เปิด 10 ไฮไลต์ เซ็นทรัลรีเทล ลุยค้าส่งครั้งแรกกับแบรนด์ ‘โก โฮลเซลล์’

เปิด 10 ไฮไลต์ เซ็นทรัลรีเทล ลุยค้าส่งครั้งแรกกับแบรนด์ ‘โก โฮลเซลล์’

เจาะ 10 ไฮไลต์แบรนด์ใหม่ 'โก โฮลเซลล์' หรือ GO Wholesale ของเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ร่วมสร้างปรากฎการณ์ใหม่ในตลาดค้าส่งไทย พร้อมด้วย 'สุชาดา อิทธิจารุกุล' ซีอีโอคนแรกของค้าส่งกลุมฟู้ด สยายปีกเปิดสาขาทั่วไทย

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ โก โฮลเซลล์ ค้าส่งแบรนด์แรก ของ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้วางหมุดหมายสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้อยู่ในใจคนไทย พร้อมแผนการขยายสาขาใหม่ในปี 2566 ในปีแรกจำนวน 4 สาขา แต่หากมาทำความรู้จักกับ โก โฮลเซลล์ ธุรกิจค้าส่งแบรนด์ใหม่มีความน่าสนใจ 10 ไฮไลต์ที่น่าติดตามทั้ง

  • การเป็นขยายธุรกิจค้าส่งในกลุ่มฟู้ด ครั้งแรก จากในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ได้เน้นธุรกิจค้าปลีกมายาวนานร่วม 75 ปีแล้ว ส่วนกลุ่มค้าส่งมีจะเป็นฮาร์ดไลน์ในกลุ่มไทวัสดุ และกลุ่มฟู้ดจะมีแบรนด์ท็อปส์ ที่เน้นค้าปลีก
  • การจัดตั้ง กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ มีทุนจดทะเบียน 1,800 ล้านบาท ใช้ชื่อแบรนด์ว่า GO Wholesale (โก โฮลเซลล์) คำว่า “โก” เป็นชื่อแบรนด์ใหม่ ที่เซ็นทรัลรีเทล ใช้ในการทำธุรกิจค้าปลีกที่เวียดนามและได้ขยายมาสู่ธุรกิจค้าปลีกในไทย สำหรับ GO มีความหมายพิเศษคือ ‘G’ หมายถึง การเติบโต (Growth) และ O หมายถึง โอกาส (Opportunities) สอดคล้องไปกับแนวคิด โตเร็ว โตไกล โตไปกับ GO หรือ Grow with GO ซึ่งเป็นโอกาสในการเติบโต
  • การมีไฮไลต์กับการดึง “สุชาดา อิทธิจารุกุล” มาร่วมนำทัพธุรกิจค้าส่งของ กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ สยายปีกธุรกิจอย่างเต็มตัว โดย “สุชาดา" เป็นอดีตแม่ทัพค้าส่งแบรนด์ใหญ่ในตลาด โดยได้ร่วมขับนำพาธุรกิจค้าส่งขยายตัวต่อเนื่องร่วม 30 ปี พร้อมยังมีทีมงานมากประสบการณ์ในค้าส่งรวมอยู่ในทีม

  • การเปิดสาขาแรกของ โก โฮลเซลล์ อยู่ที่ศรีนครินทร์ กำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ เป็นทำเลที่อยู่ในบริเวณกับ สาขาของไทวัสดุ
  • ความพิเศษของค้าส่ง โก โฮลเซลล์ มีขนาดพื้นที่ 7,000 ตร.ม. โดยมุ่งนำเสนอสินค้ารวมถึง 20,000 รายการ เน้นสินค้ากลุ่ม Fresh food ที่มีความแปลกใหม่ และมีขนาดใหญ่ถึง 40% ของพื้นที่
  • การมีจุดแข็งที่พร้อมร่วมมือ พาร์ทเนอร์ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และผู้ผลิต มาที่บริษัท ที่เป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการที่เป็นพาร์ทเนอร์และคู่ค้า มีต้นทุนที่ลดลง ทำให้ทุกคู่ค้าเติบโตไปด้วยกัน
  • แนวทางการขยายสาขาต่อไป พร้อม Synergy ธุรกิจในเครือ ด้วยการนำทำเลที่มีศักยภาพมาขยายสู่ โก โฮลเซลล์ เช่น บีเอ็นบี โฮม หรือในพื้นที่ของไทวัสดุ เช่น สาขาในพัทยา เชียงใหม่ ได้ปรับพื้นที่มาทำ โก โฮลเซลล์ แผนขยายสาขาต่อไปจึงอยู่กับทำเลและแบรนด์ที่เหมาะสม พร้อมผสานพลังธุรกิจในเครือที่มีค้าปลีกอย่างหลากหลาย
  • การทำระบบออนไลน์ควบคู่กัน และมีแผนจัดทำแอปพลิเคชัน โก โฮลเซลล์ ในเดือน ต.ค.นี้ เพื่อรองรับลูกค้าสร้างประสบการณ์ชอปปิงแบบไร้รอยต่อ ทั้ง O2O รวมถึงการเชื่อมต่อกับ บัตรสมาชิก เดอะวัน ที่มีฐานลูกค้ารวมกว่า 28 ล้านคน
  • กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักมี 4 กลุ่ม คือ Food Retailers, Food Services, Food Lovers และกลุ่มโฮเรก้า พร้อมมี Power of Network ของกรุ๊ป เซ็นทรัล ที่มีทั้งศูนย์การค้า 110 แห่ง ที่ครอบคลุมใน 100 จังหวัด ทั้งในประเทศไทยและเวียดนาม ร้านอาหารกว่า 6,750 ร้าน และ โรงแรม 93 แห่ง
  • การวางแผนเปิดสาขาใหม่ในระยะ 5 ปีข้างหน้า จะเปิดสาขา โก โฮลเซลล์ ใหม่รวม 40-50 สาขา ภายใต้งบประมาณลงทุนที่ 20,000 ล้านบาท โดยในปีแรก 2566 จะเปิดสาขาใหม่ 4 สาขา รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจนี้ไปในประเทศเวียดนาม

เปิด 10 ไฮไลต์ เซ็นทรัลรีเทล ลุยค้าส่งครั้งแรกกับแบรนด์ ‘โก โฮลเซลล์’ ทีมผู้บริหารจาก ซ้ายไปขวา : "สุชาดา อิทธิจารุกุล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์, "ญนน์ โภคทรัพย์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น และ "ริคาร์โด้ โบอารอตโต้" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจเซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ ประเทศไทย

"นายญนน์ โภคทรัพย์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า การมีธุรกิจใหม่เข้ามา จึงเป็นการร่วมต่อจิ๊กซอร์ของธุรกิจเซ็นทรัลรีเทล ให้แข็งแกร่งมากขึ้น ทั้ง B2B และ B2C 

ทั้งนี้ผลการดำเนินธุรกิจมามากว่า 75 ปี ที่ประสบความสำเร็จ มาจากสิ่งสำคัญในการสร้าง Platform of Trust ให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ ซัพพลายเออร์ พนักงาน ชุมชน และนักลงทุน

ขณะเดียวกันได้มี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ผ่านการมี Multi-category ใน 5 กลุ่มหลัก ทั้งกลุ่มฟู้ด แฟชั่น ฮาร์ดไลน์พร็อพเพอร์ตี้ และเฮลธ์แอนด์เวลเนส ครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B รวมถึงการมีบุคลากรที่มีศักยภาพ (People Advantage) ผลักดันให้ธุรกิจเติบโตทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี

สำหรับผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมา CRC สร้างรายได้ 236,245 ล้านบาท มีผลกำไรสุทธิ 7,605 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) อยู่ที่ 278,934 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565