ภายในปี 2035 EU ประกาศให้ใช้เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เร่งการเติบโตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นกว่าคาด

ภายในปี  2035 EU ประกาศให้ใช้เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า เร่งการเติบโตอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นกว่าคาด

ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มหันมาออกมาตรการควบคุมจำนวนรถยนต์และสนับสนุนให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า

ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์เป็นหนึ่งในพาหนะที่มีการใช้งานมาก โดยในปี 2020 มีรถยนต์ที่จดทะเบียนทั่วโลกกว่า 1.42 พันล้านคัน ซึ่งรถยนต์ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ได้สร้างมลภาวะและตัวการที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน ส่งผลให้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มหันมาออกมาตรการควบคุมจำนวนรถยนต์และสนับสนุนให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า 

ในอีก 15 ปี ข้างหน้า สหรัฐ ฯ และ ยุโรป เตรียมใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100%

ในเดือนก.ย. 2020 รัฐ California ของสหรัฐ ฯ ได้ประกาศว่าทางการจะเริ่มลดการขายรถยนต์ที่ใช้แก๊สและน้ำมันลง และตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2035 รถยนต์และรถบรรทุกที่จดทะเบียนใหม่ทั้งหมดต้องเป็นต้องรถยนต์พลังงานสะอาด หรือ Zero Emission Vehicles (ZEVs)  และล่าสุดในวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา EU ได้ประกาศว่าภายในปี 2035 จะยกเลิกการใช้และขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หรือ Internal Combustion Engine (ICE cars) รวมถึงรถยนต์ Hybrid และอนุญาตให้ขายรถยนต์พลังงานสะอาดเท่านั้น

การออกมาตรการควบคุมการขายรถยนต์ ICE/Hybrid และอนุญาตให้ขายเพียงรถยนต์ ZEVs ตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะการวางแผนการผลิตและการจัดจำหน่ายรถยนต์ ดังนั้นเชื่อได้เลยว่าในระยะข้างข้างหน้าความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอน                                

นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มยอดใช้รถยนต์ไฟฟ้าหลัง ประกาศของ  EU และ อุปสงค์รถยนต์ไฟฟ้าจีนสูงกว่าคาด

จากมาตรการจำกัดการขายรถยนต์ ICE ของ EU และความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของประเทศจีนที่ยอดขายรถยนต์พลังงานสะอาดขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้บทวิเคราะห์อุตสาหกรรมของ Goldman Sachs ปรับเพิ่มประมาณการความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านคันในปี 2020 สู่ระดับ 13 ล้านคันในปี 2025 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียง 10 ล้านคัน และจะเพิ่มสูงถึง 50 ล้านคันในปี 2035 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เพียง 41 ล้านคัน และมองว่ามีแนวโน้มที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจะขยายตัวได้มากขึ้นและเร็วขึ้น โดยมองว่าประเทศที่มีสัดส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุด ได้แก่ EU สหรัฐ ฯ จีนและญี่ปุ่น ตามลำดับคาดการณ์ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกตั้งแต่ปี 2025-2040

162703140374

Source: Goldman Sach. Electric Vehicles ก.ค.  2021 

รถยนต์ไฟฟ้ากลายมาเป็นหัวใจสำคัญในการอุตสาหกรรมรถยนต์

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ไม่เพียงผู้ผลิตที่เน้นเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla และ Nio แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง Toyota, GM, Ford และ Volkswagen ได้หันมาพัฒนาและวางแผนธุรกิจ โดยมีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหัวใจสำคัญเช่นเดียวกัน

ตั้งแต่ปี 2021 ในรายงานแผนธุรกิจของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะเห็นว่าผู้ผลิตได้ให้ความสำคัญกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยใน EU บริษัท Volkswagen เป็นบริษัทแรกที่เริ่มส่งสัญญาณเปลี่ยนจากการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน เป็นรถยนต์ไฟฟ้าและตามด้วยการประกาศของ Renault และ Stellantis เช่นเดียวกับ ในสหรัฐ ฯ เอง GM และ Ford ได้เปิดเผยแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับนโยบายการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดของปธน. Biden รวมถึงในญี่ปุ่นที่ Toyota และ Honda ได้ออกมาประกาศแผนการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าโดยวางเป้าหมายไว้ที่ปี 2030  

ในปัจจุบัน Tesla ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยในปี 2020 Tesla ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด 509,737 คัน และยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าในปี 2025 Tesla จะยังคงเป็นผู้จำตลาดที่มีส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามากที่สุดที่ 22% 

162703144616

Source: Goldman Sach. Electric Vehicles ก.ค.  2021 

ไม่เพียงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น แต่คาดการณ์ความต้องการแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน 

จากคาดการณ์ความต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์การขยายตัวของแบตเตอรี่รถยนต์จากระดับ 155 GWh ในปี 2020 สู่ระดับ 2,294 GWh ในปี 2030 จากเดิมที่คาดไว้ที่ 1,970 Gwh และ 5,508 GWh ในปี 2040 จากเดิมที่คาดไว้ที่ 4,870 GWh ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันได้มีการพัฒนาแบตเตอรี่ลิเทียม-ไอออนในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าคุณภาพของแบตเตอร์รี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่ประสิทธิภาพที่สูงเมื่อเทียบกับราคามีแนวโน้มลดลง 

162703150884

Source: Goldman Sach. Electric Vehicles ก.ค.  2021
NCM: Lithium Nickel Manganese Cobalt Oxide Batteries 

ด้วยนโยบายและมาตรการของรัฐบาลในประเทศต่างๆที่หันมาให้ความสนใจและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีแนวโน้มและศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะข้างหน้า โดยหากมาดูราคาหุ้นของบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรม ไม่เพียงแต่ราคาของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ราคาของบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาแบตเตอร์รี่ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี การลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องแม้โอกาสจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ยังจำเป็นต้องอาศัยการพิจารณาและศึกษาอย่างรอบครอบ เนื่องจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องยังมีความไม่แน่นอน และ มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้อีกในอนาคต 

การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นบ.ที่เกี่ยวข้อง (%) นับจากต้นปี

162703994298

Source: Goldman Sachs Electric Vehicle ก.ค. 2021 , TISCOASSET  ราคาหุ้นสิ้นสุด ณ วันที่ 22 ก.ค. 2021

ที่มา: Goldman Sachs, TISCOASSET

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ www.tiscoasset.com หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว