WICE จ่อยื่นไฟลิ่ง ETL ไตรมาส 3 นี้ เสนอขายไอพีโอ ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

WICE จ่อยื่นไฟลิ่ง ETL ไตรมาส 3 นี้ เสนอขายไอพีโอ ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า

“ไวส์ โลจิสติกส์” เปิดแผนครึ่งปีหลัง ทุ่มงบ 200 ล้าน เจรจาพันธมิตรทำดีลใหม่ “ควบรวม-ร่วมทุน-ขยายสาขา” เดินหน้าบุกตลาดอาเซียน คาดปีนี้ผลประกอบการทำนิวไฮเป็นปีที่ 3 เผยเตรียมยื่นไฟลิ่ง “อีทีแอล” ไตรมาส 3 นี้ 

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 2565 มีแนวโน้มดีเพิ่มขึ้น คาดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ซึ่งมีปัจจัยหนุนด้านมาตรการคลายล็อกดาวน์ของจีน อีกทั้งสหรัฐมีการพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มองจะช่วยลดความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยและกลับเข้าสู่วัฏจักรปกติในระยะถัดไป หลังเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวขึ้นมาร้อนแรงปีก่อน 

ขณะที่ สถานการณ์เงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้มีความต้องการขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีทั้งราคาน้ำมันและอัตราค่าระวางเรือที่ยังอยู่ในระดับสูง และให้ค่าบริการขนส่งยังมีทิศทางสูงต่อเนื่องคาดวราปริมาณการขนส่งโดยรวมจะเพิ่มขึ้น 20-30% หลักๆ เติบโตจากตลาดสหรัฐ , จีน และอาเซียน

โดยบริษัทมุ่งเน้นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ ได้แก่ การเพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเล โดยเฉพาะสหรัฐทั้งสิ้นจำนวน 10,000 TEUS โต 30% จากปีก่อนที่ 7,000 TEUS จากครึ่งปีแรกสามารถขนส่งสินค้าได้จำนวน 5,091 TEUS คิดเป็น 51% ของเป้าหมาย, การขนส่งสินค้าข้ามแดน หากสถานการณ์ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของจีนดีขึ้น และสามารถเปิดด่านขนส่งสินค้าได้ จะส่งผลให้บริษัทมีปริมาณการขนส่งเพิ่มมากขึ้น และการขนส่งทางอากาศ หากประเทศจีนมีการเปิดประเทศช่วงไตรมาส 4 จะส่งผลให้มีจำนวนเที่ยวบินขนส่งเพิ่มขึ้น 

ขณะที่ความร่วมมือกับสาขาต่างประเทศที่ให้บริการจำนวน 9 แห่ง เพื่อขยายไปยังประเทศกลุ่มอาเซียน-จีน และ จีน-สหรัฐ โดยมีเป้าหมายการให้บริการ 3,000 TEUS ซึ่งช่วงครึ่งปีแรกสามารถขนส่งได้เป็นจำนวน 1,702 TEUS คิดเป็น  56.73% ของเป้าหมาย

นายชูเดช มั่นใจปีนี้จะสร้างการเติบโตรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 9,000 ล้านบาท โต 20% และรักษาอัตรากำไรสุทธิระดับ 7% ใกล้เคียงเดิม ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 50% , ขนส่งทางอากาศ (Air Fright) 21% , ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ( Cross Border Service) 22% และงานซัพพายเชนโซลูชั่น 7%

ด้านแผนการขยายธุรกิจสร้างการเติบโตเพิ่มเติม บริษัทคงงบลงทุนราว 200 ล้านบาท ยังเพียงพอสำหรับการทำดีลใหม่ๆ ทั้งควบรวบกิจการ(M&A) และเข้าร่วมลงทุน (JV )รวมถึงการขยายสาขาใหม่เพิ่มในต่างประเทศ และยังอยู่ระหว่างการหารือกับพันธมิตรทางธุรกิจ มุ่งเน้นธุรกิจด้านโลจิสติกส์ครบวงจร และโฟกัสขยายตลาดในอาเซียนที่มีศักยภาพโตระยะข้างหน้า เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์

นอกจากนี้ ในส่วนการนำ บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ยังเป็นไปตามแผน คาดว่าจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ให้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ (ก.ล.ต) ในชไตรมาส 3 ปีนี้ และจะเสนอขายหุ้น IPO ได้ช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 66