‘สงกรานต์’ เชียงใหม่ซึม กระอักพิษฝุ่น PM ลุ้นยอดเข้าพักโรงแรมแตะ 60-75%

‘สงกรานต์’ เชียงใหม่ซึม กระอักพิษฝุ่น PM ลุ้นยอดเข้าพักโรงแรมแตะ 60-75%

สงกรานต์ เชียงใหม่ 2567 ซึม พิษฝุ่น PM 2.5 ฉุดความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทย เซนสิทีฟสุด ‘สมาคมโรงแรมไทย’ หวังอัตราการเข้าพักเฉลี่ยช่วงเทศกาลแตะ 60-75% หลังยอดจองยังเข้ามาเพียง 50%

นางละเอียด บุ้งศรีทอง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมรติล้านนา ริเวอร์ไซด์ สปา รีสอร์ท เชียงใหม่ และที่ปรึกษาคณะกรรมการสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่า ภาพรวมบรรยากาศเทศกาล สงกรานต์ เชียงใหม่ 2567 ประเมินว่าน่าจะซึม ไม่คึกคัก แต่ก็ไม่ถึงกับเงียบเหงา จากปัจจัยนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ของสงกรานต์เชียงใหม่ ได้รับผลกระทบเรื่องความเชื่อมั่นจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 

รวมไปถึงปัจจัยสถานการณ์ราคาตั๋วเครื่องบินที่แพง ต้องรอดูการเพิ่มเที่ยวบินพิเศษของสายการบินต่างๆ ว่าจะช่วยเพิ่มการตัดสินใจแบบกระชั้นชิด (Last Minute) ของนักท่องเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน ประกอบกับประเทศต่างๆ ออกแคมเปญน่าสนใจ โปรโมตคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ ทำให้ตลาดคนไทยเที่ยวเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์ น่าจะหายไปพอสมควร

“ในปีที่ผ่านๆ มา การจัดงานเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่ จะจัดระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. มีกิจกรรมหลากหลาย แต่ในปีนี้จัดนานขึ้น เป็นระหว่างวันที่ 7-17 เม.ย. แต่ด้วยการสื่อสารโปรโมตอาจจะสั้นไป ทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจได้ไม่เร็ว โดยปัจจุบันมียอดจองห้องพักในเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์ เข้ามา 50% ถ้าสามารถเพิ่มขึ้นเป็น 60-75% ในช่วง 13-15 เม.ย. หรือยาวตลอด 7-17 เม.ย. ก็น่าจะเป็นที่น่าพอใจของผู้ประกอบการ”

‘สงกรานต์’ เชียงใหม่ซึม กระอักพิษฝุ่น PM ลุ้นยอดเข้าพักโรงแรมแตะ 60-75%

นางละเอียด กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในปัจจุบัน พบว่ามีความคืบหน้าในการกำกับดูแลพอสมควร แต่ด้วยปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องแก้ง่าย เพราะมีเรื่องระบบนิเวศในป่า มีเรื่องพื้นที่ฮอตสปอต (Hot Spot) รวมถึงการกำกับดูแลในแต่ละอำเภอ จังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้านด้วย

“สิ่งหนึ่งที่อยากเห็นในอนาคตคือ การสื่อสาร การให้ความรู้ และการขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รัฐบาลเองก็ต้องมอนิเตอร์ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ให้ดีขึ้นเมื่อเทียบปีต่อปีตามลำดับ เพราะอากาศสะอาดเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากได้ ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยว แต่รวมไปถึงภาคประชาสังคมด้วย สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวได้ เพื่อชูจุดขายว่าภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่มีอากาศดี สามารถขายว่ามาเที่ยวได้ตลอดปี 365 วัน โดยเฉพาะตลาดนักท่องเที่ยวไทยซึ่งเป็นตลาดที่เซนสิทีฟ (Sensitive) มากที่สุด หลังพบว่าหลีกเลี่ยงการเดินทางมาเชียงใหม่ในช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา”

สำหรับภาพรวมอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมใน จ.เชียงใหม่ เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เดิมประเมินว่าน่าจะอยู่ที่ 65-70% แต่ล่าสุดคาดการณ์ว่าน่าจะอยู่ที่ 50-55% เท่านั้น

“จากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ถือเป็น Pain Point ของภาคการท่องเที่ยวเชียงใหม่ เป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ โดยในช่วงที่มีปัญหาฝุ่น เราก็พยายามสื่อสารกับนักท่องเที่ยวว่าควรใช้ชีวิตอย่างไร เช่น อยู่พื้นที่ในร่ม (Indoor) ช่วงเช้า และสามารถออกมาข้างนอกอาคารได้ในช่วงบ่ายเมื่ออากาศดีขึ้น รวมถึงการแจกหน้ากากอนามัย และวิธีการต่างๆ แม้จะดูเป็นวิธีการแก้ปลายเหตุพอสมควร แต่ก็เป็นวิธีรับมือหน้างานที่ผู้ประกอบการโรงแรมทำได้”