วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (3 มี.ค. 65)
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังบริษัทพลังงานหลายรายถอนการลงทุนในรัสเซีย ขณะที่โอเปคพลัสยืนยันการเพิ่มการผลิตตามแผนเดิม
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดคาดการณ์ว่าจะยังคงขาดแคลนอุปทานเป็นเวลาหลายเดือนจากการคว่ำบาตรมอสโกและการถอนการลงทุนของหลายบริษัทในรัสเซีย ขณะที่ตะวันตกตอบโต้การรุกรานของรัสเซีย โดยมุ่งเป้าไปที่ธุรกรรมทางการเงินและธนาคาร อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะไม่ได้มีการกำหนดเป้าหมายของอุตสาหกรรมพลังงานโดยตรง แต่การคว่ำบาตรทำให้ตลาดกังวลและหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซีย
+ กลุ่ม OPEC+ ยังมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิตที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน เม.ย. 65 ขณะเดียวกันความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกได้แตะระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอุปทานยังคงมีความตึงตัว จึงส่งผลให้ในหลายประเทศได้มีการกักตุนน้ำมันไว้เพื่อชดเชยการขาดแคลน
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.พ. 2565 ปรับตัวลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 413.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังดัชนีการขับขี่ในเกาหลีใต้ปรับตัวลดลง เนื่องจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีนมีแนวโน้มลดลง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังคาดการณ์ว่าการส่งออกของจีนปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ปรับตัวลดลง