New Balance พร้อมคัมแบ็คไทย ได้พันธมิตร ‘แมพ แอคทีฟ’ บิ๊กแฟชั่น-ของเล่นอินโด

เป็นที่จับตามองกับแบรนด์รองเท้ากีฬาชื่อดัง New Balance จากสหรัฐ ที่มีข่าวการปิดช้อปในไทยไปก่อนหน้านี้ เป็นผลมาจาก บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ที่ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ New Balance มานานกว่าศตวรรษ มีสัญญาสิ้นสุดถึงเดือนเม.ย. 2566 ที่ผ่านมา แต่แบรนด์ New Balance ยังคงวางจำหน่ายต่อไปในร้านซูเปอร์สปอร์ตทุกสาขาและช่องทางออนไลน์

การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด ประกาศว่าได้รับสิทธิ์ในการบริหารแบรนด์ New Balance ในไทยอย่างเป็นทางการ พร้อมรุกทำตลาดในไทยเต็มสูบ! ตั้งแต่เดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไปและเตรียมเปิดขยายช้อปในไทยต่อเนื่องนับจากนี้

ล่าสุดมีภาพการเตรียมเปิดช้อปสาขาใหม่ในไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในเดือน ก.ย.นี้ รวมถึงมีภาพการเปิดตัวสินค้ารองเท้ารุ่นใหม่ตามช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ แล้ว

สำหรับ New Balance แบรนด์รองเท้าระดับโลก มีจุดเริ่มต้นที่ เมือง บอสตัส ประเทศสหรัฐ และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาถึง 117 ปี จากผู้ผลิตแผ่นซัพพอร์ตรองเท้าในยุคเริ่มต้น และพัฒนาเป็นบริษัทผลิตรองเท้าชั้นแนวหน้าของโลก หนึ่งในสินค้าที่มีความโดดเด่นจะเป็นรองเท้าวิ่งที่ได้รับความสนใจและมีฐานลูกค้าแฟนๆ ในทั่วโลก

 

หากไปสำรวจความแข็งแกร่งของ บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด ถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่จากอินโดนีเซีย ที่มีแบรนด์สินค้าอยู่ภายใต้การบริหารรวม 150 แบรนด์ ส่วนในประเทศไทยได้เข้ามาทำธุรกิจเป็นระยะเวลาร่วม 21 ปีแล้ว และมีกลุ่มสินค้าที่ทำตลาดในไทยรวม 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้ากีฬา กลุ่มสินค้าแฟชั่น และกลุ่มสินค้าของเล่น

“ดีพัก โทมาร์” ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด กล่าวว่า แบรนด์ล่าสุดที่บริษัทได้รับสิทธิ์ในการบริหาร กับ “New Balance” รองเท้ากีฬาระดับโลก จากประเทศสหรัฐ ในการทำตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเตรียมประกาศแผนขยายตลาดและแผนขยายสาขาในไทยอย่างเป็นทาง ช่วงเดือน ก.ค.นี้

การเลือก แบรนด์ New Balance ถือว่าเป็นแบรนด์รองเท้ากีฬา มีการเติบโตที่ดีในไทยมาโดยตลอด รวมถึงมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดภูมิภาคอาเซียนด้วย

"การได้รับสิทธิ์บริหารแบรนด์ในไทยครั้งนี้ บริษัทที่มีฐานธุรกิจสินค้าแฟชั่นในไทยที่แข็งแกร่งอยู่แล้วและมีช้อปสินค้าแฟชั่นในห้างจำนวนมาก จึงสามารถผสานกำลังสร้างโอกาสของตลาดไทยใหม่ๆ ในไทยและตลาดแฟชั่นได้ในระยะยาว"

แผนการรุกตลาดไทยในปี 2566 จึงเดินหน้าขยายกลุ่มสินค้าในเครือที่ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุปกรณ์กีฬา มีแบรนด์อยู่ภายใต้การบริหารได้แก่ Adidas Kids, Rookie USA, AirWalk, Diadora, Lotto, New Balance และ Foot Locker กลุ่มสินค้ารองเท้าแฟชั่น ALDO, Steve Madden, Nine West, Dr. Martens และกลุ่มของเล่นได้แก่ HASBRO, Moose รวมแล้วมีแบรนด์ภายใต้การดูแลประมาณ 15 แบรนด์

แผนขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าในไทย จากในปัจจุบันมีอยู่ 320 แห่ง แบ่งเป็น สาขาแบบเดี่ยว ประมาณ 22 สาขา และที่เหลือเป็น ชอปอินชอป ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้า โดยในปีนี้ วางแผนเปิดเพิ่ม 50-60 สาขา แบ่งเป็น สาขาเดี่ยวประมาณ 22 สาขา เพิ่มขึ้นเท่าตัว และที่เหลือเป็น ชอปอินชอป ส่วนกลุ่มของเล่น มีอยู่ 88 สาขา วางแผนจะเปิดเพิ่ม 20 สาขา

กลยุทธ์ในการขยายตลาดนับจากนี้ จะมีทั้งการเปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่ โดยมุ่งนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพและการนำสินค้าเสนอนวัตกรรม เพื่อสร้างความแตกต่าง ควบคู่กับการทำตลาดผ่านช่องทางดิจิทัล และการขยายช่องทางออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ทั้ง Shopee Lazada รวมถึงมุ่งจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และกลุ่มลูกค้าประจำ

“กลุ่มของเล่น ได้รับสิทธิ์ทำตลาด ของเล่นสะสมจาก บริษัท ฮาสโปร (HASBRO) บริษัทผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่จากสหรัฐ ที่มีลิขสิทธิ์คาแรกเตอร์ของเล่นจากภาพยนตร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ส เพื่อเข้ามาทำตลาดในไทยแต่เพียงรายเดียว เป็นระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2566-2570 ถือว่าเป็นรอบที่สอง ที่บริษัทได้รับสิทธิ์ในการบริหาร”

“ดีพัก” ประเมิน ภาพรวมตลาดสินค้าแฟชั่นภายหลังสถานการณ์ โควิดว่า มีทิศทางขยายตัวที่ดี และกลุ่มลูกค้าต่างให้ความสนใจสินค้าแฟชั่นเพิ่มขึ้น แต่พฤติกรรมในการเลือกซื้อสินค้ากลุ่มแฟชั่น ต่างมุ่งไปที่สาขามากขึ้น เพื่อได้รับประสบการณ์ในการทดลองและสวมใส่สินค้า ส่งผลให้ยอดขายผ่านสาขามีการขยายตัวที่ดี

ในระยะยาว ตลาดสินค้าแฟชั่นในไทยยังมีช่องว่างที่จะเติบโตไปได้อีก เนื่องจากมีแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากทุกปี และหากเทียบสาขาในไทยกับประเทศอื่นๆ สามารถเปิดเพิ่มได้อีกได้ในอนาคต  

“เมื่อมาดูตลาดสินค้าแฟชั่นในไทยปี 2566 มีแรงขับเคลื่อนที่ดี จากแรงบวกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทย โดยเชื่อมั่นว่าในช่วงไตรมาสสี่ของปีนี้ ตลาดจะเติบโตมากกว่าในช่วงปี 2562 ที่เกิดสถานการณ์โควิด เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวและการใช้จ่ายที่สำคัญ”

ทั้งนี้ บริษัทมีความมั่นใจว่า จากแผนการตลาดที่วางไว้ จะทำให้ภาพรวมยอดขายในสิ้นปี 2566 มีการเติบโตแข็งแกร่ง 20-23% เมื่อเทียบกับปี 2563 ที่ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด สัดส่วนยอดขายมาจาก ออฟไลน์ 90% และออนไลน์ 10%

สำหรับบริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่อินโดนีเซีย ในปัจจุบัน มีการทำตลาดอยู่ใน 6 ประเทศทั้งประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย และกัมพูชา ซึ่งสัดส่วนยอดขายจะมาจาก ตลาดอินโดนีเซียมากที่สุด รองลงมา ฟิลิปปินส์ และไทย เป็นลำดับที่สาม

ซึ่งบริษัทแม่ใน อินโดนีเซีย มีแบรนด์อยู่ภายใต้การบริหารรวม 150 แบรนด์ และมีสาขารวมในประเทศอินโดนีเซียกว่า 3,000 สาขา