'สงกรานต์' Soft power กระตุ้นศก.ดึงเงินเข้าประเทศ

'สงกรานต์' Soft power กระตุ้นศก.ดึงเงินเข้าประเทศ

การที่ยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย”เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จะเป็นแรงหนุนส่งให้สงกรานต์กลายเป็น “World Water Festival-The Songkran Phenomenon” ตามรัฐบาลตั้งเป้าไว้ มีเม็ดเงินกระจายลงไปทั่วประเทศได้มากขึ้น

ในที่สุดองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” ประเพณีปีใหม่ไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติในที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 18 เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2566 (เวลาประเทศไทยประมาณ 15.00 น.) ที่ เมืองคาเซเน สาธารณรัฐบอตสวานา ถือเป็นลำดับที่ 4 โดยก่อนหน้านี้ UNESCOได้ประกาศขึ้นทะเบียนให้แก่ “โขน” (Khon, masked dance drama in Thailand) ในปี 2561 “นวดไทย” (Nuad Thai, Traditional Thai Massage) ในปี 2562 “โนรา” ของภาคใต้ (Nora, Dance Drama in Southern Thailand) ในปี 2564

ก่อนหน้านี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ยื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนรายการ “สงกรานต์ในประเทศไทย” (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) ต่อยูเนสโกตั้งแต่ ปี 2563 โดยผ่านขั้นตอนในประเทศ ตั้งแต่กระบวนการจัดทำเอกสารขอขึ้นทะเบียนร่วมกับชุมชนผู้ถือครองและผู้ปฏิบัติ ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และได้รับความยินยอมจากชุมชนไทย ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 24 มี,ค. 2563 เห็นชอบให้เสนอขอขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อยูเนสโก ซึ่งเป็นการเสนอขอขึ้นทะเบียนรายการโดยประเทศเดียว (national nomination) ถือเป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ    

จะเป็นแรงหนุนส่งช่วยให้เทศกาลสงกรานต์ของไทย กลายเป็น “World Water Festival-The Songkran Phenomenon” ตามที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน และ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธาน ตั้งเป้าไว้ เป็นมหาสงกรานต์ที่คนทั้งโลกต้องมาเล่นที่ประเทศไทย และสามารถเล่นได้ทั่วประเทศ 77 จังหวัดตลอดทั้งเดือนเม.ย.ปีหน้า คาดว่าจะสร้างเม็ดเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท กระจายทั่วประเทศ

และในวันนี้ (7 ธ.ค) เวลา 18.00 น.กรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานฉลองสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Songkran in Thailand, Traditional Thai New Year Festival) ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร และวัดสุทัศนเทพวราราม โดยมี นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดงานพร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ทูตานุทูต ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานครและจังหวัด 76 จังหวัด พร้อมภาคีร่วมงาน เป็นจุดเริ่มต้น “World Water Festival-The Songkran Phenomenon”

การเอาวัฒนธรรมประเพณี การแต่งกาย ภาษาพูด อาหารประจำถิ่น ออกมากระตุ้นเสริมการท่องเที่ยว ควรทำตลอดทั้งปี และหลากหลายเทศกาล บรรจุในปฏิทินท่องเที่ยวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แพร่ประชาสัมพันธ์ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยววางแผนการเดินทาง แต่ละภาค มีเทศกาล ประเพณีต่างๆ สามารถจัดได้ตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จะทำให้เม็ดเงินกระจายลงไปทั่วประเทศได้มากขึ้น