ทฤษฎีที่นำไปใช้แล้ว “ได้ผลที่สุด” คือ ทฤษฎี...!?

ทฤษฎีที่นำไปใช้แล้ว “ได้ผลที่สุด” คือ ทฤษฎี...!?

ทฤษฎีที่ “ดีที่สุด” คือ ทฤษฏีที่... ท่านเรียนรู้ วิเคราะห์ กลั่นกรอง คัดสรร ต่อยอดเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับ สภาพแวดล้อม

Part.1. ความหิว และ การโหยหาทฤษฎีของนักบริหาร/เจ้าของกิจการ

ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา บรรดาผู้จัดการ ผู้บริหาร ตลอดจนถึงผู้นำไทย จำนวนไม่น้อยหิวและโหยหา ตำรับตำรา ทฤษฎีจาก "ตะวันตก” ทั้งในเรื่องการบริหารการจัดการ การตลาดและอื่นๆ ยิ่งทฤษฎี โมเดล ตำรับตำราเล่มไหนดังระดับโลก ต่างก็แห่ไปซื้อมาอ่าน มา "ลอกเลียน” กันแทบทุกที่

ด้วยความเชื่อที่น่าจะอยู่ในจิตใต้สำนึกแบบไม่รู้ตัวว่า….หนังสือขายดี ทฤษฎีที่กำลังเป็นกระแสในระดับโลก ทฤษฎีจากตะวันตก ยิ่งเป็นกูรูที่มีชื่อเสียงระดับโลก ถ้านำมาใช้แล้ว จะต้องประสบความสำเร็จตามนั้นอย่างแน่นอน!

แถมยังเอาไว้คุยกับคนรู้จัก เอาไว้ PR.ประชาสัมพันธ์ ให้กับสื่อต่างๆ ว่า บริษัทของเราทันสมัยได้นำทฤษฎีที่กำลังดัง กำลังเป็นกระแสมาใช้แล้วนะ!

(แต่ตอนใช้แล้วล้มเหลว เงียบกริ๊บเชียว!)

Part.2.วังน้ำวน!

เป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกท่านรักการเรียนรู้ แต่ส่วนมากที่นำ ทฤษฎีใหม่ๆหรือทฤษฎีที่กำลังเป็นกระแส พอมาใช้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตลาด การบริหารงาน การบริหารคน หรือทุกๆเรื่อง กลับไม่ได้ผล! ได้แต่ครุ่นคิดไปต่างๆนาๆว่าทำไมไม่ได้ผล ก็มักหาสาเหตุไม่ค่อยได้

แต่เมื่อมีทฤษฎีใหม่ๆ ดังๆที่เป็นกระแสจากตะวันตก ออกมาใหม่ ก็อดใจไม่ไหว ที่จะเข้าไปซื้อมาอ่านมาศึกษา หรือ จัดฝึกอบรมในเรื่องที่เป็นกระแส แล้วผลก็วนลูปเหมือนเดิม คือล้มเหลว!

Part.3. ความแตกต่างของการ “เรียนรู้” กับ “การเลียนแบบ”

ผมยังสนับสนุนให้ทุกท่าน มุ่งมั่นและรักการเรียนรู้ เพราะเราจะไม่มีวันพัฒนาเลย ถ้าเราหยุดการเรียนรู้ แต่ผมไม่สนับสนุนให้ “เลียนแบบโดยไม่ผ่านการ คัดกรอง ตกผลึก และปรับใช้”

ความสำเร็จของคนแต่ละคน ความสำเร็จของธุรกิจแต่ละองค์กร มีองค์ประกอบหลักๆคล้ายๆกันก็จริง แต่ก็มีองค์ประกอบบางอย่างที่แตกต่าง ซึ่งไม่สามารถลอกเลียนแบบได้!

แม้กระทั่ง คนหรือธุรกิจ องค์กรที่เคยประสบความสำเร็จในบางช่วงบางเวลาที่ผ่านมา ยังไม่สามารถกลับไปลอกเลียนความสำเร็จของตนเองในอดีตได้เลย!

เหตุผลก็เพราะ…ทุกความสำเร็จของคนแต่ละคน ทุกความสำเร็จของแต่ละองค์กร จะมี สภาพแวดล้อม ปัจจัยเฉพาะในช่วงเวลานั้นๆนั่นเอง!

จึงไม่ต้องแปลกใจที่ การลอกเลียนทฤษฎี ตำรับตำราของตะวันตก แม้กระทั่งการลอกเลียนความสำเร็จของผู้บริหารและองค์กรของไทย ถึงล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ!

เพราะฉะนั้น เรียนรู้คือการเพิ่ม พัฒนา ปัญญาและทักษะ ส่วน เลียนแบบ คือการ ลดปัญญา ลดทักษะ เพราะไม่ได้วิเคราะห์ สภาพแวดล้อมและปัจจัยที่แตกต่างกัน

Part.4.ท่านต้องสร้างเอง!

ลองสังเกตดูสิครับ คน หรือ ธุรกิจ-องค์กรที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครหรือที่ไหน Copy ทฤษฎีจากคนอื่น ที่อื่นมาแบบ 100 % และมีจำนวนไม่น้อย ที่ประสบความสำเร็จในช่วงเวลานั้นๆด้วยทฤษฎีในแบบฉบับของตัวเอง!

เริ่มได้ไม่ยาก ด้วยการวิเคราะห์สภาพ สถานการณ์ ธุรกิจของท่านในปัจจุบันให้รอบด้านผสมผสานด้วย ประสบการณ์ที่ผ่านมาของท่าน และ ประสบการณ์ของผู้อื่น ที่อื่น ที่ผ่านการวิเคราะห์ แยกแยะ เลือกใช้

ส่วนใคร จะเติมเต็ม ด้วยทฤษฎีใหม่ๆจากตำรับตำราหรือตัวอย่างจากทางตะวันตก ก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องเลือกและคัดสรรที่เหมาะสมกับตัวท่าน ธุรกิจของท่าน ที่ไม่มีทางที่จะเหมือนกับของทางตะวันตก โดยเฉพาะ ค่านิยม พฤติกรรมแบบไทยๆ ที่ไม่สามารถนำทฤษฎีแบบตะวันตกมาใช้ได้เลยถ้าไม่ได้ปรับแต่งให้เหมาะสม

Part.5.สร้าง-ทดลอง-ปรับแต่ง-ขยายผล

เมื่อท่านเริ่มคิด เริ่มสร้างจนได้แนวทาง ทฤษฎีในแบบเฉพาะตนของท่าน (จากสิ่งที่ทำใน Part.ที่ 4)แล้ว ก็เริ่มทดลองใช้ กับบางสิ่ง (กรณีเป็นสินค้า-บริการ) หรือ บางหน่วยงาน (กรณีเป็นเรื่องการบริหาร จัดการ)

แล้วสังเกต วิเคราะห์ ประเมินผลขั้นต้น เพื่อหาจุดอ่อน จุดที่ต้องปรับแก้ และเพื่อเสริมจุดแข็งในสิ่งที่ได้ผล แล้วค่อยขยายผล

เมื่อท่านทำได้และเห็นผล ท่านก็จะพบด้วยตัวท่านเอง ว่า ทฤษฎีที่ “ดีที่สุด” คือ ทฤษฏีที่.........ท่านเรียนรู้ วิเคราะห์ กลั่นกรอง คัดสรร ต่อยอดเพื่อนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับ สภาพแวดล้อม ปัจจัยของท่าน

และปรับแต่งในระหว่างการใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จนกว่าจะประสบความสำเร็จ!