โรงหนังคึกคัก ผนึกบิ๊กพันธมิตรลุย ‘เนมมิ่ง สปอนเซอร์’ มอบประสบการณ์แตกต่าง

“เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ที่ยืนหยัดเป็น “ผู้นำ” ในอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์อย่างแข็งแกร่ง ยังสร้างผลประกอบการที่โดดเด่น ส่วนหนึ่งเพราะมีแรงหนุนจากภาพยนตร์ไทยที่เติบโตด้วย ทำให้ปี 2566 บริษัทสร้างรายได้รวม 8,551 ล้านบาท เติบโตขึ้น 34% และมีกำไรสุทธิ 1,042 ล้านบาท เติบโตมากถึง 313% จากปี 2565 ที่ผ่านมา

โมเมนตัมรายได้ที่เติบโตของ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ยังปลุกกระแสให้โรงภาพยนตร์กลับมาคึกคัก แบรนด์สินค้าให้ความสนใจผนึกพันธมิตรในการทำกิจกรรมทางการตลาดกันอย่างคึกคัก หนึ่งในนั้นคือกลยุทธ์การเป็น “เนมมิ่ง สปอนเซอร์” (Naming Sponsor) หรือนำแบรนด์สินค้าและบริการไปเป็นปรากฏในโรงภาพยนตร์นั้นๆ เนื่องจากช่วยให้แบรนด์ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบความบันเทิงนอกบ้าน การมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า และสร้างเอนเกจเมนต์ได้เป็นอย่างดี

นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ฉายภาพว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจโรงภาพยนตร์เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้า ตอบสนองไลฟ์สไตล์การเสพความบันเทิงนอกบ้าน อย่างการดูภาพยนตร์เรื่องโปรดในโรงหนังในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ โจทย์ใหญ่สำคัญไม่เพียงแค่ต้องการมอบความสุข ความประทับใจให้กับคอหนังผ่านเนื้อเรื่อง หรือ คอนเทนต์ของหนังแล้ว แต่บริษัทยังมุ่งสร้างความแตกต่างในการดูหนังด้วยภาพและเสียง เพื่อเพิ่มอรรถรสและดึงอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้าให้เข้าไปอยู่ในหนังด้วย ยิ่งกว่านั้นถือเป็นการมอบที่สุดแห่งการสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงให้กับกลุ่มเป้าหมาย สอดคล้องกับ พันธกิจหรือ Mission เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ด้วย

ล่าสุด เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร “บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด” นำสุดยอดนวัตกรรมจอแอลอีดี (LED) ขั้นสูง และใหญ่ที่สุดในไทย มาให้บริการที่โรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์ บางนา พร้อมสนับสนุนเป็น “เนมมิ่ง สปอนเซอร์” เปิดตัวโรงภาพยนตร์จอ LED “LG Miraclass LED Cinema”

ความพิเศษของโรงภาพยนตร์ “LG Miraclass LED Cinema” เริ่มจาก “จอแอลอีดีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ด้วยขนาดจอกว้าง 14 เมตร สูง 7 เมตร ให้ภาพคมชัดระดับ 4K และรองรับความคมชัดสูงสุด HDR (High Dynamic Range) ด้านเทคโนโลยีจอแอลอีดียังให้ภาพที่สมจริงยิ่งขึ้นด้วยเฉดสีที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า หรือ 35 ล้านล้านเฉดสี ให้ความสว่างคมชัดสม่ำเสมอทั่วทั้งจอภาพ ไม่ว่าจะรับชมจากตำแหน่งที่นั่งใดในโรงภาพยนตร์ ที่สำคัญยังเป็นโรงภาพยนตร์จอแอลอีดี “แห่งแรก” ที่รองรับระบบเสียงรอบทิศทางอย่าง Dolby Atmos ซึ่งเป็นระบบเสียงรอบทิศทางใหม่ล่าสุดที่เพิ่มมิติเสียงจากทุกทิศทางแบบ 360 องศา มีมิติเสียงที่ลงมาจากด้านบนผ่านลำโพง Over head ที่ติดตั้งบนเพดานให้เสียงเอฟเฟกต์ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง หรือ เสียงเครื่องบินอย่างสมจริง เป็นต้น

สำหรับโรงภาพยนตร์ “LG Miraclass LED Cinema” เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมี นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ พร้อมด้วย มร.ซองฮัน จอง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยดารา, นักแสดง และเซเลบริตี้ มาร่วมงานและสัมผัสนวัตกรรมสุดล้ำที่ดีที่สุดแห่งโลกภาพยนตร์

ปัจจุบันการทำกิจกรรมการตลาดนอกจากการมุ่งเพิ่มยอดขายให้เติบโตแล้ว การนำแบรนด์ไปปักธงในใจผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ต้องออกดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลยุทธ์ Naming Sponsor กับโรงภาพยนตร์ถือเป็นอีกอาวุธที่จะพาแบรนด์ไปใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมาย ยิ่งกว่านั้นยังช่วยสร้างประสบการณ์ความบันเทิงที่แตกต่างได้ด้วย และแน่นอนว่าการผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะ “เบอร์ 1” ในอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ที่มีฐานแฟนคนดูหลัก “สิบล้านคนต่อปี” จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้แบรนด์เติบโตควบคู่กันไป

นอกจากนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีโรงภาพยนตร์มากถึง 184 สาขา 852 โรงภาพยนตร์ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทั้งกรุงเทพ ปริมณฑล และ 63 จังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้พันธมิตรบิ๊กเนม แบรนด์สินค้าดังต่างๆ สามารถเลือกโฟกัสการสร้างแบรนด์ สื่อสารการตลาดกับลูกค้าแต่ละพื้นที่ได้ด้วย