'โลกสองใบ' ของชายที่รวยที่สุดในโลก

หนึ่งในข่าวคราวการหย่าร้างที่ฮือฮาที่สุดในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คือกรณีรักร้าวระหว่าง เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งเอมะซอน ชายที่รวยที่สุดในโลก กับ แม็คเคนซี ภรรยาของเขา

แม็คเคนซีเป็นคู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเจฟฟ์มาตั้งแต่เขายังไม่รวย ทั้งคู่เคยทำงานด้วยกันในวอลล์สตรีทกับบริษัทเฮดจ์ฟันด์รายหนึ่ง ก่อนจะพบรักและแต่งงานกัน

จากนั้น ด้วยการสนับสนุนของแม็คเคนซี ทำให้เจฟฟ์ตัดสินใจลาออกจากบริษัท โดยทิ้งงานที่มั่นคงและเงินเดือนสูงลิบลิ่วมาก่อตั้งเว็บไซต์ขายหนังสือ 'เอมะซอนด็อทคอม' แม็คเคนซีบอกว่า ตัวเธอไม่ใช่นักธุรกิจ แต่ตอนที่เจฟฟ์มาเล่าไอเดียของเขา เธอรู้สึกได้ถึงความปรารถนาอันแรงกล้

เธอบอกว่า .. จะมีอะไรดีไปกว่าการได้เห็นคนที่ตัวเองรักลุกขึ้นท้าทายความฝันโดยที่ตัวเราเองเป็นส่วนหนึ่งของมันอีกเล่า ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า หากไม่มีแม็คเคนซี ทุกวันนี้โลกคงไม่รู้จักมหาอาณาจักรค้าปลีกออนไลน์ที่ชื่อ 'เอมะซอน'

แต่แล้ว เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เจฟฟ์ได้ทวีตข้อความว่า เขากับแม็คเคนซี ซึ่งแต่งงานกันมา 25 ปี กำลังจะจบชีวิตสมรสลงในเวลาอันใกล้ โดยแท็บลอยด์ National Enquirer เปิดเผยว่า เจฟฟ์ไปมีความสัมพันธ์กับ ลอเรนซ์ ซานเชซ ผู้ประกาศข่าวช่องฟ็อกซ์ทีวี ว่ากันว่าสื่อจอมแฉรายนี้มีทั้งข้อความและภาพลับ อันนำไปสู่การแบล็คเมล์และต่อสู้กันทางกฏหมายระหว่างสองฝ่ายในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งเจฟฟ์และแม็คเคนซีก็จรดปากกาหย่าร้างกันเป็นที่เรียบร้อย โดยทั้งคู่สามารถหาข้อสรุปกันได้ด้วยดี กล่าวคือ ฝ่ายหญิงจะเก็บหุ้นเอมะซอนของครอบครัวไว้ 25% อีก 75% เป็นของเจฟฟ์ ขณะที่หุ้นวอชิงตัน โพสต์ และ บลู ออริจิ้น แม็คเคนซียอมยกให้อดีตสามีทั้งหมด

ท้ายที่สุด เจฟฟ์ยังคงรวยที่สุดในโลกเหมือนเดิม แม้จะสูญเสียความมั่งคั่งไป 35,600 ล้านเหรียญ ขณะที่แม็คเคนซีกลายเป็นสุภาพสตรีที่รวยเป็นอันดับสี่ของโลก

ส่ิงที่ผมมองว่าน่าประทับใจที่สุด คือคำพูดของเจฟฟ์ที่กล่าวขอบคุณ 'น้ำใจ' ของอดีตภรรยา และบอกด้วยว่า เขา 'ตั้งหน้าตั้งตารอความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในฐานะเพื่อนและพ่อแม่ของลูกร่วมกัน'

ช่วงหลังๆ ผมได้ยินข่าวเซเล็บไทยมี 'โลกสองใบ' ซึ่งสังคมก็โดดเข้าไปพิพากษากันให้วุ่นวาย แต่หากศึกษาจากกรณีของครอบครัวเบซอส ไม่ว่าใครจะถูกหรือผิด สิ่งที่คนนอกพึงกระทำ น่าจะเป็นการถอยห่าง อย่าไปมุ่งลงโทษหรือไล่ล่า ซึ่งไม่ได้เป็นผลดีอะไรขึ้นมาเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกๆ ของพวกเขา

ปล่อยให้คู่กรณีเขาหาทางออกกันเอง อาจได้บทสรุปที่น่าพึงพอใจ เหมือนกรณี 'โลกสองใบ' ของเจฟฟ์ เบซอส ก็เป็นได้