ถกนบขพ.แก้ปัญหาอาหารสัตว์แพงไร้ข้อยุติ

ถกนบขพ.แก้ปัญหาอาหารสัตว์แพงไร้ข้อยุติ

ประชุม นบขพ. ไร้ข้อสรุปหาแนวทางแก้ไขปัญหาอาหารสัตว์ "จุรินทร์"ย้ำต้องสมดุลทุกฝ่าย มอบปลัดพาณิชย์ นัดถก 3 ฝ่ายหาข้อยุติ 11 เม.ย.นี้ก่อนเสนอต่อนบขพ.อีกครั้ง พร้อมเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวโพด ปี 65

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ 1/2565 เพื่อแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการวัตถุดิบอาหารสัตว์ ว่า วันนี้มีตัวแทนจากภาครัฐทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและผู้แทนสมาคมที่เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพด มันสำปะหลัง และข้าว เป็นต้น  เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ เช่น สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ ไก่เนื้อ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกร เป็นต้น  และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งสถานการณ์ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกมีราคาพุ่งสูงขึ้นทุกตัวไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี ข้าวโพด ขณะนี้ถือว่าผู้ผลิตอาหารสัตว์หลายประเทศในโลกแย่งกันซื้อวัตถุดิบ ส่วนหนึ่งเพื่อคงปริมาณการผลิตอาหารสัตว์ในประเทศให้ต่อเนื่องในห่วงโซ่การผลิต ไม่ขาดแคลน

 

ที่ประชุมได้หารือว่าจะมีแนวทางอย่างไร ไม่ให้ปริมาณวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศขาดแคลน และ ทำอย่างไรไม่ให้ราคาพุ่งสูงขึ้นเกินไปจนเป็นภาระต้นทุนการผลิตสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ และไม่ให้เป็นภาระกับผู้บริโภคจนเกินสมควร รวมทั้งทำอย่างไรให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ ข้าวโพด มันสำปะหลังหรือพืชอื่น ไม่ให้ได้รับผลกระทบ จึงต้องสร้างจุดสมดุลให้กับทุกฝ่ายให้อยู่ได้ร่วมกันไม่เป็นภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนเกินสมควร ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์ยากเพราะแต่ละกลุ่มยังมีความเห็นที่ผู้ปลูกพืชไร่อยากให้ข้าวโพดราคาสูงที่สุด ผู้เลี้ยงสัตว์อยากให้ต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีข้าวโพดและข้าวสาลีเป็นส่วนผสมต่ำที่สุด ผู้ผลิตอาหารสัตว์ถ้าต้นทุนสูงอยากขึ้นราคาอาหารสัตว์ ผู้บริโภคอยากให้คุมราคาไก่เนื้อ ไข่และหมู ไม่ให้สูงจนเกินไป

" วันนี้ถือว่ายังไม่เป็นข้อสรุปทั้งหมดเพราะต้องการให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาร่วมกัน ซึ่งวันนี้สมาคมผู้ค้าพืชไร่ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ก็ส่งผู้แทนเข้ามา ที่ประชุมมีความเห็นว่าควรไปหาข้อสรุปร่วมกันให้ทุกฝ่ายให้เห็นพ้องต้องกันอีกครั้งหนึ่งก่อนโดยมอบให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์นัดหมายประชุมกับอีก 3 ฝ่ายให้ครบถ้วนทุกสมาคมที่มีส่วนเกี่ยวข้องและนำข้อสรุปมาเสนอต่อที่ประชุมนี้อีกครั้งหนึ่งโดยเร็วที่สุด" นายจุรินทร์ กล่าว

นอกจากนี้ที่ประชุมได้มติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวโพด ปี 65 เงื่อนไขเช่นเดียวกับปี 64 แต่ปรับปริมาณให้สอดคล้องกับปริมาณที่เป็นจริงคือประมาณ 2,000,000 ไร่ กำหนด 2 กลุ่ม

1.เกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.กำหนดเบี้ยประกัน 160 บาทต่อไร่ รัฐบาลจะจ่ายให้ 96 บาทต่อไร่ ธ.ก.ส.จ่าย 64 บาทต่อไร่ รวมเป็น 160 บาทต่อไร่

2.กลุ่มเกษตรกรที่ไม่ได้เป็นลูกค้า ธ.ก.ส.แต่สมัครใจประกันภัยข้าวโพด แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน ส่วนที่หนึ่งพื้นที่ความเสี่ยงสูงเบี้ยประกันภัย 110 บาทต่อไร่ ความเสี่ยงปานกลาง 100 บาทต่อไร่ และความเสี่ยงต่ำ 90 บาทต่อไร่ ในส่วนที่รัฐต้องอุดหนุนคิดเป็นงบประมาณ 224 ล้านบาท จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า พี่ประชุมในวันนี้ได้ถูกกันหลายประเด็นเพื่อเตรียมพิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการวัตถุดิบอาหารสัตว์ทั้งนี้เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมู ไก่ และไข่ นอกจากนั้นได้มีการรายงานความคืบหน้าเพื่อทราบเกี่ยวกับสถานการณ์การผลิตและการตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กับความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2564/2565 และมาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกร

นอกจากนั้นที่ประชุมได้รับรายงานสถานการณ์พืชพลังงานสำคัญของโลกทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี และข้าวบาร์เล่ย์ โดยปี 2564 ราคาปรับสูงขึ้น  41% เช่น

  • ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่ม 64%
  • ข้าวสาลีเพิ่ม 30%
  • ข้าวบาร์เล่ย์  34%  

ส่วนสถานการณ์ปี 2565 ราคาปรับสูงขึ้น 30%  เช่น 

  • ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 23%
  • ข้าวสาลี 37%
  • ข้าวบาเล่ย์ 30%

โดยปี 2565 นั้นสถานการณ์ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ความต้องการพืชพลังงานเพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าทางทะเลแถบยุโรปเพิ่มขึ้น ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทยนั้นแหล่งปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สำคัญอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ นครราชสีมา น่านตาก และจังหวัดเลย รวม 43.17% ของทั้งประเทศ ส่วนจังหวัดอื่นๆมีสัดส่วนลดหลั่นมา และในช่วงต้นปีจะเป็นการเก็บเกี่ยวข้าวโพดหลังนาโดยปี 2565 จะมีข้าวโพดหลังนาอยู่ที่ 5.2 แสนตัน ส่วนความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์สูงกว่าผลผลิตที่ได้ภายในประเทศ