Apple ล้มโครงการรถ EV พร้อมย้ายพนักงานไปอยู่แผนก AI แทน

Apple ล้มโครงการรถ EV พร้อมย้ายพนักงานไปอยู่แผนก AI แทน

โครงการรถ EV ที่ Apple พัฒนามาหลายปี บัดนี้บริษัทตัดสินใจ “ล้มเลิก” แล้ว แต่กลับทำให้นักลงทุนวางใจ หุ้นบริษัทปรับตัวขึ้น อีกทั้งพนักงานจำนวนมากถูกย้ายไปแผนก AI แทน

ล่าสุด สำนักข่าว Bloomberg รายงานจากแหล่งข่าวภายในของ Apple บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐว่า Apple ได้ตัดสินใจยุบโครงการรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ทิ้ง พนักงานที่เกี่ยวกับโครงการนี้ราว 2,000 คนนั้น หลายคนถูกเลิกจ้าง และอีกหลายคนถูกย้ายไปยังแผนกปัญญาประดิษฐ์ (AI) แทน โดย “Generative AI” หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างเนื้อหาคล้ายมนุษย์ ได้ขึ้นเป็น “แกนหลัก” ที่บริษัทกำลังเร่งพัฒนา

สำหรับทีม Apple ด้านโครงการ EV มีวิศวกรด้านฮาร์ดแวร์และด้านการออกแบบราวหลายร้อยคน เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจถูกย้ายไปอยู่ในแผนกอื่น ๆ ของ Apple แทน โดยในขณะนี้ บริษัทยังไม่ได้ระบุตัวเลขเลิกจ้างที่แน่ชัด

การตัดสินใจยุบโครงการ EV ได้ทำให้นักลงทุนสบายใจ โดยสะท้อนผ่านราคาหุ้นบริษัทที่ปรับตัวขึ้น 1% มาอยู่ในราคาปิดที่ 182.63 ดอลลาร์ในวันอังคาร (27 ก.พ.) หลังข่าวการยุบโครงการนี้ถูกรายงานจาก Bloomberg

ส่วน อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ก็ฉลองกับการตัดสินใจของ Apple โดยแชร์รูปที่โพสต์ใน X (Twitter) ด้วยอีโมจิแสดงความเคารพพร้อมบุหรี่

ที่ผ่านมา Apple ทุ่มเทกับการวิจัยรถยนต์ในหลายรูปแบบเป็นเวลาหลายปี โดยการทำให้รถขับอัตโนมัติเองได้ ยังคงเป็น “โจทย์ใหญ่” ของบริษัท  Apple เคยทดลองระบบขับขี่บนถนนนับตั้งแต่ปี 2560

อย่างไรก็ตาม เส้นทางการอุตสาหกรรมนี้ไม่ง่าย เนื่องจากเป็นตลาดแข่งขันด้านราคาสูง โดยเฉพาะคู่แข่งจากจีน อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานอย่างแท่นชาร์จที่ไม่ครอบคลุม จึงอาจทำให้ผู้ใช้งานยังคงไม่เปลี่ยนรถสันดาปเป็น EV แบบเต็มตัว
.
อ้างอิง: bloomberg