OFOS ฝันใหญ่! ซอฟต์พาวเวอร์ไทย

OFOS ฝันใหญ่! ซอฟต์พาวเวอร์ไทย

จับกระแส OFOS ฝันใหญ่! ซอฟต์พาวเวอร์ไทย Soft Power โลก

เทศกาลสงกรานต์ 2567 รัฐบาลหมายมั่นปั้นมือให้เป็นเฟสติวัลระดับโลก สร้างซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของไทยให้ชาวต่างชาติมาเที่ยว ซึ่งกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา สรุปข้อมูลล่าสุดของการท่องเที่ยวของชาวไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1- 21 เมษายน 2567 สร้างรายได้รวม 1.4 แสนล้านบาท สูงกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ประมาณหมื่นล้านบาท 

ส่วนสถิติยอดอุบัติเหตุ 7 วันอันตรายสงกรานต์ เกิดอุบัติเหตุ 2,044 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 287 ศพ บาดเจ็บ 2,060 คน สาเหตุหลักมาจากขับรถเร็ว ข้อมูลจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บลดลงจากปีที่ผ่านมา เปรียบเทียบจำนวนของผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย

สรุปจากตัวเลขคือ เทศกาลสงกรานต์ปีนี้รายได้เพิ่ม อุบัติเหตุลด แต่ยอดเสียชีวิตยังเพิ่มเพราะขับรถเร็ว ปัญหานี้ต้องหาทางแก้ต่อไป
เมื่อประเมินภาพรวมแล้ว ถือว่า การจัดเทศกาลสาดน้ำในฤดูร้อนนี้ ทำได้ดีในแง่การบริหารจัดการพื้นที่เล่นน้ำของกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

กระนั้น ต้องตามต่อ สำหรับงานใหญ่ซอฟต์พาวเวอร์ลำดับต่อไปของรัฐบาล คือ โครงการโอเอฟโอเอส OFOS (One Family One Soft Power) หนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าไว้ว่า ภายในเดือนกันยายน 2567 จะพัฒนาศักยภาพคนไทยให้ได้อย่างน้อย 2.9 แสนคน
 
ภายใน 4 ปี จะสร้างคนเป็นแรงงานทักษะสร้างสรรค์สูง 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครอบครัว ทั่วประเทศ โดยทุกครอบครัวเหล่านี้ สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนบาทต่อปี ภายใต้การทำงานของ THACCA (Thailand Creative Content Agency) หรือ ทักก้า จะเป็นเจ้าภาพหลัก ดูทั้งระบบเบ็ดเสร็จองค์กรเดียว

สำหรับแผนงานหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ เริ่มลงทะเบียนต้นเดือนมิถุนายน 2567 อบรมต้นเดือนกรกฎาคม 2567 เปิดลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ ลงทะเบียนผ่านกองทุนหมู่บ้าน ทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ อบรมระบบออนไซต์ 3 หมื่นคนและอบรมผ่านระบบออนไลน์  2.6 แสนคน

คำอธิบายจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะให้ศูนย์บ่มเพาะทักษะสร้างสรรค์ ดำเนินการตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ไปจนถึงระดับประเทศ ให้ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะสร้างสรรค์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร ร้องเพลง แฟชั่น ศิลปะ มวยไทย และอื่น ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการอบรมแม้แต่บาทเดียว

ทว่า การขับเคลื่อนแผนหนึ่งครอบครัวหนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ ต้องใช้งบประมาณและข้าราชการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่รัฐบาลแผนใช้งบประมาณประจำปี รวมถึงซื้อใจข้าราชการด้วยการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการที่จะเริ่มวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ได้แต่เพียรหวังว่าข้าราชการจะเป็นกลไกสำคัญในการนำนโยบายรัฐไปสร้างการรับรู้และลงมือปฏิบัติแก่ชุมชน

แน่นอนว่า ภาพฝันของรัฐบาลเพื่อไทยที่จะสร้างคนเป็นแรงงานทักษะสร้างสรรค์สูง 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครอบครัวภายใน 4 ปีนั้น พูดกันตามจริงก็อาจเพ้อฝัน

ท่ามกลางการจับจ้องจากฝ่ายค้านและนักวิชาการ ว่าเป็นนโยบายเสี่ยงตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ดังนั้น การลงทุนงบประมาณต้องสมเหตุสมผลและกำกับดูแลให้โปร่งใส สร้างประโยชน์การเรียนรู้ทักษะใหม่แก่ประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งสุดท้ายเสียงประชาชนจะสะท้อนเป็นคำตอบในที่สุด
 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง :

บทความที่เกี่ยวข้องกับ soft power ทั้งหมด

บทความของ นิติราษฎร์ บุญโย ทั้งหมด