SAT มีมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ

SAT มีมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ

เราคาดว่ายอดขายของ SAT ใน 1Q65F จะอยู่ที่ 2.3 พันล้านบาท (+5% YoY, ทรงตัว QoQ) โดยจะโตดีกว่ายอดผลิตรถยนต์ของประเทศไทยใน 1Q65F ที่ +1% YoY (Figure 4) เล็กน้อย

โดยรวมแล้ว เรามองว่าโมเมนตั้มการเติบโตของยอดขายใน 1Q652F จะยังไม่ได้มีคำสั่งซื้อใหม่มา ในขณะที่คาดว่าการเติบโตจากกลุ่มเครื่องจักรกลทางการเกษตร (25% ของยอดขายรวม) จะชะลอตัว YoY จากผลของฐานที่สูงในปีที่แล้ว (Figure 5)

SAT มีมุมมองเชิงอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ปรับลดคำแนะนำเป็น ถือ

คาดกำไรสุทธิใน 1Q65F จะลดลง 27% YoY แต่เพิ่มขึ้น 20% QoQ

เราคาดกำไรสุทธิใน 1Q65F จะอยู่ที่ 230 ล้านบาท (-27% YoY, +20% QoQ) ถึงแม้เราจะคาดว่าอัตราการเติบโตของยอดขายจะยังค่อนข้างทรงตัว แต่กำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง QoQ จะมาจากค่าใช้จ่าย SG&A และค่าใช้จ่ายภาษีที่ลดลงเนื่องจากใน 4Q64 มีการบันทึกรายการพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (40 ล้านบาท) เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างบริษัทเป็น holding company ส่วนปัจจัยสำคัญที่กดดันผลประกอบการ YoY คืออัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 17.3% (-3.8ppts YoY) เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น ทั้งนี้ SAT จะสามารถส่งผ่านผลกระทบจากต้นทุนเหล็กที่แพงขึ้นไปที่ลูกค้าได้โดยมีช่วง lag time 3-6 เดือน

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565/66F ลง 4%/7%

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/2566F ลง 4%/7% เพื่อสะท้อนถึงการปรับสมมติฐานใหม่หลายรายการ โดยสมมติฐานสำคัญที่มีการปรับสำหรับปี 2565F ได้แก่ i) ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายขึ้นอีก 9.6% เพื่อสะท้อนถึงคำสั่งซื้อใหม่ที่ได้รับตั้งแต่ 2Q65F เป็นต้นไป (Figure 11) ii) ปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลง 1.5ppts เหลือ 18.5% เนื่องจากต้นทุนที่แพงขึ้นส่งผลกระทบมากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งหลังจากที่เราปรับสมมติฐานใหม่แล้ว เราคาดว่ายอดขายของ SAT ในปี 2565F จะเพิ่มขึ้น 7% YoY เป็น 9.2พันล้านบาท ซึ่งดีกว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรม ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิในปี 2565F จะชะลอลงเหลือ 4% YoY เป็น 993 ล้านบาทเนื่องจากอัตรากำไรลดลง

 

Valuation & action

เนื่องจากความเสี่ยงทางธุรกิจสูงกว่าที่คาดเอาไว้ (อย่างเช่น ต้นทุนสูงขึ้น) ในขณะที่โมเมนตั้มการเติบโตของกำไรมีแนวโน้มชะลอตัวลงในปี 2565F ดังนั้น เราจึง de-rate P/E เป้าหมายจากเดิมที่อิงจากค่าเฉลี่ยระยะยาว +0.5 S.D. เป็นอิงจากค่าเฉลี่ยระยะยาวแทน ดังนั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำ SAT จากซื้อเป็นถือโดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 23.00 บาท (จากเดิม 28.00 บาท) โดยอิงจาก P/E ปี 2565F ที่ 9.9x

 

Risks

ความเสี่ยงด้านเทคโนโลยี และปัญหาขาดแคลนแรงงาน