ส่องตลาดช็อกโกแลต 8,000 ล้านบาทแข่งหนัก 'คิทแคท' ครบ 40 ปี รุกครั้งใหญ่ในไทย

นายอภิวัฒน์ อิริยาภิชาติ ผู้อำนวยการบริหารหน่วยธุรกิจ เนสท์เล่ คอนเฟคชันเนอรี่บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ฉายภาพตลาดช็อกโกแลตในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท มีแนวโน้มขยายตัวเฉลี่ยประมาณ 10% ในทุกปี และมีการแข่งขันรุนแรง โดย คิทแคท ได้วางกลยุทธ์มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมการมุ่งรักษาคุณภาพของสินค้า ทำให้บริษัทสามารถรักษาผู้นำในตลาดได้

สำหรับคิทแคท ได้ก้าวสู่ปีที่ 40 ปีในประเทศไทยแล้ว ได้เตรียมแผนการตลาดครั้งใหญ่ในรอบปี ทั้งการเปิดตัว รสใหม่ใบเตย เป็นสินค้ารุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น เข้ามาทำตลาดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น มีแผนรุกทำตลาดในเดือน เม.ย.นี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนาน และนำเสนอความเป็นไทยผ่านรสชาติใหม่

ทั้งนี้ได้วางเป้าหมาย เจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้ารสชาติใหม่ กลุ่มลูกค้าคนไทยที่ชื่นชอบรสชาติใบเตย และกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว ที่สนใจรสชาติสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไทย รวมถึงมีสินค้าใหม่ คือ คิทแคทบาร์ ช็อกโกแลต ไซส์ใหญ่

นอกจากการเปิดสินค้าใหม่แล้ว อีกแผนการตลาดได้จัดทำ แคมเปญ “พักความห่าง ถึงต่างก็เข้าใจ” จากการดึงอินไซต์เรื่องไลฟ์สไตล์และบริบททางสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ต่างมีมุมมองและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน แม้จะมีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามโลกยุคใหม่แต่ยังต้องการรสชาติช็อกโกแลตอยู่ จึงเป็นที่มาของแคมเปญนี้เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างคนทุกวัยให้ได้เข้าใจและใกล้ชิดกันมากขึ้น

 

วางเกมดึง โฟร์ท-โอปอล เจาะสองเจน

พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนใหม่ “โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล” และ “โอปอล-ปาณิสรา อารยะสกุล” มาร่วมขยายตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งสองกลุ่ม ทั้ง “โฟร์ท” ซึ่งเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ และ “โอปอล” ตัวแทนกลุ่มคนทำงานและนักธุรกิจซึ่งประสบความสำเร็จมาตลอดหลายปี

อีกทั้งได้วางแผนการตลาด เพื่อเป็นการเข้าถึง Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ทั้งมุ่งทำตลาดผ่านสื่อดิจิตอลทุกแพลตฟอร์ม ภาพยนตร์โฆษณา บิลบอร์ด และสื่อ ณ จุดขาย ร่วมจัดทำ AR ซองคิทแคทยักษ์ บริเวณ EM Tower และ Emsphere ทั้งหมดจะร่วมตอกย้ำความเป็นผู้นำของแบรนด์ในตลาดประเทศไทย

เปิดคีย์หลักสร้างแบรนด์เติบโตแกร่ง

คิทแคท ที่อยู่ในตลาดไทยมากว่า 40 ปีแล้ว ปัจจัยที่สร้างให้แบรนด์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งการบริโภคหรือการรับสื่อ คือ คิทแคท ได้จัดทำคาแร็กเตอร์แบรนด์ที่มีความสนุกสนาน และนำเสนอสโลแกน “คิดจะพัก คิดถึงคิทแคท” ที่ลูกค้าต่างจดจำได้ รวมถึงความมุ่งมั่นคุณภาพของสินค้าตามมาตรฐานของเนสท์เล่

อีกทั้งคิทแคท มีการพัฒนาและมีนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แบรนด์มีความน่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกยุค ผ่านทั้งผลิตภัณฑ์ แคมเปญ และการสื่อสารที่น่าสนใจ พร้อมมีการนำเสนอภาพลักษณ์ในการร่วมสร้างรอยยิ้มรวมทั้งให้ความสุข เพื่อทำให้แบรนด์คิทแคทเป็นแบรนด์ครองตลาดกลุ่มผู้บริโภคในทุกวัย

หากประเมินภาพรวมของคิทแคท มีสินค้าหลักได้แก่ คิทแคทช็อกโกแลต คิทแคทดาร์ก คิทแคทชังกี้ และคิทแคทไบท์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม คิทแคท เป็นแบรนด์ที่อยู่ในไทยมาร่วม 40 ปีแล้ว โดยในตลาดโลกแบรนด์เข้ามาทำตลาดร่วม 100 ปี ภายใต้บริษัท เนสท์เล่ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก

เนสท์เล่ มีประวัติศาสตร์มานานกว่า 150 ปี บริษัทมีการทำตลาดครอบคลุม 188 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 270,000 คน โดยมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงรวมกว่า 2,000 แบรนด์ ซึ่งมีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ ไมโล แม็กกี้ รวมถึงมีแบรนด์ที่ลูกค้าในแต่ละพื้นที่ชื่นชอบอย่าง ตราหมี และ มิเนเร่ ส่วนแนวทางขับเคลื่อนธุรกิจ ได้วางกลยุทธ์ร่วมสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภค สำหรับในประเทศไทยที่มีฐานผลิตสินค้าบางกลุ่มอยู่ในประเทศเช่นกัน