'สารัชถ์' ประกาศ 'กัลฟ์ - AIS - กรุงไทย' ยื่นขอไลเซนส์ 'เวอร์ชวลแบงก์'

'สารัชถ์' ประกาศ 'กัลฟ์ - AIS - กรุงไทย'  ยื่นขอไลเซนส์ 'เวอร์ชวลแบงก์'

“สารัชถ์” ทุ่ม 5 พันล้าน ส่ง “กัลฟ์ ผนึก AIS และ กรุงไทย” ลุยธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ "เวอร์ชวลแบงก์" เปรยเตรียมผนึก “โออาร์” ต่อยอดธุรกิจร่วมกันในอนาคต

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี กรรมการ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในการดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดให้ยื่นภายใน 6 เดือนนั้น ขณะนี้ กลุ่มบริษัท จะร่วมมือกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะยื่นภายในปีนี้ ด้วยเงินลงทุนเบื้องต้น 5,000 ล้านบาท จากการที่กัลฟ์ที่มีความรู้ทั้งเทคโนโลยี ส่วนเอไอเอส ถือมีความพร้อมความเข้าใจในสายธุรกิจดีจากจำนวนสมาชิก 45 ล้านเลขหมาย ในขณะที่ กรุงไทย มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ

สำหรับหลักเกณฑ์ที่ธปท. ออกถือว่ามีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้การเข้าถึงคนมากขึ้น คนที่ไม่มีโอกาสกู้เงินได้ใช้ระบบบิลดิ้ง ผ่านกาารใช้ข้อมูลมือถือ ส่วนกรุงไทยก็สามารถเช็กได้ว่าจะมีความสามารถให้กู้ได้ตอนไหนบ้าง ถือเป็นโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงในอัตราดอกเบี้ยไม่แพงมาก ทั้งนี้ อาจจะหาพันธมิตรเพิ่มในอนาคตเพื่อมาช่วยสนับสนุน อีกทั้ง การที่ธปท. เข้มงวดกฏระเบียบถือว่าดี จะสนับสนุนให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ยิ่งเรามีเทคโนโลยีที่พร้อมจะสร้างความมั่นใจมากขึ้น

“ส่วนแผนธุรกิจยังไม่คุยกัน การเข้าถึงฐานลูกค้าทั้ง 2 มีฐานลูกค้าเยอะ จึงมีโอกาสมากขึ้น มีแนวโน้มกลุ่มปล่อยกู้อยู่แล้ว เชื่อว่ารายเล็กที่ต้องการกู้เงินหลักหมื่นบาทหรือหลักแสนบาทจะเข้าถึงง่าย เราจะช่วยคนส่วนมากทั้งประเทศได้เข้าถึงเงินทุน ในอนาคตชีวิตคนเราเปลี่ยนมาสู่ ดิจิทัล เอไอ คลาวด์ มากขึ้น ปีหน้าเราสร้างดาต้าเซ็นเตอร์เสร็จ ธุรกิจด้านอินฟราสตรัคเจอร์ด้านดิจิทัลจะขยายธุรกิจได้เรื่อยๆ”

ในส่วนของธุรกิจพลังงาน บริษัทมีแผนลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มีแผนที่จะร่วมกับ บริษัท ปตท. น้ำมัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ว่าจะต่อยอดธุรกิจร่วมกัน นอกจากนี้ กัลฟ์เองก็ลงทุนด้านพลังงานสะอาดทั้ง ลม แสงแดด ถือว่ามีดีมานด์ คนที่จะลงทุนในไทยมีเยอะ

ล่าสุดรัฐบาลมีการกำหนดราคาค่าไฟสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้อุตสาหกรรมได้คนใช้ไฟฟ้าสีเขียว จะช่วยดึงต่างชาติมาลงทุน เพราะปัจจุบันนักลงทุนต้องการไฟสีเขียวจำนวนมาก โชคดีที่รัฐบาลไทยได้สนับสนุนให้ไทยถือเป็นประเทศแรกๆ ที่ออกใบรับรองไฟสะอาด ซึ่งอีกไม่นานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็จะออกมาอีก

สำหรับเศรษฐกิจปีนี้น่าจะมีการเติบโตที่ดี ปีที่ผ่านมางบประมาณออกช้าก็จะเงียบเหงา ปีนี้น่าจะมีมูฟเมนท์ที่ดี ตอนนี้รัฐบาลพยายามเสริมให้การลงทุนมากขึ้นจากต่างประเทศ ไทยอยู่ในช่วงการมาร์เก็ตติ้ง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ตามด้วยโปรเจกต์ และนโยบายต่างๆ ที่เตรียมมา

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์