เกลนกอยน์ (Glengoyne) ซิงเกิล มอลต์ แห่งหุบเขาห่านป่า

เกลนกอยน์ (Glengoyne) มีความหมายว่า "หุบเขาแห่งห่านป่า" เป็นซิงเกิลมอลต์สก็อตช์วิสกี้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงกลั่นที่สวยงามที่สุดในสกอตแลนด์
KEY
POINTS
- เกลนกอยน์ (Glengoyne) มีความหมายว่า "หุบเขาแห่งห่านป่า" (Glen of the Wild Geese) ตามชื่อสถานที่ตั้งดั้งเดิมของโรงกลั่น
- เป็นซิงเกิลมอลต์สกอตช์วิสกี้จากเขตไฮแลนด์ (Highland) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงกลั่นที่สวยงามที่สุดในสกอตแลนด์
- มีเอกลักษณ์พิเศษคือการใช้ลมร้อนเป่ามอลต์ให้แห้งแทนการใช้ถ่านหินพีท (Peat) ทำให้วิสกี้มีรสชาติบริสุทธิ์ปราศจากกลิ่นควัน
- โดดเด่นด้านการบ่มในถังไม้โอ๊คที่ผ่านการบ่มเหล้าแชร์รี (Sherry Cask) ทำให้มีรสชาติซับซ้อนและกลิ่นหอมของผลไม้แห้ง
มีแฟน ๆ ของคอลัมน์นี้ได้สอบถามแกมบังคับ ฮึ่ม! หมู่นี้เรื่องราวของ ซิงเกิล มอลต์ (Single Malt) หายไปนานนะ...จากการที่เมื่อก่อนผมเขียนเรื่อง ซิงเกิล มอลต์ บ่อยครั้ง
เมื่อสอบถามแถมด้วยฮึ่ม! แบบนี้ ผมย่อมต้องตอบสนองแฟนคอลัมน์ท่านนี้และกลุ่มเพื่อนๆ ติดตามคอลัมน์นี้มา 20 กว่าปี ซึ่งล้วนเป็นระดับ สว.(สูงวัย) ทั้งสิ้น เคยลองไปดื่มไวน์กันบ้างซึ่งก็ดื่มได้แต่ไม่ชอบเท่า ซิงเกิล มอลต์ ส่วนหนึ่งเพราะหน้าที่การงานต้องให้ดื่มพวกวิสกี้มากกว่าไวน์ พอเกษียณก็เลยเป็นความเคยชิน !
ประกอบกับเมื่อเดือนที่แล้วผมเพิ่งได้ชิม ซิงเกิล มอลต์ ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่โด่งดังในเมืองไทยเท่าใดนัก แต่ในระดับสากลว่าเป็นหนึ่งในยอด ซิงเกิล มอลต์ ของสกอตแลนด์และของโลก เท่าที่ได้ชิมมาหลายครั้งยืนยันได้ว่ารสชาติไม่ได้แพ้ยี่ห้อดังเลย
เกลนกอยน์ (Glengoyne) คือ ซิงเกิล มอลต์ สกอตแลนด์ วิสกี้ ตัวนั้น !
คลังสมบัติ
“Glengoyne’s is a rich and colourful story that will capture the imagination of whisky aficionados near and far. All the right incredients are here to be enjoyed.”
หนึ่งในคำชื่นชม เกลนกอยน์ โดย ดีเรค คูเปอร์ (Derek Cooper) นักเขียนและผู้เชี่ยวชาญ สก็อตช์ วิสกี้ เขียนไว้ในหนังสือ Guide to Whiskies of Scotland ของเขา
แหล่งน้ำที่ใช้กลั่น
Glengoyne มาจากคำว่า Glen Guin หมายถึง Glen of the Wild Geese หรือ หุบเขาแห่งห่านป่า เนื่องจากบริเวณที่โรงกลั่นตั้งอยู่ในอดีต เต็มไปด้วยป่าเขาเขียวขจีและน้ำท่าที่อุดมสมบูรณ์ จึงมีห่านป่ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ที่สำคัญโรงกลั่น เกลนกอยน์ (Glengoyne Distillery) ได้รับการยกย่องว่าเป็น โรงกลั่นซิงเกิล มอลต์ ที่มีความงดงามที่สุดในประเทศสกอตแลนด์ (most beautiful distillery in Scotland) และน่าไปเยือนแห่งหนึ่งของโลก
โรงกลั่น เกลนกอยน์ ถือกำเนิดในปี 1833 ณ หมู่บ้านดัมกอยน์ (Dumgoyne) ทางเหนือของเมืองกลาสโกว์ (Glasgow) ถ้านับในเรื่องของเขตผลิตซิงเกิล มอลต์ ก็จัดอยู่ในเขตไฮแลนด์ (Highland)
โดยโรงกลั่นอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ห่างจากเมืองกลาสโกว์ประมาณ 40 นาที ในฉลากข้างขวดจึงระบุแหล่งผลิตว่า ไฮแลนด์ ซิงเกิล มอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ (Highland Single Malt Scotch Whisky)
Glengoyne Distillery เดิมชื่อ Burnfoot distillery ผู้ก่อตั้งคือ George Connell ต่อมา Burnfoot distillery ตกเป็นของ Archiball G. MacLellen กระทั่งปี 1876 ถูกขายให้กับกลุ่ม Lang Brothers ซึ่งตั้งใจจะใช้ชื่อ Glengoyne แต่เสมียนเกิดเขียนผิดเป็น Glen Guin
เจ้าของ
กระทั่งราวปี 1894-1895 จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Glengoyne โดยในปี 1965 บริษัท Robertson & Baxter Group (Edrington group) เข้ามาซื้อกิจการ
เดือนเมษายน 2003 บริษัท Ian Macleod Distillers Ltd. เข้ามาเป็นเจ้าของ Glengoyne Distillery จนถึงปัจจุบัน
โกดังเก็บวิสกี้ที่สร้างโดย George Connell ยังถูกรักษาไว้จนกระทั่งทุกวันนี้ ถูกดัดแปลงให้เป็นร้านขายของ (Glengoyne Shop) และต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน ซึ่งตกประมาณปีละ 35,000 คน
สูตรเด็ดเคล็ดลับอย่างหนึ่งของเกลนกอยน์ ใช้บาร์เลย์ที่เรียกว่า Golden Promise Barley ซึ่งผลผลิตต่ำแต่คุณภาพดีเยี่ยม เมื่อนำมาเป็นมอลต์ (Malt) ก็ใช้วิธีเป่าลมให้แห้ง (Warm Air) ไม่ใช้วิธีการผ่านการอบด้วยถ่านหินหรือพีท (Peat) เหมือนรายอื่น ๆ
จึงทำให้เกลนกอยน์ ไม่มีกลิ่นของพีทและกลิ่นควัน ปัจจุบันเกลนกอยน์บริหารโดย Ian Macleod Distillers Ltd.และเพิ่มการผลิตจิน (Gin) ด้วย ชื่อ Edinburgh Gin
จริง ๆ แล้ว ซิงเกิล มอลต์ มีการผลิตกันทั่วโลก แต่ความขลังและศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่สกอตแลนด์ ดังนั้นตัวจริงเสียงจริง ข้างขวดต้องมีคำว่า “Single Malt Scotch Whisky”
นั่นหมายความว่าต้องทำจาก Malted Barley ล้วน ๆ (สามารถเติมคาราเมลแต่งสีได้) ต้องกลั่นแบบสองครั้งหรือแบบกลั่นทับ (Pot Still) อันเป็นวิธีกลั่นที่จะสงวนกลิ่นรสของข้าวมอลต์เอาไว้ได้ดีที่สุด
สุดท้ายต้องบ่มในถังไม้โอ๊คอย่างน้อย 3 ปี (แต่ส่วนใหญ่บ่มนานกว่านี้) และถังโอ๊คนั้นต้องมีความจุเกิน 700 ลิตร เป็นต้น
ถังโอ๊คชนิดต่าง ๆ ที่ใช้บ่ม
ส่วนหนึ่งของหม้อกลั่นเกลนกอยน์
ที่ต้องทำความเข้าใจกันคือคำว่า ซิงเกิล มอลต์ (Single Malt) โดยความหมายในเบื้องต้นหมายถึง….วิสกี้ที่หมักและกลั่นจากมอลเต็ดของข้าวบาร์เลย์ (Malted Barley) หรือการเพาะข้าวบาร์เลย์ให้งอกเป็นมอลต์ล้วน ๆ แต่เบื้องลึก 2 คำ Single กับ Malt มีความหมายมากกว่านั้น
- “Single” หมายความว่าทุกหยาดหยดของมอลต์ในขวด มาจากโรงกลั่นเดียว (Single Distillery) เท่านั้น แต่ถ้าผสมกันหลายโรงกลั่นจะเรียกว่า Blended Malt, Vatted Malt หรือ Pure Malt
- “Malt” หมายความว่าวิสกี้นั้นต้องทำจากการทำมอลเต็ด (Malted) ของธัญพืชล้วน ๆ โดยธัญพืชในโลกนี้ใช่ว่าจะสามารถทำมอลเต็ดได้ ที่ทำได้ดีคือข้าวไรย์ (Rye) ข้าวสาลี (Wheat) และข้าวบาร์เลย์ (Barley) แต่ถ้าเป็น Single Malt Scotch Whisky ต้องเป็นข้าวบาร์เลย์เท่านั้น
หลังจากผ่านกระบวนการผลิตแบบคร่าว ๆ แล้วก็มาถึงการดื่ม ซึ่งการดื่มซิงเกิล มอลต์ ให้ได้อรรถรสอย่างแท้จริงนั้น กูรูแนะว่าควรดื่มแบบเพียว ๆ หรืออาจจะใส่น้ำแข็งเล็กน้อย ไม่ควรเติมมิกเซอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นน้ำเปล่าเพียงเล็กน้อย ถ้าได้น้ำแร่จะดีมาก
ที่สำคัญการใส่น้ำสปาร์คกลิ้ง โซดา และ โคคาโคลา ลงไป เป็นการทำลายรสชาติของซิงเกิล มอลต์ จนหมดสิ้น
แหล่งผลิตวิสกี้ของสกอตแลนด์
กลิ่น รสชาติ และ ความยาวในตอนจบ (Aroma, Flavour, Finish) ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญของซิงเกิล มอลต์ โดยทั้งหมดนั้นจะขึ้นอยู่กับแหล่งผลิต ซึ่งประกอบด้วย 4 พื้นที่คือ
- Highland Single Malts มี 2 เขตย่อยคือ Island Single Malts เขตย่อยของ Highland และ Speyside Single Malts ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Highland)
- Islay Single Malts
- Lowland Single Malts
- Campbeltown Single Malts
นั่นเป็นคำจำกัดความของซิงเกิล มอลต์ ต่อไปก็มาถึง “เกลนกอยน์” ที่ผมได้ชิมครั้งล่าสุด ประกอบด้วย 3 รุ่นคือ 15 ปี, 18 ปี และ 21 ปี ซึ่งคนรักซิงเกิล มอลต์ บอกว่าน้ำเนื้อเต็มไปด้วยมิติ กำลังดื่มอร่อย จริง ๆ ในบ้านเรามีรุ่น 12 ปีขายด้วย
เกลนกอยน์ 15 ปี
เกลนกอยน์ 15 ปี (Glengoyne 15 Year Old): เป็นรุ่นที่ทางผู้ผลิตบอกว่าเป็น “The depth and sweetness of dried fruit” คือหนักแน่นแต่หอมหวานด้วยผลไม้ตากแห้ง
- สีทองแดงค่อนข้างเข้ม
- หอมกลิ่นเลมอน ทอฟฟี่ ป๊อบคอร์น ตามด้วยผลไม้ตากแห้ง พวกแอปริคอต และลูกเกด ส่วนผลไม้สุกปกติไม่ได้ตากแห้ง ประกอบด้วย แบล็คเคอร์แรนท์ มะม่วง แอปเปิ้ล คาราเมลในขนมทิรามิสุ ขนมปังกรอบ วานิลลา สไปซีเฮิร์บ อบเชย น้ำผึ้ง
- จบยาวด้วยสไปซี่โอ๊ค สไปซีเฮิร์บ และผลไม้หอมหวาน
เกลนกอยน์ 18 ปี
เกลนกอยน์ 18 ปี (Glengoyne 18 Year Old): เป็นรุ่นที่ “Fresh,malty and spicy”
- สีทองค่อนข้างเข้ม
- หอมกลิ่นเปลือกส้มตากแห้ง วานิลลา น้ำผึ้ง มอลต์ ผลไม้ เช่น สับปะรด มะม่วง แอปริคอต แอปเปิ้ล ครีมมีคัสตาร์ด ขนมปังกรอบ เฮเซลนัท กลิ่นสไปซี่เฮิร์บ กานพลู จันทน์เทศ อบเชย
- จบยาวด้วยครีมมี ถั่วคั่ว คาราเมล มอลต์ และทอฟฟี่ผลไม้
เกลนกอยน์ 21 ปี
เกลนกอยน์ 21 ปี (Glengoyne 21 Year Old): เป็นรุ่นที่เคยได้รับเหรียญทองและรางวัลจากงานประกวดหลายแห่ง และบ่มในถังที่ผ่านการบ่มเหล้าแชร์รี (Sherry) ซึ่งเป็นฟอร์ติไฟด์ ไวน์ ชื่อดังของสเปน 100% ซึ่งเจ้าของบอกว่าเป็นเจ้าแรกในยุโรปที่บ่มในถังที่ผ่านการบ่มแชร์รี 100% สไตล์ของรุ่นนี้คือ “Sultanas and hazelnuts; dried fruits and rich spice”
- สีเหลืองเข้มออกไปทางคอปเปอร์
- หอมกลิ่นขนมปังโดดเด่น ตามด้วยแอปเปิ้ล เมลอนสุก เรดเชอร์รี น้ำผึ้ง บราวน์ชูการ์คาราเมล โอ๊คกรุ่น ๆ เฮเซลนัท วอลนัท โกโก้ สไปซี่เอเชียนเฮิร์บ อบเชย กานพลู ดีปลี
- จบยาวนานด้วยเชอร์รี อบเชย สไปซี่เอเชียนเฮิร์บ แบบนุ่มนวลเนียน เป็นรุ่นที่ถ้าเจอที่ไหนไม่ควรพลาด
เกลนกอยน์ 25 ปี (Glengoyne 25 Year Old): คอนเซปต์ของตัวนี้คือ “Warm, fruity and intense” ถูกแนะนำสู่ท้องตลาดเมื่อปี 2014 แน่นอนรางวัลเพียบจนแทบจะติดข้างฝาไม่หมด
- สีเหลืองอำพันค่อนข้างเข้ม
- ดมครั้งแรกได้กลิ่นแชร์รีจากโอ๊คได้ชัดเจน อันเนื่องจากการบ่มในถังโอ๊คที่ผ่านการบ่มแชร์รี (ฟอร์ติไฟด์ ไวน์ของสเปน) อย่างเดียวนั่นเอง ทอฟฟี่กาแฟ สไปซี่ ลูกเกด มะเดื่อ และส้ม มีกลิ่นอัลมอนด์คั่วและหนังสัตว์กรุ่น ๆ ขณะที่อยู่ในปากและกลืนมีวานิลลา ช็อกโกแลต แชร์รี่และส้มก็ยังอยู่ สไปซี่ ฟรุตเค้ก
- จบยาวด้วยเรดเชอร์รี แบล็คเปปเปอร์ และสไปซี่ เป็นอีกรุ่นที่คอมเพล็กซ์
เรื่องราวและรสชาติของ เกลนกอยน์ ซิงเกิล มอลต์ แห่ง “หุบเขาห่านป่า” ยังมีอีกเยอะ นำมาเล่าสู่กันฟังเป็นบางส่วนเสมือนเรียกน้ำย่อย
นอกเหนือจากนี้คงเป็นภาระของท่านที่จะไปหามาชิมกัน !!







