10 วัน สุดท้ายเส้นตายภาษีทรัมป์

10 วัน สุดท้ายเส้นตายภาษีทรัมป์

ประเทศไทยกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากการเจรจาภาษีตอบโต้ของสหรัฐก่อนถึงเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค.2568 ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กำหนดให้เป็นวันที่เริ่มบังคับใช้อัตราภาษีตอบโต้

    โดยปัจจุบันสหรัฐประกาศอัตราสำหรับสินค้านำเข้าของไทยอยู่ที่ 36% ในขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าคณะเจรจาอย่างเป็นทางการกับผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) มาแล้ว 2 ครั้ง พร้อมกับยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้สหรัฐ
    สำหรับประเทศในอาเซียนที่มีการประกาศอัตราภาษีตอบโต้ออกมาแล้วมี 2 ประเทศ โดยเวียดนามเป็นประเทศแรกถูกประกาศอัตราภาษี 20% ถัดมาเป็นอินโดนีเซียถูกประกาศอัตราภาษี 19% น้อยกว่าเวียดนาม 1% ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่อินโดนีเซียยื่นขอเสนอเพิ่มเติมเพื่อให้ได้อัตราภาษีที่ดีกว่าเวียดนาม โดยข้อเสนอที่เหมือนกันของเวียดนามและอินโดนีเซีย คือ การเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐด้วยการลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเหลือ 0% ในสินค้าทุกรายการ

    ข้อเสนอการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าให้สหรัฐหรือการมีภาษีนำเข้า 0% เป็นข้อเสนอที่ไทยทำตามเวียดนามและอินโดนีเซียไม่ได้ เพราะมีสินค้าหลายรายการที่ไทยมีความจำเป็นต้องปกป้องด้วยอัตราภาษีนำเข้าหรือปกป้องด้วยมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี ซึ่งข้อเสนอของไทยเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่ไทยจะได้อัตราภาษีตอบโต้ต่ำกว่า 20% หรือต่ำกว่าเวียดนามและอินโดนีเซีย ดังนั้นรัฐบาลจึงเตรียมแผนรับมือผลกระทบบนสมมุติฐานดังกล่าวได้เลยแม้ที่ผ่านมาจะมีหลายฝ่ายประเมินว่าไทยจะได้อัตราภาษีต่ำกว่า 20%

    ส่วนการออกมาตรการเพื่อดูแลผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีดังกล่าวนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลได้มีเม็ดเงินจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท จากงบประมาณปี 2568 ที่กันไว้สำหรับดูแลผู้ประกอบการที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง ในเฟสแรกวงเงิน 10,000 ล้านบาท และยังมีเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่นำมาดำเนินการได้อีก 40,000-50,000 ล้านบาท รวมกับงบประมาณปี 2569 ที่อยู่ในการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรที่จะเกลี่ยเพื่อจัดงบประมาณรับมือผลกระทบมากขึ้น
    นอกจากนี้กระทรวงการคลังยืนยันว่าเตรียมการให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีและซัพพลายเชนการส่งออกตลาดสหรัฐวงเงิน 200,000 ล้านบาท ซึ่งประเมินดูแล้วการช่วยเหลืออาจจะไม่เพียงพอหากไทยถูกเก็บอัตราภาษีตอบโต้ตามที่ประกาศมาแล้ว และระยะเวลาที่เหลืออีก 10 วัน คงทำอะไรได้ไม่มาก ดังนั้นรัฐบาลคงต้องมาพิจารณามาตรการบรรเทาและลดผลกระทบจากภาษีทรัมป์ให้ชัดเจนขึ้นเพื่อให้ไทยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด