'วีระวงค์' มือกฎหมายดีลแสนล้าน! ทิ้งบอร์ดธุรกิจ ‘เจ้าสัวเจริญ’ เซ่นคดี WEH

'วีระวงค์' มือกฎหมายดีลแสนล้าน! ทิ้งบอร์ดธุรกิจ ‘เจ้าสัวเจริญ’ เซ่นคดี WEH

หลังคำตัดสินของศาลอังกฤษ ต่อคดีวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ สร้างแรงกระเพื่อม ถึงนายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ เจ้าของสำนักงานกฎหมายชั้นนำ Weerawong, Chinnavat & Partners (WCP) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายณพ ณรงค์เดช โดยเฉพาะการลาออกจากบอร์ดธุรกิจเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี

หลังศาลอังกฤษมีคำตัดสินเมื่อ 31 ก.ค.2566 ให้นายณพ ณรงค์เดช และพวกรวม 14 คน จ่ายค่าเสียหายรวมราว 900 ล้านดอลลาร์ หรือ กว่า 30,000 ล้านบาท แก่นายนพพร ศุภพิพัฒน์ ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) หลังถูกนายนพพรฟ้องในข้อหาสมคบกันชักจูงใจด้วยข้อมูลลวงให้ขายหุ้น WEH

จากคำตัดสินของศาลอังกฤษ ทำให้มีแรงกระเพื่อมหลายส่วน รวมถึงนายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ กรรมการของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทแม่ของ SCB และเจ้าของสำนักงานกฎหมายชั้นนำของประเทศ Weerawong, Chinnavat & Partners (WCP) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายณพ ณรงค์เดช เป็นจำเลยที่ 13 และ นายประเดช กิตติอิสรานนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการของ WEH เป็นจำเลยที่ 16

  • มือกฎหมายชั้นนำทิ้งเก้าอี้บอร์ดธุรกิจ “เจ้าสัวเจริญ”

โดยวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา หลายบริษัทที่ “วีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ” นั่งเป็นกรรมการบริหารหรือบอร์ด ได้แจ้งลาออก หนึ่งในนั้นคือเครือธุรกิจของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี มหาเศรษฐีแถวหน้าของเมืองไทย และเป็นเจ้าของอาณาจักร “ไทยเจริญ คอร์ปอเรชั่น” หรือทีซีซี กรุ๊ป

-บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ ได้แจ้งขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ มีผลตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป

-บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า กรรมการบริษัท และกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความยั่งยืนของบริษัท แจ้งความประสงค์ลาออกจากกรรมการทุกตำแหน่งของบริษัท เนื่องจากมีภารกิจอื่น โดมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2566 เป็นต้นไป

  • บิ๊กดีลแสนล้าน! ภายใต้ WCP

กรุงเทพธุรกิจ เคยรายงานเกี่ยวกับ “วีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ” ไม่เพียงเป็นอดีตผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในบริษัทจดทะเบียนในไทย แต่ยังเคยเป็นโฆษก คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญขยายธุรกิจในภูมิภาค

ที่สำคัญ “วีระวงค์” ยังเป็น “นักกฎหมาย” ที่ “ตระกูลสิริวัฒนภักดี” ไว้วางใจและทำงานร่วมกันมานานด้วย ขณะที่ประสบการณ์ ตลอดจนผลงานเด่นเป็นประจักษ์ในวงการธุรกิจภายใต้สำนักงานกฎหมาย Weerawong, Chinnavat & Partners หรือ WCP มีมากมาย

-เป็นตัวแทนของเบอร์ลี่ ยุคเกอร์(BJC)ในการท้าชิงซื้อสาขาของห้างค้าปลีกเทสโก้ โลตัสในไทยและมาเลเซียเมื่อปี 2563 มูลค่า 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 3.1 แสนล้านบาท

-ปี 2562 ลุยดีลให้กับไทยเบฟเวอเรจ และเฟรเซอร์แอนด์นีฟ ในการร่วมทุนกับแม็กซิม กรุ๊ป(Maxim’s Group) ยักษ์อาหารของฮ่องกง ในการเข้าซื้อกิจการร้านสตาร์บัคส(Starbuck)ในประเทศไทยทั้งหมด เพื่อเป็นเแฟรนไชส์รายเดียว ด้วยมูลค่า 650 ล้านดอลลาร์ หรือราว 20,000 ล้านบาท

-เป็นตัวแทนไทยเบฟในการเข้าซื้อกิจการ 4,830 ล้านดอลลาร์ หรือมูลค่า 1.6 แสนล้านบาท เพื่อครองหุ้น 53.9% ในบริษัท ไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ(SABECO) เบียร์เบอร์ 1 ของเวียดนาม และทำให้ก้าวเป็นเบียร์เบอร์ 1 ในอาเซียน

-เป็นตัวแทนไทยเบฟในการเข้าซื้อกิจการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศเมียนมา มูลค่า 726.6 ล้านดอลลาร์ ทำให้ได้แกรนด์ รอยัล กรุ๊ป สุราเบอร์ 1 เมียนมา อยู่ในพอร์ตโฟลิโอ

-เป็นตัวแทน ไทยเบฟ ซื้อกิจการ “ฮาวี่ โลจิสติกส์(ประเทศไทย)” มูลค่า 240 ล้านบาท เสริมแกร่งการขนส่งสินค้าควบคุมอุณภูมิ

-เป็นตัวแทนให้กับไทยเบฟ ผ่านบริษัทในเครืออย่าง คิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย ซื้อกิจการร้านไก่ทอดเบอร์ 1 “เคเอฟซี” 240 สาขา ด้วยมูลค่า 11,300 ล้านบาท เติมเต็มธุรกิจร้านอาหารและขึ้นเบอร์ 1 ที่มีร้านไก่ทอดมากสุดจาก 3 แฟรนไชส์ในประเทศไทย

นี่เป็นส่วนหนึ่งของบิ๊กดีลที่ สำนักงานกฎหมาย WCP ดำเนินการให้กับธุรกิจของเจ้าสัวเจริญ!