‘ภูมิธรรม’ หารือทูตอินเดีย ชวนลงทุนในอีอีซี

‘ภูมิธรรม’ หารือทูตอินเดีย  ชวนลงทุนในอีอีซี

‘ภูมิธรรม’ หารือ ทูตอินเดีย เร่งรัดการออกใบอนุญาตนำเข้ายางล้อ-โทรทัศน์สี และใบรับรองมาตรฐานสินค้าเครื่องปรับอากาศ เม็ดพลาสติก ไม้พาทิเคิลบอร์ด ไม้เอ็มดีเอฟ และเส้นใยเรยอน ชวนลงทุนใน EEC ด้านอุตสาหกรรมยา รถยนต์ไฟฟ้า และอวกาศ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้พบหารือกับ นายนาเกช ซิงค์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้แสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาการค้า โดยไทยได้ขอให้อินเดียเร่งรัดออกใบอนุญาตนำเข้ายางล้อและโทรทัศน์สี ใบรับรองมาตรฐานสินค้าเครื่องปรับอากาศ เม็ดพลาสติก ไม้พาทิเคิลบอร์ด ไม้เอ็มดีเอฟ และเส้นใยเรยอน และหาแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านอวกาศและการขยายเส้นทางการบินระหว่างไทยกับอินเดีย เพื่อรองรับการเดินทางของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนนักลงทุนอินเดียเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยา รถยนต์ไฟฟ้า และอวกาศ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นต่อการผลักดันการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย ให้มีผลสำเร็จโดยเร็ว และการเจรจาต่อยอดความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-อินเดีย เพื่อจะใช้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าและการลงทุน ให้ขยายตัวตามศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยและอินเดีย ทั้งนี้ อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และมีการขยายตัวของ GDP เฉลี่ย 7-8%

นอกจากนี้ ทูตอินเดียได้เชิญตนเดินทางเยือนอินเดีย เพื่อพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมอินเดีย และภาคเอกชนรายใหญ่ของอินเดีย เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลไทยที่จะยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) กับอินเดีย

ทั้งนี้ ในปี 2566 การค้าระหว่างไทยและอินเดีย มีมูลค่า 16,044.89 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปอินเดีย มูลค่า 10,118.01 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากอินเดีย มูลค่า 5,926.88 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ อัญมณีและเครื่องประดับ และเหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และสินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์