เปิดปัญหา 'ไฮสปีดเทรน' สุดอืด 2 โจทย์ใหญ่ วัดฝีมือรัฐบาล 'อนุทิน'

“ไฮสปีดไทยจีน” ติดหล่มดำเนินการมา 10 ปียังไม่แล้วเสร็จ ลุ้นรัฐบาล “อนุทิน” สางปัญหา หลังสถานะปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา จากทั้งหมด 14 สัญญา
KEY
POINTS
- โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ระยะที่ 1 กรุงเทพฯ-โคราช) ล่าช้าอย่างมาก โดยก่อสร้างเสร็จเพียง 2 สัญญาจากทั้งหมด 14 สัญญา แม้จะดำเนินการมาแล้ว 10 ปี
- เผชิญปัญหา 2 สัญญาสำคัญที่ยังไม่ได้ลงนาม คือ สัญญา 4-1 (บางซื่อ-ดอนเมือง) ที่มีโครงสร้างทับซ้อนกับรถไฟเชื่อมสามสนามบินซึ่งยังรอแก้ไขสัญญา
- สัญญา 4-5 (บ้านโพ-พระแก้ว) ต้องเปิดประมูลใหม่ หลังผู้รับจ้างเดิมปฏิเสธลงนามสัญญาจากข้อกังวลเรื่องสถานีอยุธยาอาจกระทบมรดกโลก
โครงการรถไฟความเร็วสูง ภายใต้ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและจีน หรือ “ไฮสปีดไทยจีน” เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจกต์สุดอืด และเมื่อมีรัฐบาลใหม่ก้าวเข้ามา ซึ่งมีชื่อ “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” คุมกระทรวงคมนาคม คงต้องจับตาดูว่าจะมีนโยบายผลักดันเรื่องนี้อย่างไร
เนื่องจากโครงการนี้หากย้อนไทม์ไลน์จะพบว่า ใช้เวลาดำเนินงานมา 10 ปี นับตั้งแต่ 19 ธ.ค. 2558 ถือเป็นการจุดพลุนับหนึ่งของโครงการ เพราะมีพิธีวางศิลาฤกษ์ศูนย์ควบคุมและบริหารการเดินรถไฟที่เชียงรากน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ปัจจุบันโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนก่อสร้าง โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา ระยะทางประมาณ 253 กิโลเมตร วงเงิน 179,413 ล้านบาท มีงานก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา จากทั้งหมด 14 สัญญา อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 สัญญา และรอลงนามสัญญาอีก 2 สัญญา ซึ่งในส่วนของ 2 สัญญาที่ยังติดปัญหา ประกอบด้วย
สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กิโลเมตร วงเงิน 9,207 ล้านบาท
เนื่องด้วยงานก่อสร้างส่วนนี้จะมีพื้นที่โครงสร้างร่วมกับโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ซึ่งเอกชนคู่สัญญาโครงการดังกล่าว คือ กลุ่มซีพี จะดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างร่วมให้ แต่เนื่องจากปัจจุบันยังคงรอแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนฉบับใหม่ จึงทำให้โครงสร้างงานส่วนนี้ยังไม่สามารถก่อสร้างได้
สัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ - พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร วงเงิน 9,913 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดประมูลได้ผู้รับจ้างคือ บริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด แต่ยังไม่สามารถลงนามสัญญาได้ เนื่องจากบริเวณสถานีอยุธยามีข้อกังวลเกี่ยวกับสถานีอาจกระทบต่อมรดกโลกทางวัฒนธรรม และล่าสุดทางเอกชนผู้รับจ้าง ปฏิเสธการลงนามสัญญาและไม่ขอต่อเวลาในการยืนราคาอีก ทำให้ รฟท.ต้องเตรียมเปิดประมูลหาผู้รับจ้างรายใหม่
ท่ามกลางความล่าช้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงสายนี้ รฟท.ยังดำเนินงานคู่ขนาน เตรียมเปิดประมูลจัดหาผู้รับจ้างเดินหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา – หนองคาย ระยะทาง 357.12 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 341,351.42 ล้านบาท หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2568 ได้เห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้าง โดย รฟท.ได้เริ่มจัดทำเอกสารประกวดราคาแล้ว คาดว่าจะเปิดประมูลในปีนี้ พร้อมเริ่มงานก่อสร้าง และเร่งรัดให้โครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดบริการในปี 2574
ทั้งนี้คงต้องจับตาดูนโยบายของ “รัฐมนตรีคมนาคม” ภายใต้รัฐบาล “อนุทิน” ว่าจะเข้ามาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาที่คงค้างอยู่ของโครงการนี้อย่างไร ปิดตำนานเมกะโปรเจกต์สุดอืด พร้อมทั้งจะสามารถผลักดันขั้นตอนเปิดประมูลงานระยะที่ 2 เพื่อให้โครงการนี้เป็น “ไฮสปีดเทรน” สายแรกของประเทศไทย และเป็นไฮสปีดเทรนสายสำคัญด้านการขนส่ง และเศรษฐกิจเชื่อมระหว่าง ไทย - ลาว – จีน







