ไฮเออร์รุก'แมส-ไฮเอนด์'หวัง3ปีแชมป์เครื่องใช้ไฟฟ้า

สำรวจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2566 เกมการตลาดเปลี่ยน! แบรนด์ไม่ได้มุ่งสงครามราคา แต่ปรับกลยุทธ์ด้วยการนำเสนอสินค้า และนวัตกรรม เพื่อให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด “โฮเออร์” เร่งเครื่องแผนรุกตลาดไทย พร้อมเดินหน้าลงทุนครั้งสำคัญในปีนี้ด้วยงบกว่า 550 ล้านบาท

“นายธเนศร์ บินอาซัน” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2566 ที่มีมูลค่าประมาณ 8 หมื่นล้านบาท หดตัวลง 2% ต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในปีนี้ขยายตัวต่ำ 2.7-3.7% จากภาวะเศรษฐกิจโลก ภาพรวมการส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัว รวมถึงผู้บริโภคมีการซื้อเครื่องใช้ในปีก่อนไว้แล้ว และกลุ่มที่ชะลอตัวจะเป็น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และสินค้าเบ็ดเตล็ด 

ส่วนในปี 2565 ตลาดชะลอตัวลง 7% ทำให้ภาพรวมแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาด  ปรับแผนไม่ได้เน้นการแข่งขันในด้านราคาแล้ว แต่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าคือ การมุ่งนำเสนอสินค้าที่มีนวัตกรรม และการนำเสนอสินค้าให้สอดคล้องกับผู้บริโภคมากที่สุด

สำหรับแผนการรุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ไฮเออร์ (Haier) ในปีนี้ ชู 3 กลยุทธ์สำคัญทั้ง มัลติแบรนด์กับการส่งแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์ไฮเออร์ขยายตลาดกลุ่มลูกค้าแมส การนำเสนอแบรนด์ระดับบน หรือ ไฮเอนด์ กับ "Casarte" เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากยุโรป และมีแบรนด์ "Candy" แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากยุโรปเช่นกัน สำหรับขยายกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้บริษัทมีกลุ่มสินค้าที่ครอบคลุมทั้งตลาดแมส และตลาดไฮเอนด์แบบครบวงจร

พร้อมกันนี้ จะเดินหน้ากลยุทธ์การดีไซน์สินค้าที่ให้มีความสอดคล้องกับกลุ่มลูกค้า ภายใต้การมุ่งนำเสนอสินค้าที่มีนวัตกรรมและฟังก์ชั่น รวมถึงดึงเดินหน้ากลยุทธ์ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง รองกับแนวโน้มกลุ่มลูกค้าที่สนใจดูแลสุขภาพ ทำให้ได้มีการดึง ปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตันแชมป์โลกคู่ผสมของไทย มาร่วมเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อร่วมขยายกลยุทธ์ สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ร่วมกับ บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ที่มีภาพลักษณ์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในทุกกลุ่ม โดยแบรนด์แอมบาสเดอร์มาเป็นระยะเวลาร่วม 5 ปีแล้ว

โดยไฮเออร์จะสร้างภาพยนตร์ชุดใหม่สู่กลุ่มเป้าหมาย พร้อมกันนี้ได้เตรียมงบการตลาดครั้งใหญ่ในปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายตลาด และการจัดทำกิจกรรมการตลาดผ่านออนไลน์และออฟไลน์อยางครบวงจร

ทั้งนี้ประเมินว่า ภายในปี 2566 จะสามารถสร้างยอดขายรวมที่ 1.20 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน ส่วนในปี 2565 บริษัทมียอดขายรวมที่ 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 15% จากปีก่อน ส่วนเป้าหมายในระยะ 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะสร้างยอดขายอยู่ที่ระดับ 2.40 หมื่นล้านบาท เติบโต 20% ทำให้สามารถสร้างส่วนแบ่งการตลาดสู่ลำดับหนึ่งในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของประเทศไทย

“นายจาง เจิ้งฮุ้ย” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ไฮเออร์ สามารถสร้างการเติบโตในประเทศไทยได้ต่อเนื่องมาร่วม 21 ปีแล้ว โดยในปีแรกมีกลุ่มสินค้าเพียง ตู้เย็นและตู้แช่ ปัจจัยสำคัญมาจาก 3 ด้านได้แก่

การวิจัยและพัฒนาสินค้า (อาร์แอนด์ดี) การให้ความสำคัญกับการผลิต และการขายสินค้า ทำให้ครองตลาดในไทยได้ต่อเนื่อง จากยอดขายในปีแรกที่ไม่ถึง 100 ล้านบาท สู่ระดับกว่า 1 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน อีกแผนการลงทุนในไทยนับจากนี้ ได้วางงบประมาณรวม 15 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 515 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตในโรงงานกลุ่มเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นในไทย รองรับการขยายตลาดในไทยและส่งออกไปสหรัฐ จากในปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวม 3 ล้านเครื่อง/ปี