ไอ่หย๋า..เงินเฟ้อ (วันที่ 14 กรกฎาคม 2565)

ไอ่หย๋า..เงินเฟ้อ (วันที่ 14 กรกฎาคม 2565)

ตลาดหุ้นเมื่อวันอังคาร SET ปิดลบ 11 จุด ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนขายลดความเสี่ยงเพื่อรอดูตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้

ขณะเดียวกันหุ้นกลุ่มน้ำมันถูกกดดันหลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดฟิวเจอร์ปรับตัวลงกังวล โจ ไบเดน เดินทางเยือนซาอุฯ กดดันให้ผลิตน้ำมันดิบเพิ่ม

 

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

ประเมิน SET ปรับตัวลงแนวรับ 1,530 - 1,540 จุด หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งสูงสุดในรอบ40 ปี โดย CPI เดือนมิ.ย.+9.1% YoY ส่งผลให้ FED มีแนวโน้มเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งนี้ Fedwatch tool คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.75% ในการประชุม 27 ก.ค. และ 21 ก.ย. นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงรวมถึง Covid-19 ในจีนที่เร่งตัวขึ้นอาจทำให้จีนกลับมาล็อคดาวน์อีกครั้งซึ่งเป็นแรงกดดันดัชนี

 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

          GPSC BGRIM GULF RATCH SCGP SCC  อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง

          BDMS BH BCH CHG แนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 สูงขึ้น

          BEM BTS INTUCH ADVANC หุ้น Defensive ในช่วงตลาดผันผวน

 

หุ้นแนะนำวันนี้

GPSC (ปิด 67 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72 บาท) แรงกดดันต่อต้นทุนพลังงานเริ่มลดลงหลังจากแนวโน้มของราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวเป็น Sentiment บวกกับโรงไฟฟ้าประกอบกับมีประเด็นเรื่องการปรับขึ้นค่า Ft ให้เก็งกำไรเป็นบวกกับผู้ประกอบการที่มีสัดส่วนของโรงไฟฟ้า SPP และมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นภาคอุตสาหกรรมสูง

CPALL (ปิด 62.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 74.5 บาท) ได้ผลบวกจากการปรับขึ้นราคาสินค้าช่วยหนุนรายได้และมาร์จิ้นให้เพิ่มขึ้น ด้านแรงกดดันต่อกำลังซื้อของประชาชนในประเทศลดลง หลังจากราคาน้ำมันดิบเริ่มชะลอตัวและรัฐตึงราคาดีเซลในประเทศไปอีก 3 เดือน

 

 

บทวิเคราะห์วันนี้

TRUE (ปิด 4.66 ซื้อ/เป้า 5.5 บาท), Property sector

 

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี กดดันเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย: สหรัฐรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.1% จาก 8.6% ในเดือน พ.ค. และสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 8.8% นับเป็นระดับอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบ 40 ปี อย่างไรก็ตามในส่วนของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับตัวลงเล็กน้อยเป็น 5.9% จาก 6% ในเดือน พ.ค. แตะยังสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 5.8%

(-) น้ำมันดิบผันผวนรุนแรงจากหลายปัจจัยลบรุมกดดัน: เมื่อคืนราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาปิดบวก 46 เซนต์ แต่วันก่อนหน้า (วันอังคาร) ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงกว่า 8 ดอลลาร์ และเป็นสาเหตุให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลงมาซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปัจจุบัน เป็นผลจาก 1)กังวลภาวะ ศก. ถดถอยกดดันดีมานด์, 2)กังวลจีนกลับมาล็อกดาวน์รอบใหม่, 3) ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า, และ 4) กังวลไบเดน กดดันกลุ่ม OPEC เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ

(+/-) วันนี้ติดตาม TISCO ประกาศงบจับสัญญาณทิศทางผลกำไรของกลุ่มธนาคารใน 2Q22: TISCO จะเป็นผู้ประกอบการธนาคารรายแรกที่จะทำการประกาศงบ 2Q22 ออกมาในวันนี้โดยผลกำไรของ TISCO จะช่วยบ่งชี้ทิศทางของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยประกาศงบออกมาทั้งหมดในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นเราคาดว่า TISCO จะมีกำไรสุทธิ 2Q22 ประมาณ 1,687 ล้านบาท ลดลง 6%qoq แต่เพิ่มขึ้น 1.3%yoy