“จุลพันธ์”มั่นใจ2สัปดาห์สรุปเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล

“จุลพันธ์”มั่นใจ2สัปดาห์สรุปเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล

“จุลพันธ์”มั่นใจภายใน 2 สัปดาห์ได้ข้อสรุปเงื่อนไขแจกเงินดิจิทัล เบื้องต้นไม่มีแนวคิดตัดสิทธิ์คนรวย ประเมินวงเงินอาจลดเหลือ 5.48 แสนบาท หลังคาดอาจมีคนจำนวนหนึ่งไม่เข้าร่วมโครงการ เผยไม่ต้องลงทะเบียนแค่ยืนยันตัวตน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวยืนยัน กระแสข่าวเกี่ยวกับการตัดสิทธิ์คนที่มีรายได้สูงหรือการเตรียมวงเงินไว้เพียง 4 แสนล้านสำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทไม่ใช่ความจริง เพราะขณะนี้โครงการยังไม่ได้สรุปรายละเอียดออกมา โดยคณะอนุกรรมการอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อนำมาเสนอต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ คาดจะได้ข้อสรุปโดยเร็วภายใน 2 สัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมรับฟังความเห็นในส่วนที่มีข้อเสนอจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งในส่วนการพิจารณาเงื่อนไขการแจกเงิน เราไม่ได้ดูเรื่องความรวยหรือจน เพราะเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ใช่โครงการสงเคราะห์ช่วยเหลือคนยากจน แต่ประเด็นที่ต้องพิจารณาคือมุมมองการใช้จ่ายของคนที่มีรายได้สูงจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่หรือเพียงเอาเงินไปออมแทน

 

“เราได้ให้การบ้านต่ออนุกรรมการไปพิจารณาในเงื่อนไขสำหรับกลุ่มคนที่ควรได้รับเป็นอย่างไร เช่น หลักเกณฑ์การดูคนรวยเป็นอย่างไร เช่น ควรดูที่เงินฝาก ที่ดิน หรือการเสียภาษี เราก็อยากถามกลับไปยังผู้เสนอความคิดนี้ว่ามีข้อเสนอเรื่องนี้อย่างไร รัฐบาลพร้อมรับฟังมาปรับเงื่อนไข ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมและมีความชัดเจน”

สำหรับกรณีกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกออกมาเตือนรัฐบาลทั่วโลกให้พยายามรักษาวินัยการเงินการคลังท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เขายืนยันว่า รัฐบาลจะรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด แต่รัฐบาลก็จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการเติบโตสูงกว่าศักยภาพ 

“ปัญหาเศรษฐกิจในหลายปีที่ผ่านมานั้น ทำให้เงินประชาชนขาดมือ เราจึงต้องเติมเงินเข้าไปให้ เพื่อให้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายรัฐ”

อย่างไรก็ดี ในแง่วงเงินที่เราจะนำมาใช้นั้น จะไม่ถึง 5.6 แสนล้านบาทแน่นอน เพราะคนที่มีอายุเกิน 16 ปี มีแค่ 5.48 ล้านคน ดังนั้น จะมีกรอบเต็มที่แค่ 5.48 แสนล้านบาท ยังไม่นับรวมเงื่อนไขที่ดูความจำเป็นของกลุ่มคนและคนที่ไม่มาร่วมโครงการ

เขายังกล่าวถึงเงื่อนไขในการสมัครร่วมโครงการเบื้องต้นนั้น ยืนยันไม่ต้องมีการลงทะเบียน แต่ต้องทำการยืนยันตัวตนด้วยระบบเควายซี จากนั้น กดรับสิทธิ์ จะได้เข้าร่วมโครงการอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ สำหรับผู้ที่เคยร่วมโครงการรัฐที่ผ่านมาสี่สิบล้านคนที่ได้เควายซีไปแล้วก็ไม่ต้องมายืนยันตัวตน ฉะนั้น จึงเหลือเพียงสิบล้านคนเท่านั้น ที่จะต้องมายืนยันตัวตน