ความหวังท่ามกลางความไม่แน่นอน

ท่องเที่ยวไทยต้องมีแผนระยะยาวรองรับ เลิกหวังพึ่งเพียงความคึกคักชั่วคราว
หลังจากที่รัฐบาลอนุทินเข้ามาบริหารประเทศเต็มรูปแบบ รัฐมนตรีทุกกระทรวงเข้าทำงานกันอย่างพร้อมเพรียง สัญญาณหลายอย่างในระบบเศรษฐกิจดูจะคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่หลายฝ่ายจับตาคืออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะนี่คือเสาหลักทางเศรษฐกิจที่ไทยพึ่งพามาอย่างต่อเนื่อง
ช่วงโควิด-19 ประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง การปิดเมืองและปิดน่านฟ้าทำให้รายได้หายไปมหาศาล แต่เมื่อโลกเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติในปี 2566–2567 การท่องเที่ยวก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
นักท่องเที่ยวจีน ยุโรป และอเมริกาทยอยกลับมาเป็นปกติ แต่พอเข้าสู่ปีนี้สัญญาณกลับไม่สดใสเหมือนเดิม เพราะเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญปัญหาเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศ
ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ค่าครองชีพในประเทศพัฒนาแล้วที่สูงขึ้นอย่างมาก ราคาสินค้าพื้นฐาน เช่น อาหารจานด่วนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตัวเลือกประหยัด วันนี้ในสหรัฐราคาเบอร์เกอร์ของแมคโดนัลด์แตะระดับ 14 ดอลลาร์ ไม่นับรวมร้านอาหารทั่วไปเมื่อรวมค่าทิปและภาษีแล้วแทบจะสูงกว่ารายได้รายวันของแรงงานในบางประเทศ
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทำให้ประชาชนยุโรปและอเมริกาจำเป็นต้องตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออกไปก่อน และ “การท่องเที่ยวต่างประเทศ” ก็มักเป็นอย่างแรกที่ถูกตัดทิ้ง
งานวิจัยหลายสำนักสะท้อนข้อมูลตรงกันว่า นักท่องเที่ยวในยุโรปและอเมริกาลดแผนการเดินทางลงราว 5–10% โดยเฉพาะในประเทศที่เคยเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของไทยอย่างเยอรมนี ฝรั่งเศส หรือประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งอัตราการจองตั๋วและโรงแรมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนจากสงครามการค้าและกำแพงภาษีระหว่างสหรัฐกับจีนยังคงยืดเยื้อ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจโลกขาดเสถียรภาพ ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวก็สั่นคลอนตามไปด้วย
จีนถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของไทยตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา เทศกาลสำคัญอย่างตรุษจีนและวันชาติ เป็นช่วงที่สายการบิน โรงแรม และร้านค้าต่างเฝ้ารอ เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนโตแบบก้าวกระโดดหลังโควิด
แต่ในปี 2568 สถานการณ์อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป รัฐบาลจีนพยายามรณรงค์ให้ประชาชนท่องเที่ยวในประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายใน และเมื่อรวมกับแรงกดดันจากสงครามการค้ากับสหรัฐ ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศอาจหดตัวลงมาก เช่นเดียวกับญี่ปุ่นก็ไม่แตกต่างกัน จากการสำรวจชี้ว่าคนญี่ปุ่นกว่าครึ่งลดวางแผนท่องเที่ยวต่างประเทศ
ภาวะเศรษฐกิจของไทยจึงกำลังเผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากตลาดหลักลดลง ไทยจำเป็นต้องเลิกหวังพึ่งเพียงความคึกคักชั่วคราวแบบหลังโควิด แต่ต้องมีแผนระยะยาวรองรับ
เพราะการท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ที่ขับเคลื่อนไทยไปข้างหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 นี้
...ข้อคิดเห็นเป็นอย่างไรนั้น ติดตามต่อในสัปดาห์หน้าครับ







