‘แอร์เอเชีย’ ลุยปรับโครงสร้าง ขยายบินระยะไกลชูราคาเข้าถึง

‘แอร์เอเชีย’ ลุยปรับโครงสร้าง  ขยายบินระยะไกลชูราคาเข้าถึง

เปิดวิชั่น “โทนี่ เฟอร์นานเดส” เจ้าพ่อโลว์คอสต์แอร์ไลน์ กางแผนดัน “แอร์เอเชีย” สู่ผู้นำสายการบินระดับโลก เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ เน้นใช้เครื่องบินลำตัวแคบ ขยายเส้นทางบินระยะไกล

นำคนทั่วโลกทั้ง ยุโรป แอฟริกา เอเชียกลาง และอเมริกาเหนือ มุ่งสู่อาเซียนด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย

ส่องภาพรวมอุตสาหกรรมการบินในทั่วโลกในช่วงเวลารีสตาร์ตขึ้นอีกครั้ง ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทะยานขึ้น สะท้อนชัดเจนจากภูมิภาคอาเซียน ตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญของการท่องเที่ยวโลก โดยปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในภูมิภาคอาเซียนกว่า 100 ล้านคน คิดเป็น 70% ของตัวเลขในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด แม้ว่าจะยังไม่เทียบเท่าช่วงปกติ แต่เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังกลับมาแล้ว

“แอร์เอเชีย” ในฐานะผู้นำสายการบินโลว์คอสต์ในภูมิภาคนี้ ต้นกำเนิดจากประเทศมาเลเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2544 โดยนายโทนี่ เฟอร์นานเดส บุกเบิกสร้างโมเดลธุรกิจสายการบินราคาประหยัดที่เน้นความเรียบง่ายและความคุ้มทุน เน้นใช้เครื่องบินลำตัวแคบ เที่ยวบินระยะสั้นเป็นหลักในภูมิภาค

ต่อมาขยายสู่ “แอร์เอเชีย เอ็กซ์” ก่อตั้งขึ้นช่วงปี 2550 วางแนวทางธุรกิจสอดคล้องกัน เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ และให้บริการการบินระยะไกล หรือมากกว่า 4 ชั่วโมงเป็นหลัก โดยในปี 2567 ได้ประกาศปรับแผนองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อนำพาธุรกิจก้าวสู่ศตวรรษใหม่ ในฐานะผู้เล่นหลักในตลาดการบินระดับโลก

‘แอร์เอเชีย’ ลุยปรับโครงสร้าง  ขยายบินระยะไกลชูราคาเข้าถึง

นายโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคปปิตอล เอ (Capital A) และที่ปรึกษา แอร์เอเชีย กรุ๊ป (AirAsia Aviation Group) ซึ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ ฉายภาพอุตสาหกรรมการบินมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการดำเนินงานของบริษัทที่มีแนวโน้มขยายตัว ทำให้บริษัทได้ก้าวออกมาจากอุโมงค์ที่เรียกว่าโควิดแล้ว สามารถปรับตัวและทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่น เข้มแข็งมากขึ้น พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่

“ตั้งแต่ร่วมก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชียมาร่วม 2 ศตวรรษ มีเหตุการณ์สำคัญ การเกิดโควิดครั้งใหญ่กระทบต่อสายการบินในทั่วโลกและแอร์เอเชีย แต่ความสำเร็จครั้งใหญ่คือ การนำพาองค์กรกลับมาได้ ทำให้ในปีนี้พร้อมแล้วที่จะขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตครั้งใหม่”

‘แอร์เอเชีย’ ลุยปรับโครงสร้าง  ขยายบินระยะไกลชูราคาเข้าถึง

สำหรับแผนปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ มีขึ้นภายหลังที่คณะกรรมการบริหารของ แคปปิตอล เอ ได้อนุมัติให้ตนเองดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารต่ออีก 5 ปี โดยการปรับโครงสร้างใหม่ ทั้ง แคปปิตอล เอ และ แอร์เอเชีย กรุ๊ป ลงนามข้อตกลงการซื้อ-ขายแบบมีเงื่อนไข เพื่อทำให้การดำเนินงานงานของสายการบินของแอร์เอเชียทั้งหมด ทั้งแอร์เอเชีย และแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มารวมอยู่ด้วยกัน ภายใต้โฮลดิ้ง แอร์เอเชีย กรุ๊ป (AirAsia Aviation Group) รองรับการเส้นทางการบินในอนาคต และเพิ่มจำนวนสายการบินให้ใหญ่มากขึ้น ซึ่ง แอร์เอเชีย กรุ๊ป ได้เข้าซื้อกิจการจาก แคปปิตอล เอ เป็นจำนวนเงิน 6.8 พันล้านริงกิต ซึ่งชำระด้วยหุ้นและการบริหารจัดการหนี้ สำหรับ แคปปิตอล เอ จึงมุ่ง 4 ธุรกิจหลัก ในด้านการให้บริการด้านการบิน ธุรกิจการขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจดิจิทัล รองรับการเติบโตและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ

ขณะที่แนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจสายการบินนับจากนี้ มุ่งมั่นพลิกโฉมอุตสาหกรรมการบินและการเดินทางในโลก โดยการร่วมเป็นเครือข่ายกับสายการบินต่างๆ และขยายเส้นทาง ขณะที่ แคปปิตอล เอ มีการสั่งซื้อเครื่องบิน จำนวนเกือบ 400 ลำ และจะทยอยการส่งมอบอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2578 

ทั้งหมดสอดรับกับวิสัยทัศน์ขององค์กรที่เป็นผู้นำ โลว์คอสต์แอร์ไลน์ในภูมิภาค และมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้เล่นหลักในตลาดการบินระดับโลก พร้อมแข่งขันกับสายการบินขนาดใหญ่ในตลาดโลก ภายใต้ต้นทุนที่แข่งขันได้ดีมากขึ้น การเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ การขยายธุรกิจใหม่ๆ

ลุยขยายเส้นทางบินระยะไกล

ในปีนี้​บริษัทจะได้รับเครื่องบิน แอร์บัส A321LR และ A321XLR มีความโดดเด่นทั้งสามารถรองรับเส้นทางการบินในระยะไกลมากขึ้น ไปจนถึง 7-10 ชั่วโมง มีต้นทุนที่ประหยัดขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องบินลำตัวแคบรุ่นก่อนๆ จึงเพิ่มโอกาสให้แก่ธุรกิจ และขยายเส้นทางบินระยะไกลในเมืองใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ โดยที่ผ่านมาแอร์เอเชีย สามารถบุกเบิกเส้นทางการบินใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีสายการบินใดทำมาก่อนและประสบความสำเร็จมาตลอด

สำหรับกลยุทธ์ได้ใช้แนวทาง “One Airline” ในการเร่งการขยายเส้นทางการบิน และเมืองใหม่ๆ ที่มีศักยภาพการเติบโตด้านการท่องเที่ยว เพื่อทำให้การท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียนขยายตัวไม่ได้จำกัดแค่เมืองใหญ่เท่านั้น พร้อมนำผู้คนในโลกเดินทางเข้ามาสู่ภูมิภาคอาเซียน และการนำผู้คนในอาเซียนที่มีร่วม 700 ล้านคนออกไปสู่ตลาดโลก

“เป้าหมายสำคัญภายหลังได้รับการต่อสัญญาทำงานไปอีก 5 ปียังมุ่งมั่นนำพา แอร์เอเชีย ก้าวสู่ผู้นำในตลาด สายการบินโลว์คอสต์ ในภูมิภาค และการขยายธุรกิจมุ่งวิสัยทัศน์การเป็นสายการบินชั้นนำในโลก”

‘แอร์เอเชีย’ ลุยปรับโครงสร้าง  ขยายบินระยะไกลชูราคาเข้าถึง

มุ่งหน้าสู่เน็ตฟลิกซ์ของสายการบิน

อีกแนวรุกการขยายธุรกิจใหม่ กับการมี แอร์เอเชีย มูฟ (AirAsia MOVE) ผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจรมาเสริมบริการให้แก่นักท่องเที่ยว โดยเปิดให้จองเที่ยวบินจากสายการบินโลว์คอสต์ทั้งสายการบินแอร์เอเชียและสามารถจองเที่ยวบินจากอีกกว่า 700 สายการบินพันธมิตร รวมถึงโรงแรมกว่า 900,000 แห่งทั่วโลก พร้อมบริการจองรถรับส่ง ร้านอาหาร ซื้อบริการประกันภัย และบริการอื่นๆ ตลอดจนการได้รับสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกจาก MOVE Rewardsเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ

ล่าสุดได้ขยายการทำแพ็กเกจการท่องเที่ยวใหม่ “Explorer Pass” แพ็กบินฟินตะลุยอาเซียนโดยเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก มาท่องเที่ยวในอาเซียนได้แบบไม่จำกัด ราคาเพียง 8,640 บาท จ่ายเพียงครั้งเดียว บินได้ทั้งปี โดยแพ็กเกจท่องเที่ยวใหม่นี้ ต้องการร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ไม่ให้จำกัดเฉพาะเมืองหลักแต่ขยายไปในเมืองรอง สู่จุดหมายปลายทางรวม 100 เส้นทางใหม่ ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ให้สามารถขยายตัวดี พร้อมวางเป้าหมาย ทำให้ AirAsia MOVE ก้าวสู่ การเป็น เน็ตฟลิกซ์ ของการให้บริการด้านสายการบิน ซึ่งเมื่อลูกค้าสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกรายปีครั้งเดียว ก็สามารถใช้บริการการบินและการท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ลุยเชื่อมต่อเส้นทางยุโรป แอฟริกา เอเชียกลาง อเมริกาเหนือ

นายเบนยามิน อิสมาอิล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอร์เอเชีย เอ็กซ์ (AirAsia X) ฉายภาพการเข้าร่วมมือกลยุทธ์ในครั้งนี้ บริษัทวางแผนใช้ประโยชน์จากเครื่องบินที่จะได้รับมอบมาใหม่ในระยะยาว จึงสามารถนำไปขยายเส้นทางการบิน เพื่อเชื่อมต่ออาเซียนกับยุโรป แอฟริกา เอเชียกลาง และอเมริกาเหนือ

ทั้งหมดจะร่วมทำให้สถานะของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นในฐานะผู้เล่นหลักในตลาดการบินระดับโลก