หอการค้า ห่วง ‘ซุปเปอร์แอป’ แจกเงินดิจิทัลสะดุด แนะแจกผ่าน 'เป๋าตัง'

หอการค้า ห่วง ‘ซุปเปอร์แอป’ แจกเงินดิจิทัลสะดุด แนะแจกผ่าน 'เป๋าตัง'

"หอการค้าไทย" แนะ 3 แนวทางใช้เงินดิจิทัล จัดสรรให้กลุ่มเปราะบางเดือดร้อน ใช้ App เป๋าตังแทน Super App ไม่ต้องทดสอบระบบใหม่ พร้อมเปิดโอกาสให้ร้านที่ไม่ลงทะเบียนระบบภาษีเข้าโครงการได้ เพื่อให้จิดิทัลประสบความสำเร็จเร็ว

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของรัฐบาล ทางหอการค้าฯ มีข้อสังเกตใน 3 ประเด็นใหญ่ๆ คือ 

1.ดำเนินการของ Digital Wallet ที่จะเลื่อนไปเป็นไตรมาสที่ 4 นั้นทางหอการค้าฯ มองว่า”จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าไป” ซึ่งหากเป็นไปได้ อยากจะให้มีเร่งจัดสรรงบประมาณปี 67 โดยจัดสรรให้ “เฉพาะกลุ่มเปราะบางที่เดือดร้อนก่อน” แล้วค่อยให้กลุ่มที่เดือดร้อนน้อยที่เหลือตามมาในระยะต่อไป ก็จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้มากกว่าการรอต่อไปในไตรมาส4

2.ประเด็นการจัดทำ Appication ใหม่ (Super App) ส่วนนี้หอการค้าฯ เคยเสนอเรื่องการใช้ App เป๋าตัง เพราะประชาชนคุ้นเคย ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถเข้าถึงประชาชนได้ และทำได้เร็ว หากนำ super app มาใช้จะทำให้เกิดความยุ่งยากกับประชาชน และอาจจะเกิดความล่าช้า เพราะต้องไปทั้งเขียนและทดสอบระบบใหม่

3.ประเด็นเงินหมุนเวียนในจังหวัด ที่ต้องใช้ร้านค้าที่ลงทะเบียน ส่วนนี้อยากให้รัฐบาลเปิดโอกาส และมีมาตรการจูงใจให้ร้านค้าที่ยังไม่เข้าระบบภาษี ได้เข้ามาเป็นทางเลือกให้ประชาชน เพราะกลุ่มนี้อาจจะกังวลเรื่องภาษี ก็จะทำให้โครงการนี้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ตาม โครงการ Digital Wallet จะประสบผลสำเร็จและมีความสัมฤทธิ์ผลมาก ได้อยู่ที่ดำเนินการได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี การใช้เงินในพื้นที่จะเกิดการหมุนเวียนเร็วและหลายรอบ นอกจากนี้ รัฐบาลควรมีให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนผู้ประกอบการและประชาชน เสริมด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ควบคู่กันไปเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเดินฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ยังไม่แน่ชัดว่า เงินดิจิทัลจะดำเนินการได้ในไตรมาส 4 จริงหรือไม่ วงเงินจะเป็นเท่าไร และยังจะต้องตีความการใช้เงินธกส.ตามมาตรา 28 อีกหรือไม่ ซึ่งหากมีการใช้เงินเต็มวงเงิน วงเงิน 5 แสนล้านบาทก็จะกระตุ้นจีดีพีได้ 1 .5 % และจะทำให้จีดีพีไทยขยายตัวได้ 3 % ตามที่รัฐบาลวางเป้าหมายไว้ 

อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งพื้นฐานเศรษฐกิจของไทยจากการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคและความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเห็นตรงกันว่า กำลังซื้อประชาชนแผ่วลง แม้สงกรานต์จะคึกคักก็ตาม และราคาพืชผลทางการเกษตรจะดีแต่เงินก็อยู่ในมือเกษตรกรไม่มาก

ส่วนการใช้ Appication Super App แทน App เป๋าตัง นั้นมองว่า เมื่อรัฐบาลต้องการให้เงินลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจเร็ว App เป๋าตังก็พิสูจน์มาแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้ก็ถูกแก้ไขจนใช้ได้ดี ซึ่งหากจะใช้ App เป๋าตังก็จะมีความคลอบคลุมและไม่มีข้อผิดพลาดหรือผิดพลาดน้อย เพียงแต่ปรับข้อมูลเพิ่ม เช่น พื้นที่การใช้เงินก็สามารถใช้ได้เลย 

แต่หากใช้ Super App จะต้องมีการทดสอบ รอความเสถียรของ Super App ก่อน หากนำไปใช้แล้วเกิดความผิดพลาดจะให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจช้าไปด้วย นอกจากนี้การที่รัฐบาลต้องการให้ประชาชนรู้จักเงินคริปโทเคอร์เรนซีก็ไม่น่าจะใช้แหตุผล การใช้ Appที่เคยใช้มาแล้วน่าจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงมากกว่า