‘คลัง’ เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 68 ดัน GDP เกิน 2%

‘คลัง’ เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 68 ดัน GDP เกิน 2%

“จุลพันธ์” เผยรัฐบาลเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 68 ดัน GDP ทั้งปีเกิน 2% พร้อมรับมือภาษีทรัมป์ - ฟื้นชายแดน เน้นบริหารงบประมาณให้ตรงจุด และต่อเนื่อง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลอยู่ระหว่างการหารือ และเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2568 โดยเฉพาะแหล่งเงินทุนสำหรับมาตรการช่วยเหลือภาคเอกชน ซึ่งเชื่อมั่นว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยให้ GDP ของประเทศเติบโตสูงกว่า 2%

“รัฐบาลได้เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาในจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นการบริโภค และการกำลังซื้อภายในประเทศ โดยอาจเป็นมาตรการที่เกี่ยวข้องกับภาษี ซึ่งยังไม่สามารถบอกรายละเอียดล่วงหน้าได้ คาดว่าดำเนินการในไตรมาส 4”

ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการหารือเพื่อเตรียมแผนการรับมือผลกระทบจากภาษีทรัมป์ และสงครามการค้า โดยมีทั้งมาตรการทางการเงิน ที่จะอาศัยกลไกผ่านธนาคารของรัฐ เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME  D Bank) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อดำเนินโครงการ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan)

นอกจากนี้ ยังมีกลไกช่วยเหลือประเภทอื่นๆ ผ่านวิธีการงบประมาณ เช่น กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน หรือใช้งบกลางเข้าช่วยเหลือโดยตรง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจังหวะเวลา และกลไกงบประมาณที่รัฐบาลต้องกำหนดต่อไป

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ปัจจุบันสถาบันการเงินของรัฐได้มีการออกมาตรการช่วยเหลือผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อพิเศษ เช่น สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากเป็นมาตรการในลักษณะปลอดดอกเบี้ย หรือช่วยเหลือรูปแบบอื่นๆ จะต้องได้รับ อนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการโดยธนาคารเพียงลำพังได้ ซึ่งแบงก์รัฐมีความพร้อมที่จะดำเนินการหาก ครม. อนุมัติ

ในด้านแหล่งเงินทุน นายจุลพันธ์ ระบุว่า ไม่ห่วงเรื่องแหล่งเงิน เพราะรัฐบาลมีช่องทางงบประมาณจำนวนมากที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ความกังวลอยู่ที่ จะใช้เงินอย่างไร และเม็ดเงินเท่าไร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน เนื่องจากสถานการณ์สงครามการค้ามีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นมาตรการช่วยเหลือต้องมีความสอดคล้องต่อเนื่อง และตรงจุด

นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณา ข้อเสนอ 7 ข้อจากภาคเอกชน เพื่อดูแล 7 จังหวัดพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งรวมถึงมาตรการภาษี และสินเชื่อ ซึ่งเป็นเรื่องด่วนที่กำลังเร่งดำเนินการ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์