ไม่พร้อมจะเป็นใหญ่

ไม่พร้อมจะเป็นใหญ่

ในขณะที่หลายวงการมีคนอยากเป็นใหญ่เป็นโตเยอะแยะ จนต้องแก่งแย่งกันด้วยสารพัดวิธี บางวงการกลับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจที่หาคนเก่ง

ที่อยากมาเป็นผู้บริหารไม่ค่อยได้ หรือถึงหาได้ก็ไม่ได้คนเก่งจริง ทั้งๆ ที่วงการนั้นเต็มไปด้วยคนมีฝีมือ แต่ต่างคนต่างอยากเป็นลูกน้อง จนกระทั่งศูนย์เสียศักยภาพในการสร้างสรรค์ให้เกิดความสำเร็จที่เหนือกว่าความคาดหมายได้ คนมีฝีมือไม่ยอมแสดงศักยภาพของตนเอง หรือไม่ก็บริหารอย่างออมมือในทันทีที่ได้นั่งเก้าอี้ผู้บริหาร คนที่เคยเป็นลูกน้องชั้นเยี่ยม กลับกลายเป็นผู้จัดการชั้นแย่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ถ้าวงการนั้นใครขึ้นมาบริหารแล้ว ชีวิตทั้งชีวิตกลายเป็นการงานไปหมด ทุกนาทีกลายเป็นเวลาที่ต้องจัดการสารพัดเรื่อง จากระเบียบการทำงานที่หยุมหยิมไปด้วยกฎกติกาที่มัดแขนขาใครที่มาเป็นหัวหน้าไว้กับงานกระดาษ ที่พลาดนิดเดียวหมายถึงคุกตาราง วงการแบบนี้มักไม่ค่อยได้คนเก่งมาทำหน้าที่ผู้บริหาร เพราะการเป็นผู้บริหารของวงการนี้ หมายถึงความรับผิดชอบต่อสารพัดเอกสาร มากกว่าที่เป็นภาระในการจัดการให้การงานสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลในทุกด้าน ในขณะที่เป็นลูกน้องแล้ว ได้ทำงานตามวิชาชีพของตน ปนกับงานกระดาษเล็กๆ น้อย ๆ ผิดบ้างพลาดบ้างในการทำงานตามวิชาชีพ ก็ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก ในขณะที่ในวันที่เป็นใหญ่ งานกระดาษพลาดนิดเดียว เสียหายไปทั้งชีวิต วงการแบบนี้มักได้คนเก่งไม่จริงมาเป็นผู้นำ แล้วก็ไม่ทำอะไรเลยนอกจากเซ็นแฟ้มกับประชุม กลายเป็นวงการที่เต็มไปด้วยคนมีศักยภาพ แต่ปราศจากความสำเร็จ

วงการที่เต็มไปด้วยการคอยจ้องจับผิด มีคนได้ดีจากการร้องเรียนสารพัดเรื่อง คนร้องเก่งกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ คนทำงานเก่งกลายเป็นเป้าโจมตีจับผิด วงการแบบนี้ยิ่งหาคนเก่งที่อยากเป็นใหญ่เป็นโตได้ยากมาก เพราะรู้กันดีในหมู่คนเก่งว่าไม่มีงานใดที่ปราศจากความผิดพลาด มีแต่งานที่ผิดพลาดแล้วแก้ไขได้เป็นอย่างดี ซึ่งวงการนักจับผิดนั้น ผิดเป็นครูไม่มี มีแต่ผิดนิดเมื่อไหร่ เละคาเก้าอี้เมื่อนั้น วงการนักจับผิดวงการหนึ่ง ผู้บริหารที่เป็นคนเก่งมากๆ ทางวิชาการ ถึงขนาดนั่งนับวันเวลาที่ตนเองจะพ้นหน้าที่ผู้บริหาร ในที่สุดยอมย้ายตนเองไปกินตำแหน่งที่เล็กกว่า เพื่อให้พ้นทุกข์พ้นร้อนกับเช้ารับเรื่องร้องเรียน เย็นรับเรื่องกล่าวโทษ ซ้ำแล้วซ้ำอีกทุกวัน วงการแบบนี้มักได้นักจัดการตามตัวหนังสือมาเป็นใหญ่ งานทุกอย่างเดินตามตัวหนังสือในกฎระเบียบต่างๆ จนหาเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนแทบไม่ได้ แต่งานก็ไม่เกิดเหมือนกัน คือไม่มีการร้องเรียน แต่งานก็ไม่มีความสำเร็จเช่นเดียวกัน ทำงานทุกวันเหมือนวิ่งเป็นวงกลม วิ่งวนอยู่ที่เดิม การงานดูราบรื่น แต่มองเท่าใดก็ไม่เห็นความก้าวหน้าใด ๆ

วงการที่ผู้บริหารไม่มีอำนาจจริงๆในการจัดการ ได้ตำแหน่งก็จริง แต่การนำจริงๆ กลับไปอยู่กับใครบางคน ที่ไม่มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆ ใครบางคนนั้นอาจเคยนั่งเก้าอี้คนใหญ่โตในอดีตที่ผ่านมา พ้นเก้าอี้ไปแล้วในวันนี้ แต่ยังกุมอำนาจจริงๆ ไว้อยู่ ไม่มีตำแหน่งก็จริง แต่เสียงดังกว่าคนมีตำแหน่ง เป็นผู้คุ้มกฎกานรงาน ใครเก่งแค่ไหนก็ตามที่มานั่งเก้าอี้สืบต่อมาจากท่าน ล้วนแต่ต้องทำตามท่าน จะขยับอะไรที่ตนคิดว่าดี แต่ท่านคิดว่าไม่ดี ไม่มีหนทางจะทำได้ คนเก่งคนนั้นเลยเป็นได้แค่ตุ๊กตาประดับเก้าอี้บริหาร ส่วนการงานทั้งหลายก็ว่าไปตามท่านสั่ง ซึ่งคนเก่งจริงมักอยูในสภาพนี้ไม่ค่อยได้ สักวันก็ต้องแตกหักกับท่าน ดังนั้นวงการแบบนี้ได้แต่คนขี้ประจบทีอ่อนด้อยฝีมือมานั่งเก้าอี้บริหาร งานหลักคือประจบประแจง ควบคู่กับกดหัว ส่วนจะประจบใคร กดหัวใครนั้นคงนึกได้ไม่ยาก

ที่หาคนเก่งมาบริหารได้ยากที่สุด น่าจะเป็นวงการที่เป็นซูเปอร์ไซโล คือเต็มไปด้วผู้ยิ่งใหญ่ในสารพัดส่วนงาน ท่านเหล่านั้นใหญ่จนใครที่มาบริหาร ต้องหมดเวลาไปกับการเอาอกเอาใจท่านเหล่านั้น ซึ่งตามสายงานแล้วผู้บริหารใหญ่กว่าแน่นอน แต่ใหญ่แบบสั่งใครไม่ได้ ตรงข้ามกลับกลายเป็นการบริหารตามใจผู้ยิ่งใหญ่แห่งนานาไซโล วงการนี้ได้แค่คนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมาเป็นผู้บริหาร ไม่รู้อะไรเลยนั่นแหละที่ทำให้เจ้าไซโล ต่างคนต่างชี้ชะตาวันหน้าของวงการได้