‘โอสถสภา’ เร่งโตสินค้าเพอร์ซันนอลแคร์ ดันยอดขายแตะ 4,000 ล้าน ในปี 70

‘โอสถสภา’ เร่งโตสินค้าเพอร์ซันนอลแคร์  ดันยอดขายแตะ 4,000 ล้าน ในปี 70

“โอสถสภา” อาณาจักรหมื่นล้าน ยืนหนึ่งในตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ลุยเสริมแกร่งสินค้าเพอร์ซันนอลแคร์ ชูนวัตกรรม ต่อยอดจุดแข็งแบรนด์เรือธง ขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย จัดเต็มการตลาด ขยายช่องทางจำหน่าย ดันยอดขายเติบโต 4,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

สุทิพา ปัญญามหาทรัพย์ Chief Home & Personal Care and Health Care Officer บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า โอสถสภามีการศึกษาเทรนด์และพฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคอยู่เสมอ พร้อมมองหาโอกาสและวางกลยุทธ์สร้างสรรค์สินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างทันท่วงที 

ล่าสุด จากแนวโน้มตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลหรือเพอร์ซันนัลแคร์และเครื่องใช้ดูแลครัวเรือนหรือโฮมแคร์ เช่น สินค้าหมวดสำหรับแม่และเด็กมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพอร์ซันนอลแคร์ขยายตัวรับเทรนด์ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้าน การดูแลตัวเอง ทำให้บริษัทเดินหน้าบุกตลาดเพื่อผลักดันการเติบโตของยอดขาย

ทั้งนี้ เป้าหมายใหญ่ของโอสถสภา ในปี 2570 หรือภายใน 4 ปี จะสร้างการเติบโตยอดขายกลุ่มเพอร์ซันนอลแคร์อีกเกือบเท่าตัว หรือแตะ 4,000 ล้านบาท จากปี 2566 บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 2,486 ล้านบาท เติบโต 1.4% จากปี 2565 โดยผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบรนด์ “ทเวลฟ์ พลัส” และ “เอ็กซิท” เติบโตในอัตรา 2 หลัก เป็นต้น

สำหรับกลยุทธ์สร้างการเติบโต ประกอบด้วย การเสริมสร้างศักยภาพ ตำแหน่งผู้นำผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กตัวจริง โดยผลิตภัณฑ์กลุ่ม House of Mildness ที่มี “เบบี้ มายด์” เป็นแบรนด์ชูธงที่อยู่คู่ครอบครัวคนไทยมาตลอดกว่า 30 ปี ครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สบู่เหลวอาบน้ำเด็กอย่างแข็งแกร่งด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 38.3% ปีที่ผ่านมาโอสถสภาปรับกลยุทธ์การตลาดเจาะอินไซต์คุณแม่ รับความต้องการของคุณแม่ยุคใหม่ จึงปรับ Brand proposition ใหม่สู่ “The Power of Gentle Touch พลังสัมผัสอันอ่อนโยน สานสัมพันธ์ให้แข็งแรง” เพื่อสื่อถึงความสำคัญของพลังสัมผัสอันอ่อนโยนของแม่จากการทำกิจวัตรประจำวันง่ายๆที่คุณแม่สามารถทำได้ทุกวัน

‘โอสถสภา’ เร่งโตสินค้าเพอร์ซันนอลแคร์  ดันยอดขายแตะ 4,000 ล้าน ในปี 70

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 เบบี้ มายด์ เตรียมปล่อยแคมเปญ “Momchestra” เปิดออดิชั่น ชวนคุณแม่ร่วมส่งคลิปร้องเพลงกล่อมลูกเข้านอน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในหนังโฆษณาเบบี้มายด์ ตอกย้ำแนวคิดไม่มีใครที่จะทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและหลับได้ที่สุดเท่ากับแม่

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าต่อยอดจุดแข็งของแบรนด์ ขยายพอร์ตสินค้าสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ สำหรับแบรนด์ ‘อัลตร้ามายด์ บาย เบบี้มายด์” พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น ครีมอาบน้ำสำหรับผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ล้างจาน และล่าสุด ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น จำหน่ายเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ร้านวัตสัน สินค้าเหล่านี้พร้อมตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายทั้งวัยรุ่น วัยทำงาน ตลอดจนกลุ่มผู้สูงวัยหรือ silver generation

อีกหัวใจสำคัญในการป้อนสินค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง คือ “การขยายช่องทางจำหน่าย” ซึ่งโอสถสภาใช้ศักยภาพด้านการกระจายสินค้าของบริษัทสู่ร้านค้ากว่า 400,000 แห่งทั่วประเทศ และยังขยายสู่ “ช่องทางอีคอมเมิร์ซ” ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายด้วย

“เบบี้ มายด์ สามารถครองตำแหน่งสินค้าผลิตภัณฑ์อาบน้ำและดูแลผิวเด็กยอดขายอันดับ 1 (วัดจากยอดขายร้าน official store) บนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee ซึ่งปัจจุบัน เบบี้ มายด์ มียอดขายจากช่องทางดังกล่าวเติบโตขึ้นถึง 7 เท่า (693%) นับจากปีแรกที่เริ่มขายบนช่องทางอีคอมเมิร์ซ”

นอกจากนี้ การคิดค้นนวัตกรรมสินค้า เป็นอีกกลยุทธ์สำคัญ โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม House of Beauty แบรนด์ “ทเวลฟ์พลัส” และ “เอ็กซิท” ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง โอสถสภา ได้ชูจุดแข็งด้านการใช้น้ำหอมที่มีคุณภาพสูง และสร้างความแตกต่างผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้สามารถระงับกลิ่นกายได้ยาวนานตลอดวัน ดูแลสุขภาพผิวใต้วงแขน ฯ ส่งผลให้แบรนด์ “ทเวลฟ์พลัส” เป็นผู้นำอันดับ 2 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ลูกกลิ้งระงับกลิ่นกายสำหรับผู้หญิงอย่างแข็งแกร่งและครองส่วนแบ่งตลาด 10.7% ขณะที่ “เอ็กซิท” ตั้งเป้าหมายเป็นผู้นำตลาดอันดับ 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์โรลออนสำหรับผู้ชาย

‘โอสถสภา’ เร่งโตสินค้าเพอร์ซันนอลแคร์  ดันยอดขายแตะ 4,000 ล้าน ในปี 70

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ยังตอบโจทย์ช่องทางการขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์ Twelve Plus Brightening Perfume Lotion โลชั่นน้ำหอมกลิ่นเคาน์เตอร์แบรนด์ในราคาที่เข้าถึงได้ มีวางจำหน่ายในร้านวัตสันเท่านั้น การ collab ข้ามแบรนด์ของ ทเวลฟ์พลัส กับ เบบี้มายด์ เป็นผลิตภัณฑ์โคโลญกลิ่นแป้งเด็ก วางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น ซึ่งประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป้าหมาย

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนสำหรับผู้ใหญ่ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ และผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ เตรียมแตกไลน์สินค้าและออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัวที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน รองรับโอกาสทางการตลาดที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง พร้อมแผนกลยุทธ์เพื่อรักษาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ครองใจกลุ่มเป้าหมายหลักอย่างเหนียวแน่น 

“โอสสถสภา ก้าวสู่ความเป็นผู้นำของกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในบ้าน และพร้อมรุกตลาดอย่างเต็มที่ ด้วยการมุ่งสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์หรือตราสินค้าหลัก และขยายไปยังกลุ่มสินค้าใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดที่มีศักยภาพ ขยายสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาดในเซ็กเมนต์อื่นๆ ตามแผนยุทธศาสตร์การเติบโตระยะยาว”