ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์

ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์

‘การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย’ (ททท.) ประเมินว่าในช่วง ‘เทศกาลปีใหม่ 2567’ บรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวไทยทั้งตลาดในและต่างประเทศจะคึกคักขึ้น! สร้างรายได้รวมทางการท่องเที่ยวประมาณ 54,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า เมื่อดูเฉพาะ “ตลาดต่างประเทศ” คาดว่าระหว่างวันที่ 22 ธ.ค. 2566 - 1 ม.ค. 2567 รวม 11 วัน จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 1,180,000 คน เพิ่มขึ้น 56% เทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 41,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60%

ปัจจัยหลักคือ 1.การเปิดเที่ยวบินเข้าไทยเดือน ธ.ค. 2566 จำนวนที่นั่งเครื่องบินระหว่างประเทศเข้าไทยรวม 3.7 ล้านที่นั่ง เพิ่มจาก 3.3 ล้านที่นั่งเมื่อเดือน พ.ย. โดยมีการเปิดเส้นทางบินใหม่และเพิ่มความถี่เที่ยวบินจากหลายประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย แคนาดา สาธารณรัฐเช็ก กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย กาตาร์ ตุรกี และอุซเบกิสถาน

2.การอำนวยความสะดวกการเดินทางเข้าไทยและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงไฮซีซัน นักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน อินเดีย ไต้หวัน ได้สิทธิ์ยกเว้นการตรวจลงตราเข้าไทย (Visa Exemption) หรือ วีซ่าฟรี เป็นการชั่วคราว พำนักในไทยสูงสุด 30 วัน ส่วนนักท่องเที่ยวรัสเซีย ได้สิทธิ์พำนักในไทยสูงสุด 90 วัน จากเดิม 30 วัน ขณะที่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย ได้สิทธิ์ยกเว้นยื่นแบบ ตม.6 ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา

นอกจากนี้ ยังมีการขยายเวลาเปิดบริการสถานบันเทิงยามค่ำคืนถึงเวลา 04.00 น. ในพื้นที่ท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบันเทิงฯ ในโรงแรมจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายทั่วประเทศ สำหรับวันส่งท้ายปีเก่า (31 ธ.ค.) สถานบันเทิงฯ ทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้รับอนุญาตให้เปิดบริการจนถึงเวลา 06.00 น. ของวันปีใหม่ (1 ม.ค.)

และ 3.การส่งเสริมตลาดต่างประเทศของ ททท. ต่อยอดการทำงานภายใต้มาตรการ Visa Exemption การทำกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับบริษัทนำเที่ยวและสายการบิน กระตุ้นการเดินทางในพื้นที่ตลาด รวมไปถึงการสร้างประชาสัมพันธ์สินค้าเสนอขาย เจาะตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีกำลังซื้อใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยวปีใหม่พร้อมทำกิจกรรมตามความสนใจของนักท่องเที่ยวในไทย

“บรรยากาศท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศเข้าไทยตั้งแต่ช่วงคริสต์มาสจนถึงช่วงเคานต์ดาวน์ ปีใหม่จะคึกคักขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศไทยมีมาตรการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ สายการบินเพิ่มเส้นทางบิน สอดคล้องกับแนวโน้มต่างชาติเที่ยวไทยที่คาดว่าจะมีพัฒนาการดีขึ้น จากความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลาดศักยภาพ เช่น มาเลเซีย จีน รัสเซีย เกาหลีใต้ อินเดีย สิงคโปร์ สหรัฐ สหราชอาณาจักร และคาซัคสถาน”

ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์

ฐาปนีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้าน “ตลาดในประเทศ” มีแนวโน้มเติบโตดีเช่นกัน คาดช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ (วันที่ 29 ธ.ค. 2566 – 1 ม.ค. 2567) มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 3.76 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 12,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนมกที่สุด จำนวน 820,330 คน-ครั้ง รองลงมาคือภาคตะวันออก 794,830 คน-ครั้ง และภาคเหนือ 726,350 คน-ครั้ง สำหรับภูมิภาคที่สร้างรายได้มากที่สุดคือ ภาคตะวันออก 3,380 ล้านบาท ส่วนอันดับ 2 ภาคเหนือ 2,660 ล้านบาท และอันดับ 3 กรุงเทพฯ 1,910 ล้านบาท

ขณะที่ 10 จังหวัดที่ ททท. ดำเนินกรจัดงานเองและร่วมกับภคเอกชนจัดกิจกรรม Amazing Thailand Countdown 2024”ดว่จะมีจนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่ 1,114,990 คน-ครั้ง และสร้างรายได้ 4,740 ล้านบาท

ปัจจัยหลักคือ 1.การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจาก ททท. และพันธมิตร โดยเฉพาะการนำศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและต่างชาติมาจัดคอนเสิร์ต ช่วยกระตุ้นให้บรรดาแฟนคลับของกลุ่มศิลปินต่างเดินทางหลั่งไหลเข้าพื้นที่จัดงาน 2.การอำนวยความสะดวกการเดินทางท่องเที่ยว อาทิ การยกเว้นค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ การเพิ่มเที่ยวบินของสายการบินภายในประเทศเส้นทางเมืองท่องเที่ยวหลัก และ 3.การจัดโปรโมชันราคาที่พัก และกิจกรรมท่องเที่ยวของผู้ประกอบการเอกชน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนเกิดการพักค้างและเข้าร่วมทำกิจกรรมท่องเที่ยวมากขึ้น

ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์

 

ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์

อภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ททท. กล่าวเสริมว่า ททท. เตรียมจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2024” ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบิ๊กอีเวนต์สำคัญภายใต้โครงการ Thailand Winter Festivals” ของรัฐบาล เพิ่มแรงส่งกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2566 สอดคล้องกับนโยบาย “ซอฟต์พาวเวอร์” (Soft Power) ส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กรุงเทพฯ เป็นแลนด์มาร์กและ Global Countdown Destination” จุดเคานต์ดาวน์ระดับโลกที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงและมาเยือนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกิจกรรมเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ที่ ททท.ดำเนินการจัดกิจกรรมและร่วมจัดกิจกรรมแต่ละพื้นที่ มีเอกลักษณ์และกิจกรรมในการจัดงานที่แตกต่างกันไป ดังนี้ 1.งาน Amazing Thailand Countdown 2024 วิจิตร อรุณ” วันที่ 31 ธ.ค. 2566 - 1 ม.ค. 2567 สวนนาคราภิรมย์ กรุงเทพฯ ถือเป็นไฮไลต์ของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในเดือน ธ.ค. 2566 ต่อเนื่องจากงาน VIJIT CHAO PHRAYA 2023

โดย ททท. เนรมิตพื้นที่สวนนาคราภิรมย์ ให้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ยิ่งใหญ่ ภายใต้แนวคิด “วิจิตร อรุณ” ด้วยการสร้างสีสันบรรยากาศยามค่ำคืนให้กับสถานที่สำคัญที่มีความสวยงามริมแม่น้ำเจ้าพระยา แลนด์มาร์กของประเทศไทยอย่าง “พระปรางค์ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ด้วยนวัตกรรมแสง สี เสียง และสื่อประสมที่ทันสมัย ควบคู่กับการผสมผสานวัฒนธรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยว

ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์

2.งาน Korat Winter Festival & Countdown 2024” วันที่ 22 ธ.ค. 2566 - 2 ม.ค. 2567 บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.นครราชสีมา ร่วมเฉลิมฉลองเมืองนครราชสีมาครบรอบ 555 ปี ในรูปแบบ “งานมหกรรมสวนสนุกนานาชาติ” ภายในงานพบกับสวนสนุกขนาดใหญ่ เช็กอินจุดแลนด์มาร์กต้นคริสมาสต์ตกแต่งประดับไฟสวยงาม และสวนดอกไม้ โดยฟลอร่าพาร์ค บริเวณด้านหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 และชิมช้อปผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ของเมืองโคราชที่มีให้เลือกอย่างจุใจ โดย ททท. ร่วมจัดกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การแสดงของศิลปินที่มีชื่อเสียงบนเวที ในวันที่ 29-31 ธ.ค. 2566 การตกแต่งประดับไฟสวยงามบริเวณหอนาฬิกาและในคูเมืองบริเวณที่จัดงาน ก่อนจะปิดท้ายด้วยกิจกรรมไฮไลต์ร่วมจุดพลุเฉลิมฉลองนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2566

ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่ ททท. ให้การสนับสนุนการจัดงานเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2567 ในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศไทย เริ่มต้นที่ “ภาคเหนือ” เช่น งาน Amazing Chiang Mai Countdown 2024 วันที่ 31 ธ.ค. 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา จ.เชียงใหม่ ด้าน “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” เช่น งาน AWAKEN KHONKAEN COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธ.ค. 2566-1 ม.ค. 2567 ณ สวนประตูเมืองและบริเวณถนนศรีจันทร์ จ.ขอนแก่น, งาน นครพนม Winter Festival ตอน หนาวลม ชมโขง วันที่ 25 ธ.ค. 2566-1 ม.ค. 2567 ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง จ.นครพนม, งาน หอโหวด๑๐๑ ROI ET TOWER วันที่ 29 ธ.ค. 2566-1 ม.ค. 2567 ณ หอโหวด 101 จ.ร้อยเอ็ด

“ภาคกลาง” งาน Countdown Suphanburi 2024 Happy Love Happy Luck วันที่ 29-31 ธ.ค. 2566 ณ สวนเฉลิมภัทรราชินีหอคอยบรรหารแจ่มใส จ.สุพรรณบุรี, งาน Hua Hin Countdown 2024 วันที่ 31 ธ.ค. 2566 จ.ประจวบคีรีขันธ์, งาน Ratchaprasong New Year Lighting 2024 วันที่ 5 ธ.ค. 2566-5 ม.ค. 2567 ณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริและถนนเพลินจิต กรุงเทพฯ, งาน Light Up Christmas Tree 2024 วันที่ 27 พ.ย. 2566-2 ม.ค. 2567 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ, งาน Amazing Thailand Countdown 2024 วันที่ 29-31 ธ.ค. 2566 ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพฯ, งาน Centralworld Bangkok Countdown 2024 วันที่ 31 ธ.ค. 2566 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ

และ “ภาคใต้” งาน Discover Phuket Countdown 2024 วันที่ 31 ธ.ค. 2566-1 ม.ค. 2567 ณ ย่านเมืองเก่าภูเก็ต จ.ภูเก็ต, งาน HATYAI COUNTDOWN 2024 วันที่ 31 ธ.ค. 2566-1 ม.ค. 2567 ณ ถนนศุภสารรังสรรค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นต้น

“ททท. เชื่อมั่นว่าการจัดงานฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยว ช่วยขยายเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางคืน และเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในพื้นที่ของการจัดกิจกรรม เช่น โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร และผู้ให้บริการล่องเรือรับประทานอาหาร”

ททท. ดัน ‘ไทย’ แลนด์มาร์กเคาท์ดาวน์โลก! ชูวัดอรุณ พร้อมผนึกเอกชนดึงทัวริสต์