กลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่กลับมาน่าสนใจในเชิงกลยุทธ์

กลุ่มโรงไฟฟ้าใหญ่กลับมาน่าสนใจในเชิงกลยุทธ์

สถานการณ์ระบาดไวรัสโคโรนามีแนวโน้มยืดเยื้อ

แม้จำนวนผู้ติดเชื้อล่าสุดที่ 71,437 ราย และเสียชีวิต 1,775 ราย จะไม่ได้เร่งตัวขึ้นจากช่วงก่อนหน้า แต่จากการติดตามข่าวสารและรายงานทางการแพทย์ของเราพบว่าไวรัสมีความสามารถในการหลบรอดการตรวจจากชุดตรวจได้ ซึ่งทำให้การควบคุมสถานการณ์อาจใช้ระยะเวลานาน ผลของการปิดกั้นการเดินทางและการลดการท่องเที่ยวรวมถึงกิจกรรมทางการค้าทั่วโลก คาดเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการปรับประมาณการกำไรบจ.ทั่วโลก และทำให้บรรยากาศการลงทุนอาจหมุนกลับไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย หรือหุ้นสาธารณูปโภค จนกว่าจะสามารถระบุผลกระทบที่ชัดเจน หรือผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปได้

สภาพัฒน์ปรับ GDP ปี 2563 เหลือ 1.5-2.5% โดยรายงาน GDP ไตรมาส 4/62 ที่ 1.6% และทั้งปี 2562 ที่ 2.4% ขณะที่ปรับลดประมาณการ GDP ปี 2563 เหลือประมาณ 2% (1.5-2.5%) จากผลของไวรัส, ภัยแล้ง และงบประมาณล่าช้า โดยเฉพาะไตรมาส 1/63 ที่ GDP อาจอยู่ในระดับ 1%+/- จากผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่มีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ระวังผลของไวรัสโคโรนา ต่อการปรับประมาณการกำไรบจ.ลง องค์การค้าโลก (WTO) ออกรายงานล่าสุดคาดการค้าโลกจะยังคงอ่อนแอลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้าจากไวรัสโคโรนาในจีน จะซ้ำเติมการค้าทั่วโลก ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการด้านภาษีและความไม่แน่นอนในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ APPLE ได้ออกมาให้ข้อมูลว่ารายได้อาจจะพลาดเป้า เนื่องจากห่วงโซ่อุปทานการผลิตได้รับผลกระทบ รวมทั้งอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงจากสถานการณ์แพร่ระบาด ทั้งนี้ผลของเศรษฐกิจโลกที่ถูกขัดจังหวะการฟื้นตัว คาดว่าจะกระทบต่อกำไรบจ.ไทยหลายกลุ่มเช่นกัน ทั้งพลังงาน, ธนาคาร, ค้าปลีก, ท่องเที่ยว เป็นต้น

เลือกเก็งกำไรรายตัว ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ปรับฐานมาก่อนหน้ามีโอกาสฟื้นตัว แม้เราจะมองหุ้นหลายตัวเกินราคาเหมาะสมแต่ในเชิงกลยุทธ์มองเป็นโอกาวสเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนที่น่าสนใจใน GPSC, BGRIM, GULF, EGCO สำหรับสาธารณูปโภคในนิคม อาจได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้งบครึ่งปีแรกอ่อนแอ แต่ไม่เปลี่ยนแปลงปัจจัยบวกระยะยาว ทยอยสะสม EASTW, WHAUP เรามองความกังวลผลประกอบการจะทำให้หุ้นในกลุ่มรายได้มั่นคงที่ราคาไม่ รวมถึงพลังงานทดแทน มีโอกาสเป็นเป้าหมายการลงทุน อาทิ BPP, SPP, GUNKUL

ภาพรวมกลยุทธ์ การปรับลด GDP คาดทำให้เกิดปรับลดประมาณการกำไรบจ. ตามมา ซึ่งจะทำให้เงินทุนบางส่วนไปพักในกลุ่มปลอดภัยจนกว่าการปรับประมณการลง (earnings downgraded) จะแล้วเสร็จ คาดกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมา Outperform ในช่วงสั้นได้ // หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC, SAMART* /เก็งกำไร ACE* (เป้า 4.00 ตัดขาดทุน 3.20), MFEC* (เป้า 4.00 ตัดขาดทุน 3.30)

แนวรับ 1516 จุด / แนวต้าน : 1531-1548 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%.

ประเด็นการลงทุน

มูดี้ส์หั่น GDP ปี 63 กลุ่ม G20 ลง 0.2% – มูดี้ส์ ปรับลดคาดการณ์อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ GDP ของกลุ่ม G20 ลง 0.2% สู่ระดับ 2.4% ในปี 2563 สะท้อนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

APPLE รับผลการดำเนินงานอาจพลาดเป้า – APPLE เผย บริษัทอาจมีผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 พลาดเป้า จากการผลิตที่ชะลอตัวลงและอุปสงค์ที่อ่อนแอ อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน

ธปท.เชื่อ GDP ไทยกลับมาโตเกิน 3% ในปี 64 – ธปท.ระบุว่า ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จะรุนแรงสุดในไตรมาส 1/63 ก่อนทยอยปรับตัวดีขึ้นหลังสถานการณ์คลี่คลาย โดยประเมินเศรษฐกิจไทยจะกลับมาโตเกิน 3% ในปี 2564

ค่าระวางเรือ – อยู่ที่ 434 เปลี่ยนแปลง +9 หรือ +2.12%

ประเด็นติดตาม: 20.พ. – FOMC meeting minute, 21.พ. – EU Manufacturing PMI / US Manufacturing PMI เดือน ก.พ., 22-23 ก.พ. ประชุม G20

 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)