‘อนุทิน’ ยืนยันยังไม่มีแผนเปิดด่านชายแดน 'ไทย-กัมพูชา'

‘อนุทิน’ ยืนยันยังไม่มีแผนเปิดด่านชายแดน 'ไทย-กัมพูชา'

“อนุทิน” หารือ ส.อ.ท.ยืนยันรัฐบาลใหม่ยังไม่มีแผนเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาในเร็วๆ นี้ ภาคเอกชน ยื่นข้อเสนอช่วยดูแลต้นทุนโลจิสติกส์ขนส่งไปกัมพูชา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2568 เพื่อรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังการเข้าบริหารประเทศ ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะนำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ 

นายอนุทิน กล่าวว่า หารือครั้งนี้ครอบคลุมประเด็นเศรษฐกิจ และความมั่นคง ซึ่งได้มีการหารือการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะปัญหาของผู้ประกอบการ 

อย่างไรก็ตาม ไทย-กัมพูชา มีการค้าขายกันอยู่ตามแนวชายแดน ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน และเงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ ตลอดจนการที่จะต้องรักษาอธิปไตย เกียรติภูมิของไทย

ยืนยันว่า การเปิดด่านจะยังไม่เกิดขึ้นในระยะสั้นนี้ ซึ่งจะต้องมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ไทยกำหนด เพราะว่าไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน

“ยืนยัน จะยังไม่เปิดด่านในระยะสั้นนี้ โดยขอให้ไม่ต้องความกังวลใดๆ อีก แต่อย่างไรก็ตาม ต้องใช้ทุกวิธีทั้งการทหาร การทูต การที่เราจะต้องหารือกับทางฝ่ายกัมพูชา ซึ่งจะใช้ทุกองคาพยพ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทั้ง 2 ประเทศโดยเร็ว แต่เราก็มีหลักของเราที่จะต้องรักษา" นายอนุทิน กล่าว

นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้มีเรื่องการปะทะ และความไม่ลงรอยตามชายแดน ส่งผลต่อซัพพลายเชนภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ ซึ่งมีการแก้ไขปัญหากันเอง แต่ต้นทุนสูง ส.อ.ท.เข้าใจว่าเรื่องสำคัญของประเทศ คือ เรื่องอธิปไตย และความมั่นคง จึงต้องเจรจาให้ถูกต้อง เอกชนคงไม่ได้กดดันอะไร แต่จะมีมาตรการอะไรเข้ามาช่วยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ในระหว่างที่อยู่ระหว่างการเจรจาได้บ้าง

โดยเสนอให้ภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือในระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว ทั้งในด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า การแก้ไขปัญหาด่านศุลกากร รวมถึงการเจรจาระดับทวิภาคี เพื่อสร้างความชัดเจนในกฎระเบียบการค้าชายแดน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับระยะเร่งด่วน ควรมุ่งเน้นการลดค่าใช้จ่ายด้านการโลจิสติกส์ให้แก่ผู้ประกอบการ ผ่านการเสริมช่องทางโลจิสติกส์เดิม การเพิ่มเรือชายฝั่งในการส่งสินค้า เข้าในช่องทางที่ไม่ใช่ชายแดนที่มีอาณาเขตติดกัน เช่น จันทบุรี และตราด และการพิจารณาอนุญาตให้ส่งออก และนำเข้าสินค้าที่เป็นวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน ที่จะนำไปเข้าสู่กระบวนการผลิตใน Supply Chain ได้ในด่านที่ไม่มีความขัดแย้ง รวมทั้งการเยียวยาผู้ประกอบการที่ต้องขนส่งในช่วงที่ทั้งสองประเทศมีความขัดแย้ง โดยขอให้นำค่าขนส่งที่ชัดเจน มาใช้หักค่าใช้จ่ายเป็น 2 เท่าได้

สำหรับระยะสั้น เสนอแนะให้พิจารณา Soft Loan ให้ผู้ประกอบการเพื่อรักษาสภาพคล่องของกลุ่ม SME ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา หรือผู้ที่มีหลักฐานการค้าขายต่อเนื่องกับกัมพูชา เพิ่มเติมจากมาตรการที่ธนาคารเพื่อการส่งออก และนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ EXIM Bank ออกมา รวมทั้งขอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พิจารณาให้สิทธิประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมที่อยู่ใน Supply Chain ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เพื่อจูงใจให้มีการลงทุนในไทยสำหรับชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากกัมพูชา

ส่วนของมาตรการระยะยาว พิจารณาตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่จะให้ทั้งสองประเทศกลับมาทำการค้าร่วมกัน และมีการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่ถูกกฎหมาย สร้างความเจริญเติบโตร่วมกันให้กับภูมิภาค

 

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์