอยู่ที่ระดับ 129 จาก 148 ประเทศ จัดว่าอยู่ในกลุ่มที่เลวร้ายที่สุด ความไว้วางใจต่อตำรวจอยู่ระดับ 109 ของโลก แทบจะเป็นโคลัมเบียอยู่แล้ว


O ส่วนรายงานของธนาคารโลกที่ใช้ 6 ดัชนีชี้วัดการบริหารบ้านเมืองนั้น คุณโสภณ บอกว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ดัชนีของไทยเลวลงทุกตัว รวมทั้งคอร์รัปชัน ขณะที่องค์การความโปร่งใสระหว่างประเทศ พบว่าไทยเลวร้ายลงจากอันดับที่ 59 เมื่อปี ค.ศ.2005 มาเป็น 102 ในปีนี้ เลวร้ายที่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยมา เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่เราเลวกว่าฟิลิปปินส์ ปีที่แล้วเราอยู่อันดับที่ 88 เท่าประเทศแซมเบีย ปีนี้แซมเบียอยู่ที่ 83 ถือว่าดีขึ้น ไทยอยู่ในกลุ่มเดียวกับแอฟริกา


O คุณโสภณ ยังยกตัวอย่างประเทศเกาหลีใต้ โดยบอกว่าเมื่อ 20 ปีก่อน เกาหลีใต้เอาผิดประธานาธิบดี 2 คนที่มีพฤติกรรมทุจริตต้องติดคุก โดยมหาวิทยาลัยเป็นผู้เริ่มต้น และยึดทรัพย์ประมาณ 7,000 ล้านบาทจากการชุมนุมประมาณ 3,000 ครั้งโดยนักศึกษา สิบปีหลังจากนั้นภรรยาของประธานาธิบดีรับเงิน 7 ล้านบาทเท่านั้น ประธานาธิบดีไม่ได้รอขึ้นศาล แต่ไปกระโดดภูเขาตายเพราะความอับอาย


O คุณโสภณ กล่าวทิ้งท้ายว่า คงต้องเริ่มให้การศึกษาเพื่อให้ชาวบ้านออกมาต่อสู้ป้องกันการโกง แต่ก็ต้องมีความคิด เครื่องมือ กลไก ทรัพยากร เพราะเรื่องประโยชน์ทับซ้อนหากินได้มากมาย ไม่ได้โกงแต่ในอดีต ยังโกงในปัจจุบัน และอนาคตด้วย เห็นได้จากวันนี้ผ่านมา 27 ปีแล้ว ฟิลิปปินส์ยังใช้หนี้สาธารณะจากเงินที่อดีตประธานาธิบดีมาร์กอซโกงไปไม่หมดเลย การโกงอนาคตสามารถทำได้ แล้วประชาชนก็ต้องมาจ่ายผ่านภาษีเพื่อใช้หนี้ ฉะนั้นการปฏิรูปต้องพยายามต่อไป


O ปิดท้ายด้วยข่าวเศร้า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ที่ต้องสูญเสีย คุณแม่นวลจันทร์ ศรีวิลาศ ไปด้วยวัย 91 ปี พิธีสวดพระอภิธรรมศพมีตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ม.ค. เวลา 18.30 น. ที่ศาลา 2 วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กำหนดพระราชเพลิงศพ วันที่ 1 ก.พ. เวลา 17.00 น.