กฎหมายที่เกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศฉบับใหม่
สืบเนื่องจากข้อมติความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และข้อมติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง กำหนดให้ประเทศต่างๆ ต้องมีมาตรการภายในประเทศ
ในการป้องกันการแพร่ขยายของอาวุธ ที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตมนุษย์สัตว์ในวงกว้าง หรือต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง ตลอดจนสินค้าทั่วไปที่สามารถนำไปประกอบพัฒนาเสริมสร้างสนับสนุนเกี่ยวกับอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงได้ ซึ่งประเทศไทยในฐานะสมาชิกต้องปฏิบัติตาม แต่เนื่องจากกฎหมายที่มีอยู่เดิมยังไม่สามารถกำหนดมาตรการในการควบคุมป้องกันตามมติดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์
กระทรวงพาณิชย์จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงเพื่อดำเนินการประกาศใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งบัดนี้ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)แล้ว เมื่อวันที่1 ก.พ. 2561 เมื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป เว้นแต่มาตรา 3 ถึงมาตรา 11 ซึ่งเป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับคำนิยาม คณะกรรมการ องค์ประกอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ฝ่ายเลขานุการ เพื่อเตรียมการให้มีผลปฏิบัติตามกฎหมายนี้ไว้ล่วงหน้า ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไปฃสาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้
คำนิยามที่สำคัญ
“อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง” หมายความว่าอาวุธนิวเคลียร์อาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี หรืออาวุธอื่นใดซึ่งมีอานุภาพที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ สัตว์ หรือพืชจำนวนมาก หรือต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับอาวุธดังกล่าวรวมทั้งระบบการส่งอาวุธ และส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ของอาวุธนั้นด้วย
“สินค้าที่ใช้ได้ทั้งสองทาง” หมายความว่าสินค้าที่นำไปใช้ได้ทั้งในทางพลเรือนและทางทหาร โดยสามารถนำไปใช้ออกแบบ พัฒนา ผลิตใช้ ดัดแปลง จัดเก็บ หรือลำเลียงอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงหรือนำไปกระทำด้วยประการใดใดเพื่อให้ได้มาซึ่งอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
“กิจกรรมควบคุม” หมายความว่า การส่งออก การส่งกลับ การถ่ายลำ การผ่านแดน การเป็นนายหน้าและให้หมายความรวมถึงการดำเนินการใดฯ เพื่อแพร่ขยายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายสูง และหากจะให้หมายถึงการนำเข้า ก็ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
เนื่องจากในส่วนที่เกี่ยวการควบคุมบรรดาอาวุธยุทธภัณฑ์ มี พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ ซึ่งหมายถึง อาวุธเครื่องอุปกรณ์ของอาวุธสารเคมี สารชีวะ สารรังสี หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่อาจนำไปใช้ในการรบหรือการสงครามได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประกาศในราชกิจจานุเบกษา ควบคุมโดยตรงอยู่แล้ว สำหรับสารเคมีที่เป็นอันตรายก็มีกฎหมายวัตถุอันตรายควบคุม
และ เมื่อพิจารณาจากเนื้อหาบทบัญญัติของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ อาจกล่าวได้ว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้มุ่งควบคุม สินค้าที่ใช้ได้ทั้ง 2 ทาง คือใช้ได้ในทางทหารในการทำสงครามและการรบ และทางพลเรือนคือใช้ในอุตสาหกรรมและธุรกิจการค้า การควบคุมก็มิได้เข้มงวดแบบยุทธภัณฑ์ คือ อาจกำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต หรือต้องมีใบรับรองว่าสินค้านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ตามมาตรา 12(1) หรือกำหนดมาตรการอื่นใด เพื่อประโยชน์ในการควบคุม ตามมาตรา12(3)ก็ได้
การกำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต
ในกรณีกำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตก็ต้องกำหนดกิจกรรมควบคุม ตามคำนิยามข้างต้นสำหรับสินค้าดังกล่าวด้วย อันมีผลห้ามมิให้ผู้ใด ส่งออกส่งกลับ ถ่ายลำ นำผ่านแดน หรือกระทำการใดฯเพื่อแพร่ขยายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่มีการทำลายล้างสูง รวมทั้งทำการเป็นนายหน้า คือ เจรจา จัดการหรือทำความตกลงให้เกิดการซื้อขายสินค้านั้น หรือทำการจัดหาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงจากต่างประเทศจนเป็นผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้าดังกล่าวจากประเทศหนึ่งไปสู่อีกประเทศหนึ่ง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศหรือผู้ได้รับมอบหมาย (ซึ่งอาจมอบหมายให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานอื่นที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงกับสินค้านั้นเป็นผู้พิจารณาอนุญาตก็ได้)
การขอ อนุญาต ประเภทของใบอนุญาต การออกใบอนุญาต แบบใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กำหนด ซึ่งอาจกำหนดให้มีการตรวจสอบระบบงานควบคุมสินค้านั้นด้วยก็ได้ โดยต้องกำหนดระยะเวลาการดำเนินการในแต่ละขั้นตอนให้ชัดเจนด้วย
การกำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องมีการรับรองว่าสินค้านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง
ในกรณีที่ประกาศกำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องมีการรับรองว่าสินค้านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และมีการประกาศกำหนดกิจการควบคุมสำหรับสินค้าที่ต้องมีการรับรองแล้ว ก็มีผลเป็นข้อห้ามมิให้บุคคลใด ส่งออกส่งกลับ ถ่ายลำ นำผ่านแดน หรือกระทำการใดฯเพื่อแพร่ขยายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง รวมทั้งทำการเป็นนายหน้าคือ เจรจา จัดการหรือทำความตกลงให้เกิดการซื้อขายสินค้านั้น หรือทำการจัดหาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงจากต่างประเทศจนเป็นผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายสินค้าดังกล่าวจากประเทศหนึ่งไปสู่อีกประเทศหนึ่ง ทำนองเดียวกับสินค้าที่ถูกกำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาต แต่กรณีนี้ไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่ดำเนินการให้มีการรับรองสินค้านั้น ก็สามารถกระทำกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นได้
การรับรองสินค้า แบบการรับรอง และอายุการรับรองให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
ผู้รับรองต้องขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการค้าต่างประเทศและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับผู้ขออนุญาต
การกำหนดมาตรการอื่นใดเพื่อประโยชน์ในการควบคุม
นอกจากนี้ ยังอาจกำหนดมาตรการอื่นใด เพื่อประโยชน์ในการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงซึ่งอาจรวมถึงมาตรการเกี่ยวกับสินค้าที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการใช้สุดท้ายหรือผู้ใช้สุดท้ายที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอนุภาพทำลายล้างสูง
เมื่อมีการประกาศกำหนดมาตรการดังกล่าวข้างต้น มีผลห้ามมิให้ผู้ใดกระทำกิจกรรมเช่นเดียวกับกรณีเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตหรือต้องมีการรับรอง แต่ไม่ต้องขออนุญาตหรือดำเนินการให้มีการรับรอง เพียงแต่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดก็สามารถกระทำกิจกรรมดังกล่าวได้
ความเห็น เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่และมีผลโดยตรงต่อผู้ประกอบกิจการไม่ว่าจะเป็นการผลิต ส่งออก หรือค้าหรือนำเข้าสินค้าที่อาจใช้ได้ทั้ง 2 ทาง ซึ่ง ณ ขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูล ที่ชัดเจนที่ให้เกิดความเข้าใจว่าสินค้าที่ใช้ได้ 2 ทางเป็นอย่างไร มีอะไรบ้าง รวมตลอดถึงการรับรองว่าเป็นสินค้าที่ไม่เกี่ยวกับกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงคือ ผู้ประกอบการต้องรับรองเอง หรือมีหน่วยงานหรือองค์กรใดเป็นผู้ให้การรับรอง ซึ่งก็ต้องติดตามเมื่อพ.ร.บ.นี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว คง มีการประชุมเตรียมการปฏิบัติการให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.นี้ ก็อาจมีการประชาสัมพันธ์ชี้แจงทำความเข้าใจให้ผู้เกี่ยวข้องต้องเตรียมตัวปฏิบัติก็ได้