3ภารกิจฟื้นคอนโดนายกส.อาคารชุดไทยคนใหม่

3ภารกิจฟื้นคอนโดนายกส.อาคารชุดไทยคนใหม่

“พีระพงศ์ จรูญเอก”นั่งเก้าอี้นายกสมาคมอาคารชุดไทยคนใหม่ชู3ภารกิจเร่งด่วนฟื้นตลาดคอนโด พร้อมเตรียมจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่42ครั้งใหญ่เดือนต.ค.นี้ หวังกระตุ้นตลาดคอนโดกลับมาคึกคักอีกครั้ง ระบุกังวลปัญหากำลังซื้อของผู้บริโภค

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้จำกัด(มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทยคนใหม่ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งนายกฯคนที่ 12  ต่อจากดร. อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ซึ่งตนพร้อมจะสานต่อนโยบายเดิมเพื่อช่วยกระตุ้นตลาดคอนโดที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ในช่วง2-3ที่ผ่านมาให้กลับมาฟื้นตัวเหมือนในช่วงปี 2560-2561 อีกครั้ง  โดยมีภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการในปี 2565  อยู่ด้วยกัน 3 เรื่องหลัก ได้แก่

    ภารกิจแรกการไปขอความร่วมมือกับบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร ให้ช่วยผ่อนปรนกฎเกณฑ์การผ่อนคลายเครดิตการกู้ยืมสินเชื่อสำหรับอาชีพที่ได้รับผลกระทบในช่วงวิกฤติโควิด-19  ที่ผ่านมา  ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้คนสามารถมีโอกาสมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองเพราะสามารถกู้ยืมสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้ ส่งผลดีต่อภาพรวมของตลาดอสังหาฯ เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินค่อนข้างเข้มงวดเรื่อง Credit Scrolling หรือความสามารถในการชำระหนี้

      " แนวคิดนี้จะเป็นความร่วมมือกับสถาบันการเงินในการช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายที่ดำเนินการควบคู่ไปกับนโยบายที่ร่วมกับสถาบันการเงินที่มีโครงการรวมหนี้ ที่ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อทำให้คนมีบ้านง่ายขึ้น และเข้าถึงสินเชื่อในระบบที่มีต้นทุนต่ำถือเป็นนโยบายที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้กับผู้กู้ ที่มีหนี้ระยะสั้นที่ดอกเบี้ยสูงให้สามารถนำมารวมกับหนี้ระยะยาวที่มีสินทรัพย์ค้ำประกันได้ เช่น บ้าน รถยนต์ ที่มีอัตราดอกเบี้ยไม่สูงทำให้อัตราดอกเบี้ยที่จ่ายปรับลดลงมา สามารถช่วยเหลือผู้กู้ได้ ที่สำคัญเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นการซื้อที่อยู่อาศัย"

ภารกิจที่สอง คือ การเดินสร้างความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม (สปส.)ในการสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยหลังแรกกับผู้ใช้สิทธิ์ประกันสังคมของสปส. คล้ายกับรถยนต์คันแรก

สำหรับบ้านจัดสรร–คอนโดระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งจะนำเงินจากกองทุน สปส.ที่มีอยู่มาจัดสรรเพื่อเปิดโอกาสให้คนมีบ้านเป็นของคนเองได้ง่ายขึ้น 

 และภารกิจที่สามคือการกระตุ้นกำลังซื้อจากต่างประเทศ โดยการให้ Permanent Residenc Visa หรือ Green Card ที่คนต่างชาติจะได้รับสิทธิ์การพักอาศัยระยะยาว 10 ปี เหมือนกับประเทศมาเลเซียแทน อีลิทคาร์ดเพื่อจูงใจลูกค้าชาวต่างชาติให้มาซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยมากขึ้น นั่นหมายความว่าจะส่งผลดีต่อตลาดคอนโดสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง
 

" หลังจากที่2 ปีที่ผ่านมากลุ่มลูกค้าต่างชาติยังไม่กลับมาซื้ออสังหาฯในประเทศไทย ส่วนหนึ่งยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ ส่งผลให้ตลาดคอนโดยังขาดปัจจัยบวกที่เข้ามากระตุ้น โดยเฉพาะกำลังซื้อจากชาวต่างชาติ แต่หลังจากการเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ และเปิดประเทศอย่างเต็มที่แล้วคาดว่า จะทำให้ลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาซื้อคอนโดในประเทศไทยมากขึ้นและ เห็นได้ชัดเจนในปีหน้า"

นายพีระพงศ์  ประเมินว่า ในปี2566 ตลาดคอนโดน่าจะฟื้นตัวกลับมาใกล้เคียงกับปี 2662 ก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องกำลังซื้อชาวต่างชาติและคนในประเทศ จากมาตรการกระตุ้นทั้งจากภาครัฐและเอกชน หนึ่งในนั้นเป็นผลมาจากแรงผลักดันของสมาคมอาคารชุดไทยที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

โดยกิจกรรมไฮไลท์ในปีนี้ก็คือการจัดงาน  “งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่  42” ที่เลื่อนมาหลายครั้ง  ดังนั้นในปีนี้ จะจัดให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในเดือนต.ค.นี้  คาดว่าจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถระบายสต็อกที่เหลืออยู่ได้ ขณะเดียวกันผู้บริโภคที่ยังต้องการที่อยู่อาศัยจะมีโอกาสเลือกซื้อที่อยู่อาศัยที่ต้องการในราคาเหมาะสมก่อนที่ผู้ประกอบการจะปรับราคาขึ้นในปีหน้า  เนื่องจากต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น10- 15%

 “ปัจจัยที่กังวลที่สุดของตลาดคอนโดคือกำลังซื้อเพราะหลังจากสถานการณ์โควิด-19 และตามมาด้วยสงครามระหว่างรัสเซีย–ยูเครน ส่งผลให้เกิดเงินเฟ้อ มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันและค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้อารมณ์ซื้อลดลง ” 

    นายพีระพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องกฎเกณฑ์การยื่นขออนุญาตทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA  ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีการปรับหลักเกณฑ์เพิ่มเติมนั้น จะพยายามผลักดันให้เป็นกฎระเบียบที่ชัดเจนแทนที่จะเป็นความคิดเห็น เพื่อให้การทำงานสะดวกรวเร็วมากขึ้นที่สำคัญทำให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการถูกลง