AI Winter is Coming (ตอน2)

หนึ่งปีที่ผ่านมา ผู้เขียนเคยได้กล่าวถึง AI Winter หรือฤดูหนาวของ AI ซึ่งก็หมายถึงช่วงเวลา ที่เกือบทุกภาคส่วน ได้ยุติการให้ความสำคัญกับ AI

เพราะ Winter สำหรับประเทศตะวันตกแล้ว หมายถึงฤดูกาลที่ อดอยาก ลำเค็ญ ไร้ผลผลิต และปราศจากการเคลื่อนไหว ซึ่งผิดกับประเทศไทย ที่คนส่วนใหญ่ มักอยากหนีอากาศร้อนไปสู่ความหนาวเย็นที่ประเทศอื่น

Hype หรือกระแสที่ถูกสร้างขึ้นมาจนเกินความเป็นจริง เป็นคุณลักษณะที่สำคัญของการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล

ไม่ว่าจะเป็น ดอทคอมในปี 2000 หรือ บิทคอยน์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ก็เป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญสำหรับ Hype

หรือไม่ว่าจะเป็น บล็อกเชน หรือสตาร์ทอัพ ในบางกรณี ก็เริ่มเกิดข้อถกเถียงว่า อาจจะเป็น Hype

แต่ที่แน่ๆ คือ ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ AI ได้เคยถูกพิสูจน์ว่าเป็น Hype จนกระทั่งเข้าสู่ AI Winter หรือฤดูหนาวของ AI มาแล้วอย่างน้อย 5 ครั้ง

และกำลังมีการตั้งข้อสังเกตว่า เราอาจจะกำลังเข้าสู่ AI Winter อีกครั้งหนึ่งในอีกไม่นานนี้ เมื่อมีบทพิสูจน์ว่า เราอาจไปไม่ถึงสิ่งที่นักจินตนาการได้ขายฝันเอาไว้ ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีในระยะสั้น จนกระทั่งทุกภาคส่วนได้ยุติการให้ความสำคัญและการลงทุนใน AI อย่างน้อยก็ในระยะสั้น

ซึ่งสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นดังกล่าว ก็จะส่งผลทำให้คำว่า AI กลายป็นสิ่งที่เชย จนนักขายฝันไม่กล้าเอ่ยถึงคำว่า AI อย่างน้อยก็ต่อไปอีกระยะหนึ่ง

โชว์เคสที่สำคัญที่สุด ที่บ่งชี้ความมีศักยภาพของ AI ในยุคปัจจุบัน คงต้องหนีไม่พ้น Self-Driving Cars หรือรถยนต์ที่บังคับตัวเองด้วย AI

หลายปีที่ผ่านมา เกือบทุกบริษัท ทั้งที่เป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจดิจิตอล หรือที่เป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจยานยนต์ ต่างก็ได้มีการลงทุนอย่างมหาศาลใน Self-Driving Cars

แต่ไม่นานมานี้ ฟอร์ด ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจยานยนต์ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้มีความคาดหวังที่สูงเกินความเป็นจริงสำหรับ Self-Driving Cars ถึงแม้ว่าบริษัทจะยังมีเป้าหมายที่จะนำรถยนต์ที่บังคับตัวเองด้วย AI ออกสู่ตลาดภายในปี 2021 แต่รูปแบบของการใช้งานจริงจะมีขอบเขตที่แคบกว่าที่ได้เคยคาดหวังเอาไว้ เพราะบริษัทได้ค้นพบว่าโจทย์ของ Self-Driving Cars นั้นมีความสลับซับซ้อนมาก

แม้แต่ อูเบอร์ ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจดิจิทัล ที่มี Self-Driving Cars เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญสำหรับความอยู่รอดของบริษัท ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า Self-Driving Cars จะต้องใช้เวลาที่ยาวนานกว่าที่เคยคิด และไม่สามารถคาดคะเนช่วงเวลาที่แน่นอนได้

เช่นกัน แม้แต่ เวย์โม Self-Driving Cars ของกูเกิล ที่เคยเปิดตัวแท็กซี่ที่บังคับตัวเองด้วย AI ก็ยังไม่ได้ขยายขอบเขตุการใช้งาน เกินกว่าพื้นที่ตั้งต้น ที่ถูกจำกัดเอาไว้ในการให้บริการ

อย่างไรก็ดี Hype เมื่อมองย้อนกลับจะมีบทพิสูจน์ที่ชัดเจน ว่าอะไรเป็น Hype หรือไม่ใช่ Hype  เช่น ดอทคอมในปี 2000 หรือ บิทคอยน์ ต่างก็มีบทพิสูจน์ไปแล้ว แต่เมื่อมองไปข้างหน้า กลับเป็นสิ่งที่ยากที่จะคาดคะแน ว่ากระแสของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เป็นสิ่งถูกสร้างขึ้นมาจนเกินความเป็นจริงหรือไม่ เพราะบทพิสูจน์ยังไม่ปรากฎ

แนวทางของธุรกิจทั่วไป จึงเป็นการลงทุนตามกระแส เพื่อไม่ให้ตกขบวน แม้ว่าสิ่งนั้นจะบรรลุความคาดหวังหรือไม่

อย่างไรก็ตาม แม้ Game of Thrones จะเข้าสู่ตอนอวสานแล้ว และ AI ถึงจะต้องเข้าสู่ AI Winter ไม่ว่าช้าหรือเร็ว แต่ AI ก็ต้องกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ AI ได้กลับมาเกิดใหม่หลังจาก AI Winter ทุกครั้ง เมื่อเทคโนโลยีมีความพร้อมอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็อาจเลยช่วงอายุการทำงานของคนๆหนึ่งไปแล้ว