ส.อ.ท. ย้ำ ความปลอดภัยต้องมาก่อนผลประโยชน์ธุรกิจ ถอดบทเรียนจีน แก้ มอก.

ส.อ.ท. ย้ำ ความปลอดภัยต้องมาก่อนผลประโยชน์ธุรกิจ ถอดบทเรียนจีน แก้ มอก.

ประธานกลุ่มเหล็ก สอท. ย้ำ “ความปลอดภัย" สาธารณะต้องมาก่อนผลประโยชน์ทางธุรกิจ! พร้อม “ถอดบทเรียนจีน แก้ มอก.”

นายบัณฑูรย์ จุ้ยเจริญ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึง วัตถุประสงค์ของการศึกษาของคณะทำงานมาตรฐาน กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ที่ได้สรุปประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเหล็กเส้นนั้น คณะทำงานฯ ได้รวบรวมข้อมูลทั้งด้านวิชาการและสืบค้นข้อมูลข่าวสารต่างๆอย่างมีที่มาที่ไป เพื่อนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาแก้ไข มอก.เหล็กเส้นกลม (มอก. 20-2559)  และ มอก.เหล็กข้ออ้อย (มอก. 24-2559)

ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการทบทวนโดย สมอ. หลังจากใช้มาแล้วเกือบ 10 ปี โดยที่ไม่ได้มีการปรับปรุงด้านคุณสมบัติการใช้งานอย่างใดที่เป็นสาระสำคัญเมื่อเทียบกับ มอก.เหล็กเส้นกลมปี 2543 หรือ มอก.เหล็กข้ออ้อยปี 2548 ในขณะที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่นอาคารสูงได้พัฒนาไปอย่างมาก 

ในรอบปีที่ผ่านมา ด้วยการกวดขันของกระทรวงอุตสาหกรรมกับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานโดยทีมสุดซอย พบว่ามีการรายงานปัญหาคุณภาพสินค้าหลายประเภท เช่นเครื่องใช้ไฟฟ้า หลอดไฟ สายไฟ รวมทั้งเหล็กเส้น และต่อมามีเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงในกรุงเทพ ทั้งที่จุดศูนย์อยู่กลางแผ่นดินไหวอยู่ห่างไกลมาก

แต่เนื่องจากลักษณะดินอ่อนของกรุงเทพ ทำให้แรงสั่นสะเทือนส่งผลในวงกว้าง นอกจากนี้ พื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีและจะมีการก่อสร้างอาคารสูงเพิ่มขึ้นอีก จึงควรใช้โอกาสนี้ทบทวน มอก.ให้สามารถยกระดับมาตรฐานเหล็กเส้นก่อสร้างของประเทศให้สามารถใชังานได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย ตัวอย่างประเด็นที่สำคัญคือ มอก.เหล็กเส้นไทยในปัจจุบัน ยังไม่ได้กำหนดก็คือเหล็กเกรดที่ใช้งานในเขตแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ เมื่อได้ศึกษาพัฒนาการของมาตรฐานเหล็กเส้นจีนก็พบว่าเป็นบทเรียนที่มีคุณค่า สามารถนำมาอ้างอิงได้ เช่น ในเรื่องกรรมวิธีการผลิต (smelting method) และเรื่องเหล็กเกรดแผ่นดินไหว แต่เดิมมาตรฐานเหล็กเส้นจีนปี 2007 (2550) ยังไม่ได้กำหนดทั้งกรรมวิธีการผลิตและเหล็กเกรดแผ่นดินไหว

ต่อมา มาตรฐานเหล็กเส้นจีน ปี 2561 (Steel for Reinforcement of Concrete, GB 1499.2-2018)ได้กำหนดให้กรรมวิธีการผลิตต้องมาจาก converter หรือ arc furnace และได้เพิ่มเหล็กเกรดแผ่นดินไหว โดยมีข้อกำหนดว่า “ถ้าจำเป็น” ให้ผ่าน external refining (ซึ่งหมายถึงการปรุงภายนอกเตาหลอม เช่นเตาปรุง ladle furnace)

และอีก 6 ปีต่อมา มาตรฐานเหล็กเส้นจีนปี 2567 (Steel for Reinforcement of Concrete, GB 1499.2-2024) ได้ปรับปรุงข้อกำหนดเหล็กเกรดแผ่นดินไหว จาก “ถ้าจำเป็น” ให้เป็น “ต้อง” ผ่าน external refining

ดังนั้นการศึกษาพัฒนาการมาตรฐานเหล็กเส้นจีนโดยถ่องแท้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับการทบทวนมาตรฐานเหล็กเส้นไทย ซึ่งแทบไม่มีการปรับปรุงด้านคุณสมบัติในการใช้งานเลยนับจาก มอก.เหล็กเส้นกลม ปี 2543 และ มอก.เหล็กข้ออ้อย ปี 2548 ที่เริ่มใช้มาเมื่อกว่า 25 และ 20 ปีก่อน

กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้การทบทวน มอก. เหล็กเส้นก่อสร้างที่กำลังดำเนินอยู่ มีการพิจารณาในสาระสำคัญทุกประเด็น ไม่เฉพาะเรื่องเหล็กเกรดแผ่นดินไหว และจะเร่งผลักดันให้มี มอก.เหล็กชนิดอื่นๆ เช่น เหล็กโครงสร้างสำเร็จรูป ซึ่งมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมากถึงประมาณ 7 แสนตันในปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานวัสดุใดๆเลย ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะมีมาตรฐานเหล็กทุกประเภทใช้เป็นรากฐานในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่อเนื่องของประเทศ และจะสนับสนุนให้สมาชิกของกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กยึดมั่นในหลักการ “ความปลอดภัยสาธารณะ ต้องอยู่เหนือผลประโยชน์ทางธุรกิจ”