“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

Louis XIII (หลุยส์ 13) คือคอนยักระดับสูงสุดจากแบรนด์เฮรมี มาร์แตง (Rémy Martin) ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชาแห่งคอนยัก" (King of Cognacs)

KEY

POINTS

  • Louis XIII (หลุยส์ 13) คือคอนยักระดับสูงสุดจากแบรนด์เฮรมี มาร์แตง (Rémy Martin) ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชาแห่งคอนยัก" (King of Cognacs)
  • ผลิตจากการผสมผสานเหล้ากลั่นจากองุ่น (eaux-de-vie) กว่า 1,200 ชนิด ที่ผ่านการบ่มยาวนานตั้งแต่ 40 ปีถึงกว่า 100 ปี
  • ชื่อ "หลุยส์ 13" ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่กษัตริย์ฝรั่งเศส และบรรจุในขวดโถคริสตัล Baccarat ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • เป็นคอนยักหรูหราที่มีราคาสูงมาก โดยมีรุ่นพิเศษ (Rare Cask) ที่ผลิตจำนวนจำกัดและมีมูลค่าหลายล้านบาท

ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสทำหน้าที่แนะนำไวน์ให้กับนักธุรกิจญี่ปุ่นและไทยกลุ่มหนึ่งรวม 7 คน จัดเป็นแบบส่วนตัวในคฤหาสน์หรู มูลค่าของไวน์และเครื่องดื่มในวันนั้นรวมแล้วประมาณ 4-5 ล้านบาท เพราะเป็นไวน์ชื่อดังและมูลค่าความแพงติดท็อป 1-3 ของโลก

ในจำนวนนั้นมี คอนยัก (Cognac) ชื่อดังและราคาแพงติดอันโลกอยู่ด้วย ใช้ดื่มในตอนสุดท้าย นั่นคือ หลุยส์ เดอะ เธอร์ทีน หรือ หลุยส์13  (Louis XIII) ซึ่งราคาในบ้านเรา ณ วันนี้ ขวดละประมาณ 12,000 บาทขึ้นไป 

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

สัญลักษณ์ของเฮรมี มาร์แตง

ผมได้เล่าเรื่องราวของ หลุยส์13 ให้ทุกคนได้ฟัง และพวกเขาบอกว่าผมน่าจะเขียนเรื่องนี้นะ ซึ่งจริง ๆ ผมเคยเขียนไปบ้างแล้วตอนนั้นราคาประมาณ 80,000 กว่าบาท เมื่อราคาขึ้นมาเลข 6 ตัวอย่างนี้ก็นำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง เพราะเรื่องเหล้านั้นเล่าเท่าไรก็ยังน่าฟังเสมอ !

หลุยส์ เดอะ เธอร์ทีน หรือ หลุยส์13 เป็นผลผลิตของ เฮรมี มาร์แตง (Rémy Martin) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตคอนยักที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ของโลก และเป็นหนึ่งในสมาชิกของ Comité Colbert สมาคมธุรกิจระดับหรูหรา ที่ส่งเสริมภูมิปัญญาของฝรั่งเศสให้ขจรไกลไปทั่วโลก

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล! เฮรมี มาร์แตง แห่งแคว้นคอนยัก

เฮรมี มาร์แตง ผลิตคอนยักหลายรุ่น แต่ที่ถือว่าเป็นรุ่นสุดยอดและได้รับการยกย่องให้เป็น ราชาแห่งคอนยัก (King of Cognacs) ก็คือ หลุยส์ เดอะ เธอร์ทีน หรือ หลุยส์13  และยังเป็นรุ่นที่คุณภาพและราคาติดอันดับ 1 ใน 10 เหล้าที่ราคาแพงที่สุดในโลก เป็นรุ่นแรร์ คาสค์ (Rare Cask) หรือ ลัคชะรี คอนยัก (Luxury Cognac) คือ เฮรมี มาร์แตง แบล็ค เพิร์ล หลุยส์ เดอะ เธอร์ทีน (Rémy Martin Black Pearl Louis XIII) ราคา 165,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,445,000 บาท ผลิตเพียง 786 ขวดเท่านั้น รุ่นนี้ใช้ Eaux de vie กว่า 1,200 จำนวนรอบผลิต (batch) จากอายุ 40-100 ปี มาเบลนด์กัน

เมื่อปี 2023 มีการเปิดตัว หลุยส์ 13 คาสค์ 42.1 (Louis XIII Cask 42.1) ราคาขวดละ 47,000 ปอนด์สเตอร์ลิง ผลิตเพียง 775 ขวดที่เป็นโถดีแคนเตอร์ คริสตัล ของ Baccarat คอขวดเป็นทองและทองคำขาว ขณะที่คอนยักรังสรรค์โดยบ๊าปติต ลัวโซ (Baptiste Loiseau) เซลลาร์ มาสเตอร์ รุ่นที่ 5 ของหลุยส์ 13

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

หนึ่งในรุ่น Rare Cask 

Rare Cask เป็นซีรีส์ของ Louis XIII โดย Rare Cask 42.1 เป็นซีรีส์ 3 ก่อนหน้านั้นซีรีส์ที่ 1 เป็น Rare Cask 43.8. เปิดตัวปี 2004 และซีรีส์ที่ 2 เป็น Rare Cask 42.6 ปี 2009

Louis XIII มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Louis XIII de Remy Martin โดยนายเฮรมี มาร์แตง ผู้ก่อตั้ง ได้เริ่มเบลนด์ Louis XIII ในปี 1821 ด้วยการนำ โอซ์ เดอ วี (eaux-de vie) หรือ waters of life เหล้ากลั่นจากองุ่นหลายร้อยระดับอายุมาผสมผสานกัน ก่อนจะพบสูตรพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง 

จากนั้นลูกชายของเขาคือ ปอล-เออมิลล์ เฮรมี มาร์แตง จึงมาจดทะเบียนในปี 1874 ภายใต้ชื่อ“Louis XIII Tres Grande Champagne – Age Unknown”

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล! พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 

Louis XIII นี้ตั้งชื่อรุ่นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส (Louis XIII de France, 1601-1643) ซึ่งปกครองฝรั่งเศสในช่วงที่ครอบครัว Rémy Martin อาศัยอยู่ในแคว้นคอนยัก พระองค์สนิทสนมกับครอบครัวนี้ และทำให้คอนยักมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

ถังบ่มหลุยส์ 13

Louis XIII ผลิตจาก eaux-de-vie จากไร่ในเขตกรองด์ ชอมปาญ (Grande Champagne) 100% ด้วยการเบลนด์จาก eaux-de-vie ประมาณ 1,200 ตัว ที่นำมาจากเซลลาร์ของ Remy Martin บางตัวเก็บบ่มมากว่า 100 ปี อายุน้อยที่สุดคือ 40 ปี

โดยมีเซลลาร์ มาสเตอร์ (Cellar Master) หรือมาสเตอร์ เบลนเดอร์ (Master Blender) ดูแลและตรวจสอบถูกหยาดหยด ก่อนจะนำไปบ่มในเตียร์ซงส์ (Tiercons) ถังโอ๊คจากป่าลีมูแซง (Limousin) ซึ่งถือว่าเป็นโอ๊คคุณภาพยอดเยี่ยมและราคาแพง

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

การทำขวดหลุยส์ 13 

ปอล-เออมิลล์ เฮรมี มาร์แตง เป็นต้นคิดในการออกแบบขวดที่บรรจุ Louis XIII ที่เป็นทรงโถแก้วคริสตัล (Decanter Crystal) ทำจากคริสตัลน้ำหนึ่งเรียกว่า Baccarat Crystal Flur de Lis ผลิตโดย Baccarat มาตั้งแต่ปี 1937 ก่อนหน้านั้นผลิตโดย St Louis 

ขณะที่สตอปเปอร์หรือที่ปิดขวดเป็นคริสตัล fleur-de-lys crystal ทั้งหมดเป็นเครื่องแก้วสไตล์บาโรก (Baroque) เป็นศิลปะสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 นั่นเอง ขวดนี้ผลิตตามแบบขวดโบราณ ซึ่งเออมิลล์ เฮรมี มาร์แตง พบในพื้นที่เดิมที่เป็นสนามรบที่ฌาร์นัก (Jarnac) ทางตะวันออกของคอนยัก 

ในบ้านเรา ขวดหลุยส์ 13 เปล่า ๆ มีการรับซื้อกันอยู่ที่ขวดละประมาณ 4,000 – 5,000 บาท

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

ขวดเปล่าราคา 4-5 พันบาท 

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

ปอล - เออมิลล์ เฮรมี มาร์แตง

นอกจากนั้น ปอล-เออมิลล์ เฮรมี มาร์แตง ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำให้ชื่อเสียงของ เฮรมี มาร์แตง เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก เริ่มจากการสร้างเครื่องหมายการค้าของผลิตภัณฑ์ เป็นรูปลักษณ์ที่เห็นกันกระทั่งทุกวันนี้คือ เซนทอร์ (Centaur) สัตว์ในเทพนิยายที่มีหัวเป็นคนตัวเป็นม้า

ขณะที่ในภาษาจีนเรียกว่า Rréntóumă ที่แปลตามตัวอักษรว่า "Man-headed horse” ขณะเดียวกันยังเป็นชื่อกลุ่มดาวที่เป็น จักรราศีธนู (Sagittarius) ซึ่งเป็นราศีประจำตัวของ Paul-Emile Rémy Martin ด้วย

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2, ปี 1910 อังเดร เฮรโนด์ (André Renaud) ทนายฝึกหัด ได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนของบริษัท E. Rémy Martin & Co. และได้เปิดตัวคอนยักรุ่น VSOP Fine Champagne เป็นครั้งแรกในปี 1927 จนโด่งดังไปทั่วโลกกระทั่งทุกวันนี้

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กิจการตกอยู่ในการดูแลของ André Hériard-Dubreuil ลูกเขยของ André Renaud และเมื่อพ่อตาเสียชีวิตปี 1965 เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นประธานบริษัท และปี 1988 Dominique Hériard-Dubreuil ลูกสาวของเขาก็เข้ามาเป็นผู้จัดการทั่วไปและเป็นประธานแทนพ่อในอีก 2 ปีต่อมา 

สุดท้ายปี 1991 เฮรมี มาร์แตง ก็ถูกผนวกเข้าในเครือ เฮรมี คอนโทร กรุ๊ป (Rémy Cointreau Group) จนถึงปัจจุบัน

เฮรมี มาร์แตง “หลุยส์ 13” เป็นที่โปรดปรานของบุคคลชั้นนำทั่วโลก ทั้งมหาเศรษฐี นักการเมือง นักธุรกิจ ผู้นำประเทศ และใช้เสิร์ฟในงานสำคัญ ๆ เช่น George VI แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จเยือนฝรั่งเศส ปี 1938 ในอีก 3 ปีต่อมา Queen Elizabeth II พระราชธิดาของพระองค์เสด็จเยือนฝรั่งเศส ณ พระราชวังแวร์กซาย และ ปี 1951 Winston Churchill ฉลองชัยชนะได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกฯ อังกฤษ เป็นต้น

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล!

สีสันของหลุยส์ 13

สำหรับเทสติ้ง โน้ต ของหลุยส์ 13 ที่ผมได้ชิมครั้งล่าสุดในวาระพิเศษดังกล่าวมีดังนี้..

เฮรมี มาร์แตง “หลุยส์ 13” สีเหลืองทองอำพันแกมบราวน์และส้มนิด ๆ ตามอายุการเก็บ หอมกลิ่นอบอวลมาก โดยเฉพาะฟิก (Fig) หรือมะเดื่อสุกฉ่ำ กลิ่นนี้ถือเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ 13 ตามด้วย เรซิน พรุน สโมกกี้ ดอกไม้แห้ง วานิลลา ช็อกโกแลต คาราเมล สไปซีเฮิร์บ อบเชย จันทน์เทศ ขิง และน้ำผึ้ง จบยาวนานด้วยผลไม้สุกฉ่ำ ดอกไม้ สไปซี่ และเฮิร์บชุ่ม ๆ คอ เป็นคอนยักที่คอมเพล็กซ์ หนักแน่นแต่พลิ้วไหว 

“หลุยส์ 13” ราชาแห่งคอนยักทั้งมวล! หลุยส์ 13 และแก้วเฉพาะตัว

จริง ๆ แล้ว เขามีแก้วที่ออกแบบสำหรับ Louis XIII โดยเฉพาะ ทำด้วยคริสตัลคุณภาพยอดเยี่ยมของโลก ทางผู้ผลิตบอกว่าถ้าได้แก้วนี้จะช่วยส่งเสริมรสชาติได้ดีมาก

“หลุยส์ 13” ซึ่งในแวดวงคอนยักยกย่องให้เป็น “ราชาแห่งคอนยัก” และเป็นคอนยักที่ต้องดื่มสักครั้งในชีวิต!